Carpool ประกันรถแนวใหม่ ไม่เคลมคืนเงินสูงสุด 30%

Carpool ประกันรถยนต์แนวใหม่ที่ใช้วิธีในการให้ลูกค้าคัดกรองลูกค้าเพื่อเข้ามาร่วมกลุ่มและสร้างสังคมของคนขับรถปลอดภัยเพื่อรักษาผลประโยชน์ซึ่งเป็นยอดเงินคืนของเบี้ยประกันสูงสุดถึง 30% ต่อปี

เอศ ศิริวัลลภ ผู้ก่อตั้งและกรรมการ บริษัท คาร์พูล อินชัวรันส์ โบรกเกอร์ จำกัด หรือ คาร์พูล ประกันภัยแบบ Peer-to-Peer รายแรกในเอเชีย แนะนำผลิตภัณฑ์ "Carpool ขับดีมีเงินคืน" เพิ่มความปลอดภัยในการใช้ถนน

คาร์พูลอาศัยจังหวะในช่วงที่ตลาดรถยนต์น่าจะกลับมาคึกคักหลังจากที่พ้นช่วงเวลาตามข้อกำหนดของโครงการรถยนต์คันแรก โดยสังเกตได้จากยอดขายรถยนต์ในช่วง 4 เดือนแรกที่เติบโตขึ้น 15% จากการซื้อรถยนต์ใหม่และความต้องการในการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่

คาร์พูลได้พัฒนาผลิตภัณฑ์เอาใจลูกค้าที่ขับรถดี ไม่ประมาท ไม่เคลม ซึ่งคิดแล้วเป็นกว่า 90% ของผู้ใช้รถส่วน 10% ที่เหลือนั้นคือผู้ขับรถประมาทซึ่งทางบริษัทประกันต้องจ่ายค่าเคลมมากกว่าเบี้ยที่กลุ่มนี้ต้องจ่ายเฉลี่ยขึ้น 3 เท่าต่อปี

บริษัทจึงนำข้อมูลดังกล่าวมาออกแพ็คเกจให้กับลูกค้าที่ขับรถดีด้วยการรับเงินคืนสูงสุด 30% โดยให้ลูกค้าเป็นผู้คัดกรองคนที่จะเข้ามาร่วมกลุ่มลูกค้ากันเองเพื่อร่วมแชร์ความเสี่ยงในค่าเคลม เพื่อให้ช่วยบริษัทประหยัดเงินเคลมและนำเงินส่วนนี้ไปคืนให้กับผู้เอาประกันฯ

ลูค้าจะมีสิทธิ์ในการรับเงินคืน 30% ต่อเมื่อรวมกลุ่มกันได้ 5 คนขึ้นไปผ่านทางแอพฯ และช่องทางอื่นๆ ซึ่งเป็นการแชร์ความเสี่ยงร่วมกัน โดยหากคนในกลุ่มไม่มีการเคลมเลยในปีนั้นก็เท่ากับว่าจะได้รับเงินคืนทั้งกลุ่ม 30%

ในกรณีที่มีการเคลมเกิดขึ้นกับผู้ในผู้หนึ่งในกลุ่ม บริษัทจะดึงเงินกองกลางของกลุ่มนั้นออกมาเพื่อใช้ในการเคลมซึ่งจะทำให้ส่วนลดของทั้งกลุ่มลดลงและผู้ที่เคลมยังเสียสิทธิ์ในส่วนลดการต่อประกันประจำปีอีกด้วย และหลังจากที่การเคลมเกิดขึ้นในกลุ่มและมีสมาชิกรายใหม่เพิ่มเข้ามา สมาชิกรายใหม่ยังคงมีสัดส่วนเงินกองกลางเต็มอัตราไม่ได้โดนหักแต่อย่างใด

นอกจากนี้ในแต่ละกลุ่มยังสร้างข้อกำหนดในการรับคนเข้ากลุ่มได้ เช่น อายุ หรือ เพศ เพื่อให้กลุ่มของเรามีแต่ผู้เอาประกันภัยที่มีนิสัยการขับขี่ที่ปลอดภัยเพื่อรักษาเงินกองกลางเอาไว้ให้ได้มากที่สุด โดยลูกค้าคาร์พูลจะได้รับความคุ้มครองจาก เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน)

คาร์พูลคาดส่วนแบ่งการตลาดประกันภัยที่ 1 แสนบาทเอาไว้เพียง 0.1% โดยเน้นการทดลองรูปแบบของธุรกิจและรวบรวมกลุ่มลูกค้า โดยเชื่อว่าในปีนี้จะมีลูกค้าสมัครใช้แคมเปญดังกล่าว 600- 1,000 กลุ่ม หรือราว 6,000 คน รวมมูลค่า 100 ล้านบาท

อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

มองหาแหล่งซื้อรถยนต์มือสองที่ไว้ใจได้ คลิกที่นี่