สถาบันประกันความปลอดภัยบนท้องถนนของสหรัฐอเมริกาหรือไอไอเอชเอส (IIHS) ชี้สภาพเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์จนถึงแก่ชีวิตเพิ่มมากขึ้น
หลายคนอาจมองว่าเศรษฐกิจฟื้นตัวทำให้ผู้คนนิยมขับรถมากขึ้น แต่ไอไอเอชเอส ชี้ว่านั่นเป็นแค่ส่วนประกอบหนึ่งเท่านั้น แต่สภาพเศรษฐกิจที่ดีขึ้นยังกระตุ้นให้ผู้คนขับรถยามค่ำคืนเพื่อออกไปรับประทานอาหาร การขับรถทางไกลเพื่อท่องเที่ยว และยังทำให้ผู้คนขับรถเร็วขึ้นอีกด้วย
ก่อนหน้านี้ ไอไอเอชเอสได้รายงานว่า อุบัติเหตุบนท้องถนนจนถึงแก่ชีวิตในสหรัฐอเมริกาลดลง 1 ใน 3 ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา อันเนื่องมาจากเทคโนโลยีความปลอดภัยในรถยนต์ที่ดีขึ้น แต่ดูเหมือนว่าเทคโนโลยีดังกล่าวจะมาถึง “ทางตัน” ทำให้การเสียชีวิตกลับมาเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง
“อัตราการเสียชีวิตที่เราสำรวจล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ระบบความปลอดภัยในรถยนต์มาถึงขีดจำกัดที่จะป้องกันผู้ขับขี่และผู้โดยสารแล้ว” ไอไอเอชเอสระบุ
ไอไอเอชเอสยังเปิดเผยชื่อรถที่มีอัตราการเสียชีวิตเป็นศูนย์ในปีที่ผ่านมา ประกอบด้วยออดี้ เอ6 และคิว7 บีเอ็มดับเบิลยู ซีรีส์ 5 จี๊ป เชอโรกี เลกซัส ซีที200เอช และอาร์เอ็กซ์350 มาสด้า ซีเอ็กซ์-9 เมอร์เซเดส-เบนซ์ เอ็ม-คลาส โตโยต้า ทาโคมา และโฟล์คสวาเกน ทีกวน
ขณะเดียวกัน อุบัติเหตุที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เกิดจากรถขนาดเล็ก ทั้งฮุนได แอคเซนท์ เกีย ริโอ เชฟโรเลต สปาร์ก นิสสัน เวอร์ซ่า ฟอร์ด เฟียสต้า เกีย โซล และดอดจ์ ชาลเลนเจอร์ล้วนอยู่ในรายชื่อรถที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงทั้งสิ้น
“ในจำนวนรถ 10 รุ่นที่เกิดอุบัติเหตุถึงแก่ชีวิตนั้นจะประกอบด้วยรถขนาดมินิ 5 คัน และขนาดเล็ก 3 คัน ที่เหลือจะเป็นรถที่มีขนาดใหญ่กว่า” ไอไอเอชเอสระบุ
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น