ลัดฟ้าไปทดสอบ MICHELIN Pilot Sport 4S ยางรถยนต์สมรรถนะสูงพิเศษรุ่นใหม่ ก่อนเปิดตัวในไทย ไกลถึง อาบูดาบี

ทีมงาน ออโต้สปินน์ ได้รับเกียรติ์จากทาง มิชลิน ประเทศไทย เชิญเข้าร่วมทดสอบยางสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูงรุ่นใหม่ในตระกูล Pilot Sport กับรุ่น 4S ไกลถึง กรุงอาบูดาบี

จากความสำเร็จของยางสปอร์ตรุ่นก่อนหน้าอย่าง MICHELIN Pilot Sport 4 ที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี รวมไปถึงประสิทธิภาพการใช้งานที่ยอดเยี่ยม ที่ได้เคยทดสอบไปก่อนหน้านี้แล้ว สามารถอ่านบททดสอบจากทีมงาน ออโต้สปินน์ ได้ที่นี่

จึงเกิดเป็นอย่างสปอร์ตสำหรับรถยนต์สมรรถนะสูง ในชื่อ Pilot Sport 4S ซึ่งหากใครไม่ทราบอาจจะคิดว่าเป็นยางที่ต่อยอดมาจาก Pilot Sport 4 โดยอัพเกรดเพิ่มเติมประสิทธิภาพให้มากขึ้น

แต่จริงๆ แล้วป็นยางที่พัฒนาขึ้นมาใหม่เพื่อตอบโจทย์รถยนต์สมรรถนะสูง โดยจะทำตลาดแทนที่ MICHELIN Pilot Super Sport ยางที่ได้รับการยอมรับจากทั่วโลกในฐานะยางสมรรถนะสูงที่มีชื่อเสียงมายาวนาน

ซึ่งรายละเอียดหลักๆ ทั้งสเปค คุณสมบัติ เทคโนโลยีใหม่ๆ และราคา ต้องรอการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยอีกครั้ง ในช่วงเดือน กรกฎาคม นี้

ซึ่งในวันนี้จะมาเล่าประสบการณ์การทดสอบยางสมรรถนะสูงรุ่นใหม่อย่าง Pilot 4S รุ่นนี้ให้ทราบก่อนที่จะมีการเปิดการขายในบ้านเรา โดยหลักๆ จะมาเล่าให้ฟังถึงฟิลการขับขี่ และสมรรถนะของยางที่สามารถรีดออกมาได้

โดยการทดสอบในครั้งนี้ได้ทดสอบกันภายในสนาม ยาส มารีน่า เซอร์กิต (Yas Marina Circuit) กรุงอาบูดาบี สนามที่ขึ้นชื่อว่ามีความสวยงามและมาตรฐานระดับสูงโดยจะจัดการแข่งขันรถยนต์สูตร1 หรือ F1 อยู่เป็นประจำ

การทดสอบทั้งหมดอยู่ในความปลอดภัยระดับสูงเนื่องจากเป็นสนามปิด รวมไปถึงทีมงานและทีมผู้ดูแลและผู้เชียวชาญ ได้ดูแลกันอย่างใกล้ชิดเพื่อจะได้ทดสอบกันอย่างเต็มที่

เริ่มต้นทดสอบโดยยาง MICHELIN Pilot Sport 4S รัดอยู่บนล้อขนาด 235/35 R19 ทดสอบอยู่บนรถสมรรถนะสูงอย่าง โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ อาร์ สปอร์ตแฮทช์แบค ที่พกแรงม้ามาถึง 292 แรงม้า พร้อมแรงบิดมหาศาลถึง 379 นิวตันเมตร

ซึ่งจะ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ อาร์ ที่ติดตั้งยาง Pilot Sport 4S และคันที่ติดตั้งยางต่างแบรนด์ในเซกเมนต์เดียวกัน สเปคและขนาดเท่ากัน ให้ได้ทดสอบถึงความแตกต่างกันแบบจัดเต็ม

เริ่มทดสอบกันที่ยางต่างแบรนด์ก่อน สเตจการทดสอบจะมีทั้งการสลาลอมด้วยความเร็วระดับ 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หลังจากนั้นมาต่อด้วยการเข้าโค้งด้วยความเร็วสูง การเบรกกระทันหันจนรถหยุดสนิทจากความเร็วระดับ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป และการทดสอบการยึดเกาะถนนการขับขี่บนโค้ง S ด้วยความเร็วสูง

ซึ่งยางต่างแบรนด์ก็สามารถทำได้ตามสมรรถนะและซีรีส์ของยางระดับสูง เมื่อทดสอบเสร็จก็สลับรถมาขับ โฟล์คสวาเกน กอล์ฟ อาร์ คันที่ติดตั้ง Pillot Sport 4S ทันที ด้วยสถานีการทดสอบเดียวกัน

สิ่งที่แปลกใจหลังจากทดสอบสถานีแรกอย่างการ สลาลอม ด้วยความเร็ว 60 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จนผมต้องถามทีมสตาฟผู้ดูแลที่นั่งไปด้วยระหว่างการทดสอบชาวสิงค์โปร ว่าทั้งคู่เป็นอย่างในเซกเมนต์เดียวกันจริงๆ หรือ ?

ไม่ว่าจะด้วยเทคโนโลยีการพัฒนาการผลิต หรือคุณภาพยางสูตรพิเศษ อะไรก็ตามแต่ของ Pilot Sport 4S ทันทีที่ผมทำการ สลาลอม อาการไถลของรถยนต์จากแรงเหวี่ยงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด ยางมีการยึดเกาะถนนที่มากกว่า

ความคล่องตัว ช่วยให้การขับขี่บนสนามมีความง่ายดายและสบายกว่าอย่างเห็นได้ชัด การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงรู้สึกถึงความมั่นใจในการขับขี่มากขึ้น

ต่อด้วยการเบรกแบบกระทันหันจากความเร็วระดับ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทันทีที่ผมกระทืบเท้าลงแป้นเบรกอย่างรุนแรง จนระบบ ABS ทำงานและรถยนต์จอดสนิท ระยะเบรกบนพื้นแห้งที่สั้นกว่าทิศทางและความมั่นคงเสถียรภาพรถยนต์ที่มีความเพี้ยนน้อยกว่าจากการเบรกอย่างเห็นได้ชัด

ต่อด้วยการขับขี่ในโค้ง S ด้วยความเร็วสูงเพื่อจะวนกลับมาสู่หน้าสถานีเพื่อให้ผู้ทดสอบท่านอื่นขับขี่ต่อไป ผมพยายามใช้ความเร็วเต็มทีเพื่อการทดสอบ อาการต่างๆ ของพวงมาลัย ด้วยความมั่นใจสูงเนื่องจากการควบคุมรถง่ายและสบายมากยิ่งขึ้น

ซึ่งโดยรวมถือว่ามีความแตกต่างจนเห็นได้ชัดเลยทีเดียวกับยาง Pilot Sport 4S รุ่นนี้ ที่ผลิตขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานของรถสมรรถนะสูงพิเศษ และทาง มิชลิน ก็สามารถตอบโจทย์รถยนต์ประเภทนี้ได้จริงๆ เนื่องจากประสิทธิภาพเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็นจริงๆ สำหรับยางรุ่นนี้

ด้วยความตั้งใจจากการพัฒนา รวมไปถึงความแม่นยำของการเลือกใข้ส่วนผสมของผู้เชี่ยวชาญ ทำให้เนื้อยางมีสูตรพิเศษเฉพาะตัวรวมไปถึงการออกแบบดอกยางเพื่อการตอบสนองที่ฉับไวเป็นพิเศษ ช่วยให้หน้ายางมีพื้นที่สัมผัสพื้นผิวถนนได้เต็มที่การขับขี่ทุกสภาพพื้นผิวไม่ว่าจะเป็นแบบแห้ง หรือเปียก

บังคับเลี้ยวได้แม่นยำ ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Response ที่ช่วยให้การส่งถ่ายแรงบังคับเลี้ยวเพื่อควบคุมรถให้เป็นไปได้อย่างเต็มศักยภาพ โดยใช้เข็มขัดรัดหน้ายางแบบไฮบริดที่ผลิตจากเส้นใยอะรามิดและไนลอน

เทคโนโลยี Bi-Compound ที่มีการผสมผสานการเลือกใช้เนื้อยางที่แตกต่างกันระหว่างเนื้อยางด้านในและเนื้อยางด้านนอก โดยเนื้อยางด้านนอกใช้อิลาสโทเมอร์ไฮบริดช่วยยึดเกาะการขับขี่บนถนนแห้ง

ในส่วนเนื้อยางด้านในได้เลือกใช้เนื้อยางสูตรใหม่พิเศษที่ใช้ส่วนผสมอย่าง ซิลิกา และฟังก์ชั่นนอล อิลาสโทเมอร์ ที่จะช่วยให้ยางยึดเกาะถนนแบบเปียกมากยิ่งขึ้นซึ่งถือว่าสำคัญและตอบโจทย์ต่อการขับขี่บนพื้นผิวในทุกรูปแบบและสามารถรองรับรถยนต์สมรรถนะสูงให้มีการขับขี่ที่มั่นคง และมีเสถียรภาพสูง

นอกจากนี้ Pilot Sport 4S ยังเลือกใช้เทคโนโลยี Premium Touch เช่นเดียวกับ Pilot Sport 4 กับการเลือกใช้พื้นผิวแบบกำมะหยี่ในส่วนของลวดลายบริเวณแก้มยาง

ซึ่งทำให้แก้มยางยังคงความสวยงามและพรีเมี่ยมอยู่ตลอดเวลา แม้จะมีอายุการใช้นาน หรือขับขี่ไปในพื้นถนนที่สกปรก ก็ยังสวยงาม อีกทั้งยังมีความโดดเด่นจากการเฉดสีที่ตัดกันระหว่างสีดำของกำมะหยี่และสีของยางที่ตัดกันอย่างลงตัว

หลังจากนี้ก็เป็น สถานี Touring Car กับรถแข่งอย่าง Renault Clio Racing Car ที่มาพร้อมแรงม้าถึง 220 แรงม้า พร้อมน้ำหนักรวมเพียง 1 ตันเท่านั้น เนื่องจากถอดอุปกรณ์ต่างๆ ออกหมดตามสไตล์รถแข่ง

การขับขี่แบบดิบๆ ไร้ระบบช่วยเหลือทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเบรก ABS พวงมาลัยพาวเวอร์ โดยยางที่ติดตั้งในสถานีนี้เป็นยาง MICHELIN Full Racing Slick ขับขี่กันไปอย่างสนุกสนานและมั่นใจ

จบที่สถานีที่รอคอยกับรถยนต์แบบ ซิงเกิ้ล ซีส หรือรถยนต์ ฟอร์มูล่า 4 นั่นเอง กับสเปคเครื่องยนต์ 4 สูบ ขนาด 1,600 ซีซี ที่ให้กำลังแรงม้าที่ 160 แรงม้า แรงบิด 163 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พร้อมรัดด้วยยาง MICHELIN Racing Slick ให้ได้ทดสอบความเร้าใจและประสบการณ์ใหม่ที่คนทั่วไปยากที่ได้จะสัมผัส

สำหรับยางสมรรถนะสูงพิเศษ MICHELIN Pilot Sport 4S จะเปิดอย่างเป็นทางการพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป ที่ เครือข่ายศูนย์บริการรถยนต์ครบวงจร ไทร์พลัส และร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ MICHELIN ทั่วประเทศ โดยมียางเส้นผ่านศูนย์กลาง 19 และ 20 นิ้ว ให้เลือกรวมทั้งสิ้น 32 ขนาด