ทดสอบ MINI Countryman รุ่นใหม่
สัมผัสแรกกับการทดสอบการขับขี่ New MINI Countryman รุ่นใหม่ทั้งเครื่องยนต์ 3 สูบ 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์ 2 ลิตร กับตัวถังที่ใหญ่ขึ้น ออพชั่นจัดเต็มมากยิ่งขึ้น
หากพูดถึงรถยนต์แบรนด์ MINI ทุกคนต้องนึกถึงรถแฮทช์แบ็กคันจิ๋วสุดน่ารัก ที่มาพร้อมลวดลายสีสันจี๊ดจ๊าด บางคันก็เป็นสีสันแบบทูโทน บางคันก็มีการตกแต่งหลังคาด้วยลวดลายธงชาติอังกฤษ ซึ่งทุกคันล้วนแล้วแต่สร้างสีสันให้กับท้องถนนได้เป็นอย่างดี
และอีกประการหนึ่งที่แฟนๆ MINI น่าจะทราบกันดีคือรถยนต์ MINI จะมีสไตล์การขับขี่ที่แตกต่างไปจากรถยนต์คันอื่นๆ นั่นคือฟิวการขับขี่แบบขับ Go-Kart Feeling ที่เน้นความสนุกสนานในการขับขี่ความกระชับคล่องแคล่วและอัตราการเร่งที่ทันใจ ทั้งหมดที่พูดมานั้นคือเสน่ห์ของความเป็น MINI
และในประเทศไทยหลังจากที่ได้มีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการไปก่อนหน้านี้แล้วกับรถยนต์แฮทช์แบกสุดน่ารักรุ่นพี่ใหญ่ที่ขนาดตัวถังไม่ MINI ตามชื่อสักเท่าไรกับ New MINI Countryman รุ่นใหม่เอี่ยมกับการอัพเกรดหลายๆ อย่างให้น่าใช้งานมายิ่งขึ้น
เริ่มต้นกันที่ภายนอกกับขนาดตัวถังที่มีมิติใหญ่ขึ้น สวยงามลงตัวมากยิ่งขึ้น
สำหรับ New Countryman คันนี้คงจะเรียกว่า MINI ก็ไม่เต็มปากสักเท่าไรแล้วเนื่องจากขนาดมิติตัวถังขนาดใหญ่ กับทรงรถยนต์แบบแฮทช์แบก 4 ประตู ที่ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานและความเป็นรถยนต์ครอบครัวมากยิ่งขึ้น
ดีไซน์หลักๆ ยังคงมีความเป็น MINI อยู่อย่างเต็มเปี่ยม ไม่ว่าจะเป็นเส้นสายรถยนต์ โครงสร้างตัวถังที่มองมุมไหนก็รู้ว่าเป็น MINI สีสันที่ยังคงมีเสน่ห์เช่นเคยด้วยสีสันตัวถังแบบทูโทน และลวดลายต่างๆ นาๆ บนตัวถังสไตล์รถยนต์อังกฤษ
แต่รุ่นใหม่นี้มีการขัดเกลาเพิ่มเติมความหล่อเหลาและความลงตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นชุดโคมไฟหน้าดีไซน์ใหม่พร้อมเส้นไฟ DRL แบบวงแหวนครั้งแรก ทางด้านขนาดตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่า Countryman รุ่นก่อนในทุกมิติ
ไม่ว่าจะเป็นความยาวตัวถังที่เพิ่มมากขึ้นถึง 20 เซนติเมตร ความกว้างที่เพิ่มมากขึ้นอีก 3 เซนติเมตร ฐานล้อที่ยาวขึ้น 7.5 เซนติเมตร ซึ่งโดยรวมๆ ทำให้ Countryman โฉมใหม่รุ่นนี้ บึกบึนสวยงาม และโดยสารสบายมากขึ้นกว่าเดิม แต่ก็ยังไม่ทิ้ง Go-Kart Feeling
ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว และ 17 นิ้วตามรุ่นมีให้เลือกลวดลาย หรือจะเลือกเป็นสีดำเงาพิเศษเพื่อให้ตัดกับสีสันบนตัวรถยนต์ก็สามารถสั่งได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
ภายในกว้างขวางมากกว่าเดิม การตกแต่งยกคงแสดงให้เห็นถึงความสนุกสนานสะอาดตา
สำหรับ All-New Countryman ด้วยขนาดมิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้า (Gen1) ทำให้การโดยสารสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นสามารถนั่งแบบ 5 ที่นั่งได้อย่างเต็มที่ ช่องเก็บสัมภาระหลังที่มีความจุเพิ่มขึ้นถึง 450 ลิตร และยังสามารถขยายเพิ่มขึ้นเป็น 1,309 ลิตร เมื่อทำการพับเบาะแบบ 40:20:40
การตกแต่งภายในยังคงมาในรูปแบสไตล์ของ MINI ที่ยังคงเอกลักษณ์ทั้งในส่วนของมาตรวัด และจอแสดงผลตรงกลางที่มีลักษณ์เป็นวงกลมการเล่นสีสันตามขอบต่างๆ ที่ยังคงมีสีสันให้เลือกมากมาย
จอทัชสกรีนขนาด 8.8 นิ้วสำหรับ MINI Cooper S Countryman HighTrim ที่สามารถแสดงผลทั้ง Navigation ข้อมูลตัวรถ ความบันเทิง และโทรศัพท์ พร้อมทำงานร่วมกับระบบ MINI Connected ที่ช่วยแสดงพิกัดรถและข้อมูลต่างๆ ผ่านสมาร์ทโฟน
วัสดุการประกอบแผงคอนโซลยังคงมาตรฐานความแน่น และผิวสัมผัสที่ค่อนข้างดีให้ความรู้สึกหรูหราไปในตัวเช่นเดียวกัน ผสานกับการออกแบบเส้นสายแผงคอนโซลในลักษณะแนวราบที่ทำให้ภายในดูกว้างใหญ่สะอาดตา
เบาะนั่งหนังแท้ที่ยังคงความกระชับโอบรัดสรีระร่างกายค่อนข้างดีทีเดียว การเข้าโค้งด้วยความเร็วสูงมั่นคงสามารถรองรับร่างกายเราได้อย่างดี ในส่วนเบาะตอนหลังมีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นจากความยาวฐานล้อที่ยาวกว่าเดิม
ขุมพลังให้เลือกทั้งเบนซิน 3 สูบ 1.5 ลิตร แและ เบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร
ทางด้านขุมพลัง All-New Countryman มีให้เลือกทั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร MINI TwinPower Turbo ที่ให้กำลังขับเคลื่อนสูงสุดที่ 136 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 220 นิวตันเมตร ส่งกำลังด้วยชุดเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด
และตัวเลือกเครื่องยนต์ที่ได้ทดสอบกันในวันนี้คือขุมพลังเบนซิน 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร MINI TwinPower Turbo มอบกำลังแรงม้าสูงสุดถึง 192 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุดที่ 280 นิวตันเมตร ทำงานร่วมกับชุดเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ทำงานได้อย่างสมูทไม่มีอาการกระตุกในทุกช่วงจังหวะ
การขับขี่มีให้เลือกทั้งโหมดการขับขี่แบบ ปรกติ ประหยัด ในส่วนของเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร มีอัตราเร่งที่ทันใจคันเร่งติดเท้าแม้จะขับขี่โดยโหมดธรรมดาช่วงจังหวะคิกดาวน์หรืออต้องการทำความเร็วเพื่อเร่งแซง
พละกำลังก็มีมาให้เหลือๆ โดยไม่ต้องรอรอบหรืออาการหน่วงแต่อย่างใด การขับขี่สนุกสนานตามสไตล์ Go-Kart Feeling โดยขุมพลัง 2.0 ลิตรที่มีพลกำลังมากทำงานร่วมกับระบบช่วงล่างและเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด ที่ผสานการทำงานกันได้อย่างลงตัว
สรุปโดยรวมๆ ถือเป็นพัฒนาการของ MINI ที่ดีขึ้นในหลายๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นความเป็นรถยนต์ครอบครัวมากยิ่งขึ้น ฟีลการขับขี่ที่ยังคงสนุกสนานตามสไตล์ Go-Kart Feeling ที่ยังคล่องตัว พวงมาลัยกระชับฉับไว ระบบช่วงล่างที่แน่นหนึบ
ซึ่งโดยปรกติแล้วฟีลของช่วงล่างจะเน้นความสนุกสนานแบบเต็มๆ ทำให้บางจังหวะบางช่วงของถนนที่มีความขรุขระส่งผลให้ตัวรถยนต์มีความกระด้างขึ้นมาบ้างทำให้ผู้สูงวัยอาจจะรู้สึกไม่สบายตัวขณะโดยสาร แต่สำหรับเราๆ ที่ชอบการขับรถคงจะไม่เป็นปัญหาอะไร
แต่ใน Countryman รุ่นใหม่นี้มีการปรับเซทช่วงล่างใหม่ทำให้มีความนุ่มนวลเพิ่มมากขึ้นกว่าเก่า แต่ก็ยังคงขับสนุกสนานเช่นเดิม เอาเป็นว่าเหมาะแก่การขับไปเที่ยวเป็นครอบครัวมากยิ่งขึ้นแน่นอน
ความสวยงามของรูปลักษณ์ดีไซน์ใหม่ มิติตัวถังที่ใหญ่ขึ้นในทุกๆ ด้าน ทำให้เราพอทราบแล้วว่า Countryman มาเพื่อจับตลาดกลุ่มไหนทางด้านขุมพลังแม้รุ่นใหม่นี้จะตัดตัวเลือกเครื่องยนต์ดีเซล ออกไป แต่เครื่องยนต์เบนซินทั้ง 1.5 ลิตร และ 2.0 ลิตร ก็สามารถทำได้ดีในทุกจังหวะการขับขี่
เอาเป็นว่า All-New Countryman รุ่นนี้ดีขึ้นในแทบทุกๆ ด้าน มีความเป็นแฟมิลี่คาร์มากยิ่งขึ้น ทั้งขนาดที่ใหญ่ขึ้น ซึ่งหากมองแค่มิติตัวถังรถยนต์แล้วอาจจะเรียกว่า MINI ได้ไม่เต็มปากแล้ว ณ ตอนนี้ แต่ถ้าพูดถึงฟีลการขับขี่ยังสนุกสนานเหมือนเดิม
ระบบช่วงล่างที่นั่งสบายขึ้นแม้ขับขี่ในทางไกล ขุมพลังเบนซินเทอร์โบที่ไว้ใจได้ จะมีเพียงแค่การเซตน้ำหนักของเบรกที่เบาไปนิดเดียว แต่หากขับไปสักระยะน่าจะปรับตัวได้ ซึ่งยังไงก็ยังเป็นรถยนต์ที่ขับสนุกสนานเหมือนเดิม คอนเฟิร์ม !!
All-New MINI Countryman มี 3 รุ่นย่อยให้เลือกดังนี้
- Cooper 2.239 ล้านบาท
- Cooper S 2.699 ล้านบาท
- Cooper S HighTrim 2.999 ล้านบาท
ขอขอบคุณ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สำหรับทริปการทดสอบ All-NEW MINI Countryman ครั้งนี้ด้วยครับ
ทดสอบและเขียนรีวิวโดย Peerapat.h
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น