แอสตัน มาร์ตินระบุว่าวัลคีรี่ได้รับการปรับปรุงโฉมก่อนขึ้นสายการผลิตโดยต่อยอดจากรถโปรโตไทพ์ที่เปิดตัวในช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้ว
เอเดรียน นิววีย์ ผู้อำนวยการทีมแข่งเรดบูลล์ เรซซิ่งซึ่งเป็นพันธมิตรกับแอสตัน มาร์ตินในการพัฒนาวัลคีรี่เปิดเผยว่า ส่วนด้านหน้ารถที่มีช่องว่างระหว่างล้อคู่หน้ากับค็อกพิทนั้นช่วยเพิ่มแรงกด “ได้อย่างมหาศาล” ขณะขับขี่ด้วยความเร็วสูง
วัลคีรี่รุ่นอัพเดตใหม่นี้ยังมาพร้อมไฟหน้าน้ำหนักเบาที่ถ่ายทอดดีไซน์มาจากรถแข่งฟอร์มูล่าวัน โดยไฟต่ำและไฟสูงถูกติดตั้งไว้บนเฟรมอลูมิเนียมอโนไดซ์ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าเดิม 30-40% เลยทีเดียว และนับเป็นชุดไฟหน้าที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่แอสตัน มาร์ตินเคยผลิตมา
ไม่เพียงเท่านั้น ทีมวิศวกรและนักออกแบบของแอสตัน มาร์ตินยังมองว่าโลโก้รูปปีกของบริษัทฯ อาจมีน้ำหนักมากเกินไป ดังนั้นจึงใช้การเคลือบเคมีบนพื้นผิวอลูมิเนียมแทนซึ่งมีความหนาเพียง 70 ไมครอนเท่านั้น
ไมลส์ เนิร์นเบอร์เกอร์ หัวหน้าทีมนักออกแบบของแอสตัน มาร์ตินกล่าวว่า “ผมสามารถพูดได้ว่าการออกแบบรูปลักษณ์ภายนอกอยู่ที่ 95% แล้ว สิ่งที่ทุกท่านได้เห็นนี้คือโครงสร้างที่ติดมากับตัวรถตั้งแต่แรกเริ่ม อาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ตามที่คุณเอเดรียนต้องการเพื่อเพิ่มความลู่ลม”
นอกจากการปรับรูปลักษณ์ภายนอก วัลคีรี่ยังถูกปรับปรุงห้องโดยสารแนวมินิมอลใหม่ด้วย รองรับผู้โดยสารสองที่นั่ง ตัวเบาะติดตั้งโดยตรงกับเฟรมรถ ส่วนท่านั่งจะเอนนอนและส่วนเท้ายกสูงขึ้นเหมือนกับรถแข่งฟอร์มูล่าวันและเลอมังส์
ไม่เพียงเท่านั้น ยังเห็นได้ว่าพวงมาลัยเป็นแบบถอดออกได้และมีสวิทช์ควบคุมมากมายสไตล์รถแข่งสูตรหนึ่ง บนพวงมาลัยยังมีหน้าจอ OLED ที่แสดงผลการทำงานที่สำคัญของตัวรถ บริเวณเสาหลังคาหน้ายังมีหน้าจออีกสองตัวที่แสดงภาพแทนกระจกแบบดั้งเดิมด้วย
แอสตัน มาร์ตินยังไม่เปิดเผยข้อมูลของระบบขับเคลื่อน แต่เสียงลือเสียงเล่าอ้างระบุว่าจะใช้บล็อกวี12 ความจุกระบอกสูบ 6.5 ลิตร ไม่มีระบบอัดอากาศ แต่พ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าที่ผลิตพละกำลังรวม 1,130 แรงม้า โดยน้ำหนักตัวถังอาจอยู่ที่เพียง 1,030 กก. เท่านั้น
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น