BMW M4 and BMW 430i LCi Coupe and Convertible test drive
หลังจากเปิดตัวไปแบบเงียบ ๆ บีเอ็มดับเบิลยู ก็จัดทริปทดสอบรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู ซีรี่ส์ 4 รุ่นปรับปรุงโฉมอย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งปิดสนามพีระ เซอร์กิต เพื่อที่จะปล่อยให้พวกเราควบยักษ์เหลือง บีเอ็มดับเบิลยู เอ็ม4 กันอย่างเต็มพิกัด
แน่นอนว่าเอ็ม4 นั้นเปิดตัวในประเทศไทยมาได้สักพักแล้วด้วยสนนราคาค่าตัว 8 ล้านกว่าบาท แต่กับซีรี่ส์ 4 ใหม่นั้นมีการปรับปรุงหลายอย่างที่น่าสนใจ โดยเราได้ลองเจ้าลักชัวรี่ ไลน์ทั้งแบบคูเป้และเปิดประทุนกันยาว ๆ ส่วนในรุ่นเอ็ม สปอร์ต ได้ขับเล็ก ๆ ในสนาม
ว่ากันด้วยเอ็ม4 แบบสั้น ๆ ก่อน เพราะได้ขับในแทร็ก รูปทรงของเอ็ม4 นั้นไม่ได้แตกต่างอะไรจากซีรี่ส์ 4 มากนัก แต่ได้รับการปรับแต่งเพิ่มขึ้น ด้วยหน้าตาของชุดแต่ง ช่องรับลมด้านข้าง กระจกมองข้างที่ออกแบบมาสำหรับรถยนต์รุ่นนี้โดยเฉพาะให้ความรู้สึกดุดัน
ล้อแมกซ์ขนาด 19 นิ้วสีดำดุ มองเห็นจานเบรกขนาดใหญ่เพื่อเอาไว้รองรับสมรรถนะของรถ หลังคาคาร์บอนไฟเบอร์ ท่อไอเสียแบบสองคู่ ที่แฝงไว้ด้วยเทคโนโลยีห้องโดยสารและแชสซีน้ำหนักเบาทั่วทั้งคันรถ ที่ทำให้รถคันนี้หนักเพียงตันครึ่งเท่านั้น เรียกว่าเบาได้ใจ
ขุมพลังเบนซินขนาด 3.0 ลิตร 6 สูบ ทวินพาวเวอร์เทอร์โบ ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 431 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร ส่งต่อด้วยชุดเกียร์เอ็ม ดูอัลคลัตช์ 7 สปีด ทำความเร็ว 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ภายใน 4.1 วินาที พร้อมท๊อปสปีดที่ 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง
เพียงแต่สตาร์ทเครื่องยนต์ก็ได้ยินเสียงครางกระหึ่ม อินสตรัคเตอร์ต้องเดินมาสอนวิธีการใช้เกียร์ที่ถูกต้อง เพราะหัวเกียร์ของเอ็ม4 นั้นแตกต่าง แต่เอาเข้าจริง ๆ ขับรอบสนามก็ไม่มีอะไรมาก ปล่อยไว้ที่ D ก็พอละ แค่นั้นก็ใช้พละกำลังกันไม่หมดแล้วล่ะนะ
กดคันเร่งออกตัว ต้องปรับตัวเอาเรื่อง เพราะว่าสมรรถนะของรถค่อนข้างสูง มาไวและต่อเนื่อง ทำให้ต้องผ่อนคันเร่ง จนกระทั่งรถคันนำวิ่งทิ้งห่างออกไป กลับมากดคันเร่งกันใหม่อีกครั้ง รถวิ่งปรู๊ดปร๊าดเข้าโค้งอย่างแม่นยำ ก่อนที่จะหักพวงมาลัยเลาะโค้งที่เตรียมเอาไว้แบบเนียนเนียน
จังหวะกดหนีกันเร็ว ๆ บอกเลยว่าสงสารซีรี่ส์ 4 ที่ตามมาข้างหลังเหมือนกัน เอ็ม4 นั้นให้อาการหลังติดเบาะเอาเรื่องในการขับขี่ แรงดึงของรถนั้นมีมากพอให้รู้สึกสนุกสนานกับการขับขี่ ขณะที่เสียงคำรามของเครื่องยนต์นั้นเร้าใจให้กดคันเร่งลากรถไปรอบสนามอย่างต่อเนื่อง
ตำแหน่งการนั่ง ตำแหน่งของพวงมาลัยและบรรดาอุปกรณ์ต่าง ๆ รอบคันรถไม่ได้แตกต่างอะไรจากซีรี่ส์ 4 รุ่นมาตรฐาน เรียกว่าแทบไม่ปรับก็น่าจะพอได้ แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งาน แม้คนที่จะควักกระเป๋า 8.299 ล้านบาท อาจจะบอกว่าอยากได้อะไรมากกว่านี้หน่อย
กลับมาที่พระเอกของเราอย่าง 430ไอ รุ่นใหม่ ที่มีให้เลือกในรุ่นลักชัวรี่และเอ็ม สปอร์ต ในรูปแบบตัวถังทั้งคูเป้และเปิดประทุน เราได้รับการคัดเลือกให้อยู่กับลักชัวรี่ ไลน์ ทั้งขาไปและขากลับ โดยไปด้วยรุ่นเปิดประทุนและกลับด้วยรุ่นคูเป้ ไม่เป็นไร เอาไว้ค่อยยืมเอ็ม สปอร์ตมาลองอีกครั้ง
ซีรี่ส์ 4 นั้่นคือการสานต่อตำนานของซีรี่ส์ 3 คูเป้ในอดีต และก็พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเปลี่ยนในส่วนของเครื่องยนต์ในรุ่นปัจจุบันมาใช้เครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ 2.0 ลิตร ที่ให้กำลัง 252 แรงม้า พร้อมด้วยแรงบิด 350 นิวตันเมตร ส่งกำลังผ่านเกียร์อัตโนมัติ 8 สปีด
ตามสเปกระบุว่ารุ่นคูเป้วิ่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในเวลา 5.8 วินาทีและรุ่นเปิดประทุนที่หนักกว่าเล็กน้อยทำได้ใน 6.3 วินาที ทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 250 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ปล่อยไอเสียต่ำเพียง 147 กรัมต่อกิโลเมตร และประหยัดน้ำมันที่ 15.6 กิโลเมตรต่อลิตร
มาพร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้วในทุกรุ่น แตกต่างกันที่ชุดแต่งรอบคันและอุปกรณ์จุกจิกระหว่างลักชัวรี่และเอ็ม สปอร์ต โดยสิ่งที่รุ่นเอ็มมีมากกว่าก็คือช่วงล่างแบบเอ็มที่ทำให้รถเตี้ยลงไป 1 เซนติเมตรและหนึบมากขึ้น รวมถึงเครื่องเสียงฮาร์มัน คาร์ดอน ในรถที่ให้เสียงไพเราะกว่า
ในรุ่นสปอร์ตจะมาพร้อมทริมด้านนอกรถเป็นสีดำ ขณะที่รุ่นลักชัวรี่จะยังเป็นสีเงินแบบธรรมดาอยู่ แต่ทุกรุ่นจะมาพร้อมโคมไฟหน้า ไฟท้ายและไฟตัดหมอกแอลอีดี มีการเปลี่ยนแปลงดีไซน์ของช่องดักอากาศใหม่เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับตัวรถในภาพรวมมากขึ้น
ภายในเน้นฟังชั่นส์การใช้งานที่หลากหลาย ตกแต่งด้วยเงิน โครเมียมที่ตัดกับสีดำของแผงคอนโซลหน้าอย่างลงตัว หน้าจอ 8.8 นิ้ว มาพร้อมไอ-ไดร์ฟระบบสัมผัส ที่ควบคุมได้ทุกระบบอย่างง่ายดาย ดูลงตัวกับสีตัวถังใหม่อย่างสีน้ำเงินและสีส้มอย่างประหลาดตา
ในรุ่นเปิดประทุนนั้น บีเอ็มดับเบิลยูระบุว่าหลังคาสามารถเปิดปิดได้ในขณะที่รถเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 18 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเปิดและปิดภายใน 20 วินาทีเท่านั้น นอกจากนี้ ยังสามารถเพิ่มพื้นที่ห้องเก็บสัมภาระด้านหลังได้ขณะปิดหลังคาอีกเช่นกัน
เครื่องยนต์เบนซินรุ่นใหม่นั้นให้การตอบสนองที่ดีเยี่ยม เรียกว่าในโหมดคอมฟอร์ตก็สามารถเรียกกำลังได้อย่างต่อเนื่องบนท้องถนนจนไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องเปิดโหมดสปอร์ตในชีวิตประจำวัน หากแต่ต้องการเสียงของเครื่องยนต์ที่ดุดันขึ้นก็ลองใช้ดูได้
ช่วงล่างของรุ่นลักชัวรี่นั้นออกมาให้มีความนุ่มนวลกว่าสักเล็กน้อย เวลาขึ้นเนินไวไวมีอาการโยนตัวเล็ก ๆ แต่ไม่มาก แต่หากเป็นช่วงความเร็วต่ำถึงปานกลางก็ไม่ใช่ปัญหา สามารถพารถวิ่งไปได้สบาย ๆ ด้วยความมั่นใจในการขับขี่ตามสไตล์ของบีเอ็มดับเบิลยูนั้นแล
สิ่งที่ต้องขอชมเชยเลยก็คือการเก็บเสียงของรถ ซึ่งเดิมที่รถเปิดประทุนมักจะถูกติงเรื่องนี้มาก แต่ขอบอกว่าที่ความเร็ว 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมงเรายังนั่งคุยกันในรถแบบสบาย ๆ จะไปได้ยินเสียงลมเสียงถนนก็ต้องผ่านความเร็วระดับ 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงไปแล้วนั่นล่ะ
ตำแหน่งการนั่งที่ตำแหน่งคนขับนั้นอยู่สูงไปเล็กน้อย แม้จะปรับให้ต่ำสุดแล้วก็ตามที ขณะที่ปีกรองหลังที่ปรับตำแหน่งได้ก็ดูไม่ค่อยลงตัวกับคนตัวใหญ่สักเท่าไรนัก แต่ที่ถามดูจากผู้ร่วมทางก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรเรื่องนี้ ก็เลยคิดว่าเป็นปัญหาส่วนตัวของผมไปก็แล้วกัน
มีโอกาสได้ลองทั้งลักชัวรี่และเอ็ม สปอร์ต ในสนาม ก็ต้องยอมรับว่าช่วงล่างของเอ็ม สปอร์ต นั้นดีกว่าจริง ๆ ให้ความหนึบที่เหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด แต่ราคาห่างจากลักชัวรี่ 3 แสนบาทเทียบกันรุ่นต่อรุ่น งานนี้ต้องบอกว่าถ้าไม่ได้นีดขนาดนั้น เก็บตังค์ไว้เติมน้ำมันดีกว่า
แน่นอนว่าลูกค้าที่ซื้อซีรี่ส์ 4 หรือ เอ็ม4 จะได้รับบริการบีเอสไอนาน 5 ปี ตามระเบียบของบีเอ็มดับเบิลยู โดย 430ไอ คูเป้ วางราคาจำหน่ายที่ 3.499 ล้านบาท และรุ่นเปิดประทุนเริ่มที่ 3.999 ล้านบาท เลือกไปหล่อกันได้ตามฐานะและความต้องการในการใช้รถ
ขับกันมาคร่าว ๆ เดี๋ยวไว้ยืมยาว ๆ แล้วค่อยมาลงรายละเอียดกันอีกทีละกัน...
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
ความคิดเห็น