ทาคาตะ ซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นเข้าสู่กระบวนการล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการ (Bankruptcy Protection) เรียบร้อยแล้ว
ปัจจุบัน ทาคาตะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายจากวิกฤตปัญหาถุงลมนิรภัยเป็นมูลค่ารวมหลายพันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งปัญหาดังกล่าวยังทำให้มีผู้บาดเจ็บหลายราย และเสียชีวิตไปแล้วอย่างน้อย 17 รายทั่วโลกเนื่องจากภายในถุงลมมีตัวพองลมที่ทำงานผิดปกติทำให้ระเบิดออกรุนแรงและมีของมีคมกระจายออกมาในห้องโดยสาร
คีย์ เซฟตี่ ซิสเต็มส์ (Key Safety Systems) ซัพพลายเออร์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐอเมริกาประกาศเข้าซื้อสินทรัพย์ของทาคาตะที่ไม่เกี่ยวข้องกับถุงลมนิรภัย โดยดีลดังกล่าวมีมูลค่าประมาณ 1.6 พันล้านเหรียญสหรัฐ และคาดว่าจะเสร็จสิ้นข้อตกลงหลังจากทาคาตะเข้าสู่กระบวนการแชปเตอร์ 11 (chapter 11) หรือการล้มละลายเพื่อฟื้นฟูกิจการทั้งในสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น
เจสัน ลู ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของคีย์ เซฟตี่ ซิสเต็มส์กล่าวว่า “ถึงแม้ทาคาตะจะได้รับผลกระทบจากการเรียกคืนทั่วโลก ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงแข็งแกร่งของฐานพนักงานและการดำเนินธุรกิจ แต่การส่งมอบพวงมาลัย เข็มขัดนิรภัยและผลิตภัณฑ์เพื่อความปลอดภัยอื่นๆ จะยังคงอยู่ต่อไป”
ปัญหาถุงลมทาคาตะทำให้ต้องมีการเรียกคืนรถมากกว่า 100 ล้านคัน ซึ่ง 70 ล้านคันอยู่ในสหรัฐอเมริกา นับเป็นปัญหาด้านความปลอดภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ยานยนต์
เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ทาคาตะเห็นพ้องที่จะชำระค่าปรับ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เนื่องจากปกปิดปัญหาข้อบกพร่องดังกล่าวในสหรัฐอเมริกา และต้องชำระอีก 125 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่เหยื่อที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงอีก 850 ล้านเหรียญสหรัฐให้แก่บริษัทรถยนต์
หุ้นของทาคาตะถูกระงับการซื้อขายในตลาดหุ้นโตเกียวของญี่ปุ่น และจะถูกถอดออกจากตลาดหุ้นในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น