[Go-On!!] ไปเมืองกาญฯ นอนดูเขาเคล้าสายหมอก ดอดไปออนเซนกับ Honda BR-V Share this

[Go-On!!] ไปเมืองกาญฯ นอนดูเขาเคล้าสายหมอก ดอดไปออนเซนกับ Honda BR-V

Ken
โดย Ken
โพสต์เมื่อ 17 July 2560

แช่ออนเซนเมืองกาญฯ ที่ River Kwai Village กับ Honda BR-V

กรกฎาเมฆฝนยังสาดซัดมาไม่ขาดสาย แต่เราก็อยากจะออกไปเที่ยวหลังจากหงุดหงิดอยู่ในเมืองมาพักใหญ่และที่สำคัญ เราไม่ได้พาชาว AutoSpinn ไปไหนมานานพอตัวงานนี้เราต้องอ้อน Honda BR-V ให้พาไปนอนขี้เกียจที่รีสอร์ทพร้อมบ่อน้ำร้อนที่เมืองกาญฯ สักหน่อยแล้ว

เราเดินทางกันในช่วงวันหยุดยาวและเป็นครั้งแรกของเรากับรถไซส์ใหญ่หัวใจ 1.5 ลิตร อย่าง Honda BR-V ซึ่งก็ทำหน้าที่ได้อย่างประทับใจตลอดทั้งทริป สปอยกันตั้งแต่ตอนนี้เลยแล้วกันว่าน้ำมัน 1 ถัง นั่ง 5 เที่ยวกาญฯ ไปกลับสบายๆ

DSC00330

DSC00182

Honda BR-V ตัวท็อป 7 ที่นั่งของเรา ถูกพับที่นั่งแถวหลังสุดขึ้นเพื่อเพิ่มพื้นที่เก็บสัมภาระ เพราะผู้โดยสารของเราตัวเล็ก นั่งแถวสองสามที่นั่งกันสบาย ช่วงแรกต้องใช้เวลาปรับตัวอยู่พักหนึ่งเนื่องจาก Honda BR-V นั้นมีตัวถังที่ใหญ่ แต่ภายในยังให้ความรู้สึกเหมือนนั่งรถ 1.5 ลิตร ไซส์ปกติ อารมณ์ประมาณรถใหญ่แต่นั่งเล็ก

ทว่าไฮไลท์ในการเดินทางของเราไม่ได้อยู่ที่ Honda BR-V ไปเสียทั้งหมดแต่อยู่ที่สภาพการจราจรอันติดขัดในเช้าวันหยุดยาวต่างหาก

3 ชม. กว่าเราก็ยังไม่พ้นเขตจังหวัดนครปฐมหลังจากเราเดินทางออกจาก กทม. ในช่วง 10 โมงเช้านิดๆ ยังนับว่าโชคดีที่ Honda BR-V มีระบบความบันเทิงทั้งการเชื่อมต่อผ่าน USB HDMI และ Bluetooth ฟังเพลงและดู YouTube กันได้เพลินๆ ระหว่างเดินทาง

DSC00349

DSC00322

เอาเป็นว่าไหนๆ ก็ต้องอยู่บนถนนยาวนานเราขอพูดถึง Honda BR-V กันสักเล็กน้อย หลายคนอาจคิดว่าเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร บนตัวถังใหญๆ่ จะไปได้สักแค่ไหนกัน แต่เราว่าถ้าคุณใจเย็นๆ และรู้จักจังหวะในการใช้งานเจ้านี่ก็เป็นรถที่ใช้เดินทางได้ดีคันหนึ่ง

DSC00339

แน่นอนว่าบอดี้ใหญ่ขนาดนั้นแต่ใช้เครืองยนต์ 1.5 ลิตร แถมนั่งกันได้ตั้ง 5-7 คนย่อมทำให้การออกตัวด้วยรอบต่ำนั้นค่อนข้างช้าหรือเอาจริงๆ ตอนขับในเมืองคนเดียวเองก็ค่อนข้างเอื่อย เมื่อเทียบรถเครื่องเดียวกันแต่บอดี้เล็กกว่า แต่ถ้ากดคันเร่งเสียหน่อยก็ออกตัวได้ไวอยู่หรอก

ฟังดูเหมือนบนแต่พอความเร็วและรอบเครื่องยนต์เข้าที่ ความเร็วของเจ้า Honda BR-V ก็ไหลได้อย่างต่อเนื่องจะหงุดหงิดก็ตอนที่คันหน้าเบรกซะแทบจอดแล้วเราต้องมานั่งไล่ความเร็วขึ้นไปใหม่นี่ล่ะ แหม่..พี่จะเบรกอะไรหัวทิ่มขนาดนั้นนะแต่จะว่าไปเบรกของ Honda BR-V เองก็เล่นเอาหัวทิ่มเหมือนกันหากไม่กดน้ำหนักเท้าให้เนียนๆ เหยียบ จึ้ก! เหยียบ จึ้ก!

DSC00342

DSC00343

เราแวะเติมพลังรอบบ่ายกันที่ครัวผักหวาน ร้านอาหารยอดฮิตบนฝั่งขาออกจาก อ.ไทรโยค ท่ามกลางสายนที่สาดลงมาต่อเนื่องจนทำเอาเพื่อรวมทางหลายๆ คันต้องแวะเติมพลังกัน หลังจกที่ใส่ผักหวานทอด ปลากะพงราดน้ำปลา ทอดมันกุ้ง เข้าท้องเรียบร้อยฝนก้เริ่มซาพร้อมให้เราออกเดินทางกันต่อ

ออกจากครัวผักหวานไม่ไกลนักเราก็จะผ่านหน้าน้ำตกไทรโยค ซึ่งหมายความว่าเราได้ถึงที่หมายและที่พักของเราในวันนี้หลังจากที่ต้องนั่งอยู่บนรถกันมานานกว่า 6 ชม. คุณพระ นี่นึกว่าขับไปเขาค้อเลยนะเนี่ย แต่พอถึงที่พักแล้วบอกเลยว่าหายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

_170716_0002

DSC00170

เราเลือกพักในส่วน Cliff Hill ซึ่งเป็นส่วนที่ใหม่ที่สุดของรีสอร์ท ห้องออกแบบเหมือนรีสอร์ทใหม่ๆ ที่มันความทันสมัย เปิดประตูเข้ามาห้องน้ำก็จะอยู่ด้านซ้าย และที่พีคคือวิวหลังห้องที่เป็นวิวแม่น้ำและภูเขารวมถึงสายหมอกจางๆ หลังฝนตก โอ้..ฟิน

_170716_0005

DSC00064

เตียงนอนเป็นเหมือนเอาสองเตียงมาต่อกัน นอนสองคนกลิ้งสบาย นอนสามนอนสี่ยังไหวชิลล์ๆ ที่นอน หมอน ผ้าห่มเองจัดมาแจ่ม นอนสบาย ไร้กังวล ไม่หงุดหงิด ไม่นิ่มไป หลับสบายตลอดคืน มีเดย์เบดริมหน้าต่างไว้นอนวิวภูเขาชิลล์ๆ ได้ทั้งวัน

ระเบียงห้องขนาดเล็กไม่มีเก้าอี้เตรียมไว้ให้นั่ง ถ้าอยากออกไปนั่งคงต้องลากเก้าอี้ตรงโต๊ะทำงานออกไป ใต้ทีวีเป็นชั้นวางของสัมภาระจุกจิก ส่วนสัมภาระและเสื้อผ้าก็มีตู้เก็บใส่อย่างดีตั้งแต่หน้าประตูทางเข้า ห้องน้ำมีบานเลื่อนเพื่อเชื่อมต่อกับบริเวณเตียงนอน

DSC00056

DSC00065

DSC00068

DSC00070

เคาท์เตอร์บาร์และตู้เย็นถูกผนวกรวมเข้ากับบริเวณห้องน้ำ ถ้าหิวน้ำขระเพื่อนใช้ห้องน้ำอยู่คงต้องเจรจากันดีๆ ปราณีปรานอมกันหน่อย ห้องน้ำเป็นแบบห้องอาบน้ำฝักบัวกั้นด้วยกระจก ส่วนราคามินิบาร์อยู่ในเกณฑ์รับได้ เบียร์เริ่มต้นที่ 70 บาท คิดเสียว่าดีกว่าขับรถย้อนไป ร้านสะดวกซื้ออีกหลายกิโลเมตรหรือตีง่ายๆ ก็ถูกกว่าในสนามบินล่ะน่า

DSC00072

DSC00058

ส่วนกลางของบริเวณ Cliff เองค่อนข้างโอ่โถง กวางขวาง มีบาร์เครื่องดื่มเล็กๆ ขาย มีเตียงให้นอนตากลมชมวิวสวยๆ และมีสระว่ายน้ำที่ยกสัดส่วนออกมา หรือใครใคร่จะไปใช้สระว่ายน้ำในช่วงของ Mountains ทีมีให้เลือกอีกสองสระก็ตามสบายหากไม่ขี้เกียจเดิน ส่วนของห้องอาหารนั้นจะอยู่บริเวณล้อบบี้ ราคาและรสชาตอยู่ในเกณฑ์ดี

ที่บริเวณห้องพักที่เป็นแพนอกจากเป็นจุดขึ้นเรือและแพเปียกแล้วยังมีร้านเครื่องดื่ม และบริเวณนั่งพักผ่อน กินข้าว ชมวิว ได้สบายๆ แต่ไม่มีอาหารจำหน่าย แต่อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นว่าทริปนี้เราจะมาอยู่กันแบบขี้เกียจดังนั้นอย่างหวังว่าเราจะทำอะไรไปมากกว่านอนโง่ๆ อยู่ในห้องล่ะ

DSC00082

DSC00089

เมื่อกี้ที่บอกว่าจะนอนโง่ๆ เฉยๆ ถือว่าเราล้อเล่นก็แล้วกันเพราะที่ River Kwai Village มีกิจกรรมให้ทำเพียบ ถูกใจสายขี้เกียจอย่างเราเป็นอย่างยิ่งทั้งกิจกรรมเอ็กซ์ตรีม ล่องแพ แช่บ่อน้ำร้อน แต่ด้วยความที่เราใช้วเลาเดินทางกว่า 6 ชม. มาถึงก็เย็น กิจกรรมต่างๆ ก็ทยอยปิดก็หมดแล้ว

เหตุนี้ในช่วงเวลาที่เหลือของเย็นย่ำวันนี้เราทำได้แค่สั่งอาหารผ่าน Room Service ที่มีทั้งอาหารทั้งและ ฟาสฟู้ดง่ายๆ อย่างเบอร์เกอร์ที่ถือว่ารสชาติดีเลยทีเดียวทั้งสลัด สเต๊ก และชีสเบอร์เกอร์ อิ่มพุงนอนตุนแรงพร้อมลุยต่อวันพรุ่งนี้ เย้!!

DSC00092

DSC00059

ห้องอาหารในตอนเช้าจะเป็นแบบบุฟเฟ่ต์มีตั้งแต่ข้าวผัด ไปยันขนมปัง ครัวซองค์ อาหารเช้าสไตล์อเมริกัน เบคอน ไส้หรอก ไข่ดาว ไข่กวน เฟรนซ์โทสต์ แพนเค้ก ไซรัป กาแฟ เครื่องดื่มไว้บริการซึ่งหนึ่งห้องจะได้บัตรสอง 2 ใบ ถ้ามาสามต้องซื้อเพิ่มอีก 300 บาท หากพิจารณาดูแล้ว เอา 300 บาท ไปสั่งข้าวห้องอาหารหรือ Room Service เอาจะคุ้มค่าเงินกว่า

รีบกินข้าวเผื่อไม่เป็นการเสียเวลาเราไปหาอะไรทำเพื่อรอเวลาเล่นแพเปียกที่นัดไว้ตอน 11.30 น. ด้วยกิจกรรมเอ็กซ์ตรีมที่มีให้เลือกอย่างมากมายหลากหลายเริ่มต้นที่ราคา 350-550 บาท ทั้ง ATV DTV นอนกลิ้งในลูกบอลยักษ์ ฟุตบอลบั๊ม และยังมีฐานกิจกรรมต่างๆ ให้ได้สนุกกันด้วย

DSC00164

DSC00165

DSC00168

DSC00172

เราตัดสินใจเลือกนอนกลิ้งในลูกบอลยักษ์ที่กลิ้งลงมาจากหอสูง ในเวลาอันรวดเร็วราคา 350 บาท ต่อคน/ครั้ง  สนุกจนอยากจะเบิ้ลอีกสักรอบ หากหอสูงและชั้นกว่านี้จะยิ่งสนุกกว่าขึ้นแน่ๆ แต่ก็พอฆ่าเวลได้ในระนับหนึ่ง

DSC00175

DSC00174

การเดินทางหน้าหน้าล้อบบี้ขึ้นไปยังสถานนีเครื่องเล่นต่างๆ นั้นจะมีรถตู้และรถสองแถวคอยบริการรับส่งโดยที่ไม่ต้องขับรถขึ้นไปเองเพื่อขึ้นไปสนุกกับกิจกรรมและกลับมายังรีสอร์ทได้อย่างสะดวกสบายเพราะเจ้าหน้าที่จะคอย วอฯ สื่อสารอยู่เนื่องๆ

แพเปียกที่นี่ควรจะจองคิวกันเสียหน่อยเพราะให้บริการทุกชั่วโมง เรือจะลากแพเราออกไปประมาณ 3-4 โค้งน้ำ ก่อนจะปล่อยให้แพไหลกลับมายังหน้ารีสอร์ทแล้วพาเรากลับเข้าฝั่ง ระหว่างทางก็จะมีเรือสวนบ้างเป็นพักๆ แต่ที่ฟินคือบรรยากาศของภูเขาสองข้างทาง แหม นอนหงายหลังแช่น้ำอย่างกับ จัสติน เอ้ย! อย่างกับเจ้านายใน เอ็มวี คนละชั้น

DCIM100GOPROGOPR2069.

DCIM100GOPROGOPR2077.

DCIM100GOPROGOPR2141.

หากจองเวลาดีๆ พอเล่นแพเปียกเสร็จตอนราวๆ เที่ยงครึ่งบ่ายโมทง ก็จะทันเรือเที่ยวแรกไปยังบ่อน้ำร้อนคือออนเซนไทยๆ ได้ในรอบบ่ายโมงพอดีเปีะ ไปรอบแรกดีตรงคนน้อยด้วยนี่ล่ะ แต่จังหวะนี่เราต้องรีบขึ้นห้องเก็บของและเช็คเอาท์กันก่อน

เรือจะมารับที่ท่าน้ำตอนใกล้ๆ 14.00 น. หรือบ่ายสองเพื่อพาไปยังบ่อน้ำร้อน Rock Vally ที่อยู่ในโค้งน้ำใกล้ๆ นั่งเรือไปไม่ถึง 5 นาที แต่ถ้าขับรถอ้อมนี่มีครึ่งชั่วโมงขึ้นไป เดินจากท่าเรือขึ้นมาบริเวณต้อนรับจะเป็นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแยกชายหญิงพร้อมล็อกเกอร์เก็บสัมภาระ

_170716_0010

_170716_0012

สำหรับผู้ชายจะมีกางเกงเลให้เปลี่ยน สำหรับสตรีจะเป็นกระโจมอกหรือหากจะใส่เกาอกก็ใส่คู่กางเกงเลแล้วแต่สะดวกใจ หลังคำอธิบายและข้อแนะนำในการแช่บ่อน้ำร้อนทั้ง 15 บ่อเสร็จแล้วก็แต่งตัว ร้านตัวในห้องน้ำแล้วลุยได้เลย

25600716_170716_0019

_170716_0017

25600716_170716_0021

บ่อน้ำร้อนทั้ง 15 บ่อถูกจัดเป็นสัดส่วน สวยงามเหมือนเดินอยู่ในส่วน มีมุมให้นอนพักผ่อนหย่อนใจ ร้านอาหารเล็กๆ บ่อน้ำร้อนก็มีอุณหภูมิที่ต่างกันไปแล้วแต่ชอบ หากรู้สึกร้อนไปกลัวจะหน้ามืดก็มาแช่บ่อน้ำแร่เย็นเพื่อปรับอุณหภูมิได้ก่อน

นอกจากนี้ยังมีหมอปลาให้เรามาแช่เท้าหรือแช่ตัวให้ปลาตอดเพื่อทำความสะอาดขจัดสิ่งสกปรก แบคทีเรีย เชื้อรา บลาๆ ตามแต่ใจชอบ และบ่อน้ำร้อนมีมีลูกเล่นที่หลากหลายทั้งบ่อสมุนไพรไทย สมุนไพรจีน บ่อกาแฟ บ่ออัญชัน บ่อกระเจี๊ยบ และบ่อน้ำนม ซึ่งก็จะมีสรรพคุณต่างกันไป

_170716_0015

25600716_170716_0018

สำหรับเราแล้วบ่อสมุนไพรจีนที่เป็นชาจีน ใบหม่อน และสมุนไพรถือว่าสุดยอดทั้งอุณหภูมิของน้ำ กลิ่นแาบโล่งจมูก แช่เพลินๆ ท่ามกลางสายฝนที่โปรยลงมาลืมความเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง

25600716_170716_0022

บริเวณห้องแาบน้ำก็จะมีสบู่ยาสระผมไว้คอยบริการ แวะหยิบผ้าเช็คตัวที่บริเวณต้อนรับและเปลี่ยนเสื้อผเา เป่าผม ปะแป้งได้ตามสบาย นอกจานี้ที่บริเวณบ่อน้ำร้อนยังมีบริการเสริมทั้งนวดไทย พอกโคลนหน้า หรือจะพอกทั้งตัวก็ได้ เราเองก็มาคิดออกทีหลังว่าถ้านวดตัวก่อนแล้วค่อยไปแช่น้ำร้อนนี่คงจะฟินมหาฟินเลยทีเดียว

การเดินทางกลับไปยังรีสอร์ทนั่นเราเพียงต้องเดินลงมารอที่ท่าน้ำและเมื่อมีผู้โดยสารครบ 10 ท่าน เรือก็จะออกเดินทางกลับมาส่งในทันที บอกลเยว่าหลังจากขึ้นจากบ่อมารู้สึกตัวเบา สบาย ผิวดี สดชื่น แฮปปี้ลืมเหนื่อยเป็นปลิดทิ้ง หากมีโอกาสคงต้องกลับมาซ้ำอีกแน่ๆ ส่วนราคาค่าบริการทั้งหมดเราว่าไม่แพง สนใจอย่างไรสอบถามได้จากทาง River Kwai Village เลยจ้า

DSC00330

25600716_170716_0024

เรากลับมาที่ Honda BR-V กันอีกครั้งเป็นเวลาเกือบ 18.00 น. สัมภาระทุกอย่างถูกโยนไว้ด้านหลังแบบเหลือเฟือ เราเดินทางออกมาจากรีสอร์ทฝนก็ลงเม็ดลงมาอย่างต่อเนื่อง Honda BR-V ไม่มีปัญหาในการเดินทางฝ่าฝนหรือแม้จะเข้าโค้งเร็วๆ เสียหน่อยขณะฝนตกก็ยังมั่นใจ

รถหน้าใหญ่บอดี้โตทำให้เสียงลมเล็ดรอดเข้ามาค่อนข้างมาก ตั้งแต่ 80-100 กม./ชม. เป็นต้นไป เสียงถนนเสียงตัวหนอนชะลอความเร็วสะเทือนเข้าตัวรถแบบเต็มๆ แต่ก็มไ่ได้น่ารำคาญใจอะไรขนาดนั้น

ขากลับรอบนี้เราค่อนข้างใช้ความเร็วจะกดแซงจนรอบทะลุไปที่ 6,000 รอบต่อนาที อยู่บ่อยครั้งในจังหวะเร่งแซงซึ่งเสียงเครื่องยนต์ตั้งแต่ช่วง 3,000 รอบต่อนาที ขึ้นไปถือว่าดังใช้ได้เลยล่ะ แต่แลกกับการบูสต์ความเร็วขึ้นมาก่อนจะเลี้ยงไว้ที่รอบที่ต่ำลงมาถือว่าแจ่ม

DSC00340

DSC00348

เติมพลังมื้อเย็นที่ร้านชุกโดนเสร็จฟ้าก็มืดพอดี มาร้านนี้ที่จอดรถต้องวัดดวงสุด แต้มบุญต้องเยอะพอ วนกันเข้าไป ได้ใกล้ได้ไกล ขอให้ได้จอดก็พอ ปลากระพงทอดน้ำปลา ฉู่ฉี่ปลาเนื้ออ่อนยังไม่ทันย่อยดีเราก็รีบปรี่ออกเดินทางออกจากกาญจนบุรีท่ามกลางความมืดเพื่อเดินทางกลับเมื่อหลวง โดยใช้เวลาไม่ถึง 3 ชม. เสียด้วยซ้ำ(น่าจะเป็น Honda BR-V ที่เร็วสุดบนถนนในขณะนั้น) และที่สำคัญน้ำมันหนึ่งถังก็ยังเหลือ แม้เราจะแวะส่งผู้ร่วมทริปครบทุกคนเสียด้วย

DSC00318

อ๋อ! เกือบลืม Honda BR-V ยังมี S-Mode ที่ถัดลงมาจากเกียร์ D ซึ่งจะดันรอบให้สูงขึ้นมาเท่าที่สังเกตดูเครื่องจะพยายามประคองรอบไว้ที่ 3,000 รอบต่อนาทีตลอด หากตกลงมาก็จะดันขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วแล้วมีการคลอรอบเอาไว้ไม่ให้ร่วงลงมาแตะ 1,000-2,000 รตน. อย่างรวดเร็วแบบในเกียร์ D ซึ่งทำให้คุณทำความเร็วได้ไวขึ้นแต่ก็แลกกับอัตราสิ้นเปลืองที่สูงขึ้นล่ะเนอะ

25600716_170716_0030

DSC00351

DSC00329

หากถามเราว่าอยากได้อะไรอีกจาก Honda BR-V คันนี้ เราอยากได้ที่สุดคงเป็นช่วงล่างที่นุ่มกว่านี้ เพราะการเดินทางเราเจออุปสรรคทั้งถนนพังๆ จากพวกบรรทุกที่ทำถนนเป็นคลื่น เราเจอเนินที่บางทีก็โผล่มาแบบไม่ตั้งแต่ เราเลยอยากได้ความนุ่มนวลที่มากกว่านี้สำหรับผู้โดยสารของเรา

อัตราเร่งเราคงไม่หวังให้รถคันนี้ดีไปกว่านี้ เพราะที่เป็นอยู่นี่เราก็พอดีในแบบที่เขาเป็นอยู่แล้ว การขึ้นเนินอาจมีอืดมากแต่กาขึ้นเขาชันที่รีสอร์ทก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร ที่เก็บสัมภาระเองก็กว้างขวาง มี่แอร์ตอนหลังที่เราไม่ได้ใช้เพราะแอร์ตอนหน้าก็เย็นพอสำหรับที่นั่งแถวสองแล้ว

ส่วนเรื่องการเก็บเสียงที่ความเร็วเฉียด 100 กม./ชม. เสียงลมก็เริ่มดังกวนใจ อย่างว่ารถหน้าใหญ่คันใหญ่ก็ต้องกินลมมากเป็นธรรมดาล่ะเนอะ

DSC00325

DSC00341

DSC00304

สำหรับเรา Honda BR-V เป็นรถครอบครัวที่มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย เรื่องการขับขี่เองก็ไม่ได้แย่ ใช้ในเมือง ใช้เดินทางได้สบาย เพียงแต่คุณอาจต้องละเมียดละมัยและใจเย็นๆ กับเจ้ารถคันนี้กันเสียหน่อย ทั้งในเรื่องของอัตราเร่ง การเบรก การเข้าโค้ง แบบที่เราใช้เดินทางไปไกลถึงเมืองกาญฯ ในครั้งนี้ ที่เราพิสูจน์แล้วว่าไกลกว่านี้เจ้านี่ก็ไปได้ และสำหรับทริปนี้ บอกเลยว่ามีซ้ำแน่นอนครับ

ขอขอบคุณ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทยจำกัด

พาทัวร์โดย: Ken [Warodom C.] 

อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิกที่นี่

มองหาแหล่งซื้อรถยนต์มือสองที่ไว้ใจได้ คลิกที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ