ความต้องการใช้งานรถพลังงานไฟฟ้าค่อยๆ เติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โฟล์คสวาเกนมองว่าการพัฒนาเทคโนโลยีจะต้องดำเนินการควบคู่ไปกับกำลังการผลิตที่มากเพียงพอ
อูริค ไอค์ฮอร์น ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาของโฟล์คสวาเกน กรุ๊ปเชื่อว่า อุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องมีโรงงานผลิตแบตเตอรี่ขนาดใหญ่เทียบเท่ากับโรงงานกิกะแฟคคอรี่ของเทสล่าอีก 40 แห่งจึงจะรองรับความต้องการใช้งานรถยนต์พลังงานไฟฟ้าในทศวรรษหน้าได้
ไอค์ฮอร์นประเมินความต้องการดังกล่าวบนพื้นฐานของเป้าหมายการทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าของโฟล์คสวาเกนที่จะต้องมีสัดส่วน 25% ของการขายรถยนต์ทั้งหมดภายในปี 2025
เขาชี้ว่า โฟล์คสวาเกนต้องการพลังงานไฟฟ้ามากกว่า 200 กิกะวัตต์ชั่วโมงในการก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว และถ้าบริษัทรถยนต์รายอื่นวางเป้าหมายคล้ายกันนี้ อุตสาหกรรมยานยนต์ก็จะต้องใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่มากกว่า 1.5 เทราวัตต์ชั่วโมงหรือเทียบเท่ากับกิกะแฟคตอรี่ของเทสล่าถึง 40 แห่งเลยทีเดียว
ทั้งนี้ โรงงานกิกะแฟคตอรี่แห่งแรกของเทสล่าเพิ่งเปิดทำการบางส่วนในสหรัฐอเมริกา โดยได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงงานผลิตแบตเตอรี่ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
อย่างไรก็ตาม โฟล์คสวาเกนคาดการณ์ว่า การพัฒนาเทคโนโลยีแบตเตอรี่ที่ก้าวหน้ามากขึ้นจะช่วยเพิ่มความหนาแน่นของเซลส์แบตเตอรี่และทำให้มีการผลิตที่รวดเร็วยิ่งขึ้น ดังนั้นจำนวนของโรงงานผลิตแบตเตอรี่อาจแปรผันไปตามเทคโนโลยี
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น