รีวิว สัมผัสแรก Triumph Street Triple765RS
เรารัก Street Triple675 สุดๆ เป็นรถสปอร์ตเน็กเก็ตที่จะตราตรึงในดวงใจเราไปอีกนานแสนนานด้วยความเป็นสปอร์ตแท้แบบบ้าคลั่ง ขับสนุก มันส์ เร้าใจ แม้ไร้ออพชั่นเทพๆ หรือเทคโนโลยีล้ำๆ และ Street Triple765 ก้ไม่น่าจะทำให้เราผิดหวัง
งานนี้เราบุกตะลุยไปยังบุรีรัมย์แดนรถซิ่งเพื่อทดสอบ Street Triple765RS ในสนามแข่งระดับโลกอย่าง BRIC ที่เปิดโอกาสให้เราได้ทำความรู้จักกับ Street Triple765RS แบบหอมปากหอมคอ
การขับขี่เพียงสองเซสชั่นคงไม่อาจบอกอะไรเราได้มากแต่เรื่องที่เราสัมผัสได้คือความคล่องตัวแบบไม่น่าเชื่อของเครื่องยนต์แบบสามสูบเรียง 765 ซีซี ซึ่งกำลังจะกลายเป็นเครื่องยนต์ที่ใช่แข่งขันในศึก Moto2 ในอนาคตอันใกล้
Triumph Street Triple765 มีการปรับรูปลักษณ์ภายนอกใหม่แต่ยังคงเอาไว้ซึ่งเอกลักษณ์ดั่งเดิมของรุ่นก่อนหน้าที่เรารักเป็นนักหนา
ภาพลักษณ์ใหม่ ใส่เทคโนโลยีแน่นคัน
สำหรับการทำตลาดในประเทศไทยนั้นทางTriumph Motorcycle Thailand เลือกที่จะขายเพียงรุ่นท็อปคือ Triumph Street Triple765RS จากตัวเลือกทั้งหมด 3 รุ่นย่อยที่เปิดตัวอย่างเป็นทางการทั่วโลก เรียกว่าจะสุดแล้วก็ต้องไปให้สุดล่ะ
Triumph Street Triple765RS มีการเปลี่ยนดีไซน์ไฟหน้าใหม่ให้ดูสปอร์ตเฉียบคตมมากยิ่งขึ้นรับกับดีไซน์ที่ออกแบบใหม่ตลอดทั้งคันตามที่เราได้เห็นไปในการเปิดตัวอย่างเป็นทางการที่ MotorShow2017
นอกจากดีไซน์กับสมรรถนะของเครื่องยนต์ที่เปลี่ยนไปแล้ว Triumph Street Triple765RS ยังมีระบบอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มเข้ามาให้เล่นกันแบบไม่หวาดไม่ไหวเริ่มตั้งแต่จอแสดงผลแบบ 4 สี TFT ที่เลือกการแสดงผลมาตรวัดความเร็วได้มากกว่า 10 แบบ
เทคโนโลยี Traction Control ถูกใส่เข้ามาหลังจากที่รุ่นก่อนหน้านั้นมีเพียงแค่เบรค ABS เท่านั้น นอกจากนี่ Riding Mode หรือโหมดการขับขี่นั้นยังเลือกเปลี่ยนได้แม้ในขณะทำการขับขี่โดยที่ไม่ต้องจอดแวะตั้งค่าให้เสียเวลา
เต็มสมรรถนะเครื่องยนต์ตัวท็อป 123 แรงม้า
เครื่องยนต์ของ Triumph Street Triple765RS ตัวท็อปให้พละกำลังสูงสุด 123 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 77 นิวตันเมตร ถูกครอบตัวระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อความปลอดภัยสูงสุดโดยในทุกโหมดนั้นจะปล่อยม้าเต็มเพียงแต่จะลดแรงบิดลดตามระบบที่เลือก
เราออกตัวด้วยการใช้โหมด Rain จากโหมดที่มีให้เลือกทั้งหมด 5 โหมดได้แก่ Rain,Road,Sport,Track และ Rider ที่เป็นโหมดที่เจ้าของเข้าไปคัสตอมระบบอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ได้เองซึ่งทำให้เราโดนทิ้งเป็นทุ่งหลังออกจากโค้ง
แม้จะกดหมดคันเร่งก็เป็นเรื่องยากที่จะตามคันอื่นที่เขาเปิดอยู่ในโหมด Sport หรือ Track กัน แต่สิ่งหนึ่งที่เราสัมผัสได้คือการส่งกำลังอย่างต่อเนื่อง เรียบเนียน และมีพลังดังนั้นเมื่อเราเริ่มไล่คันหน้าทันจึงรีบหาจังหวะในการเปลี่ยนโหมดทันที
เราบอกไปก่อนหน้าแล้วว่าบน Triumph Street Triple765RS คุณเปลี่ยนโหมดการขับขี่ได้แม้ขณะขี่อยู่ ซึ่งเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น แต่ก็ไม่ได้ยุ่งยากเกินไป เพียงแต่เราไม่รู้มาก่อนว่านอกจากเลือกโหมดแล้วเรายังต้องปิดคันเร่งให้สนิทและคิดว่าคงต้องกำคลัทช์ด้วย
จังหวะนี้เราสลับมาที่โหมด Sport ที่ให้การตอบสนองต่อคันเร่งที่ก้าวร้าวขึ้นมาในทันที อย่างนี้สิค่อยใกล้เคียงความดุเดือดในรุ่นพี่อย่าง 675 ขึ้นมา เราดันคันเร่งออกโค้งมากเท่าเดิมตอนเราอยู่ในโหมด Rain แต่รถมีพละกำลังในการดีดตัวออกมหาศาลขึ้นแบบเห็นได้ชัด ซัดสุดทางตรงได้อย่างสะใจ เครื่องซูเปอร์สปอร์ตมันต้องมันส์แบบนี้สิ
พริ้วไหวออพชั่นความสนุกเอาใจทุกรูปแบบ
พอเริ่มปรับตัวเข้ากับรถได้เวลาของเซสชั่นแรกก็สิ้นสุดลง Triumph Street Triple765RS ตัวท็อปของรุ่นยังมีระบบ Quick Shifter และแน่นอนว่ามีสลิปเปอร์คลัทช์ติดตั้งมาให้เพื่อความเร้าใจในการขับขี่ขั้นสุดแบบไม่สะดุดอารมณ์และทำให้เราเบรกและเชนจ์ได้ลึกขึ้นโดยไร้อาการสะบัดสะบิ้ง
นอกจากจะเอาไว้มันส์บนถนนและมีโหมด Track สำหรับสนามแล้ว Triumph Street Triple765RS ยังมีตัวจับรอบการขับขี่หรือ Lap Timer ตัวปรับที่แฮนด์บาร์แบบ จอย-สติ๊ก เองก็ใช้งานง่าย ไฟเลี้ยวของตัวรถก็เป็นแบบตัดการทำงานอัตโนมัติ
แม้ Triumph Street Triple765RS จะดูเหมือนเครื่องใหญ่ขึ้นแต่พอเราได้ขับขี่จริงกลับรู้สึกว่าเจ้านี่มีความพริ้วไหวมากขึ้นมากเดิม ส่วนหนึ่งอาจด้วยการขับขี่ในสนามทำให้เราได้ลองพารถเข้าโค้งในหลากหลายรูปแบบและแน่นอนว่าโหมดการขับขี่เองก็ส่งผลทั้งการออกจากโค้งและการเตรียมตัวเข้าโค้ง
เราไม่จำเป็นต้องออกแรงกดหรือใช้พละกำลังมากนักในการพลิกรถหรือพารถเข้าโค้ง แม้เราจะมีความผิดพลาดหรือเหวอบ้างในการออกแรงกดรถหรือพลิกรถก็กลับมาแก้อาการได้อย่างรวดเร็วและมั่นใจ พร้อมไปต่อในทันที
ตัวท็อปออพชั่นเทพ
เรื่องความเนียนในการเข้าโค้งทั้งหมดคงต้องยกความดีความชอบส่วนใหญ่ให้กับ ระบบกันสะเทือนใน Triumph Street Triple765RS ที่เลือกใช้ Showa BPF หัวกลับเส้นผ่านศูนย์กลาง 115 มม. ที่ปรับค่าได้ละเอียดทั้งแรงอัด ระยะยืดยุบต่างๆ โช้คหลัง Ohlins STX40 ระยะยุบ 131 มม.
ตลอดสองเซสชั่นการขับขี่ของเราไม่เคยมีสักครั้งที่ Triumph Street Triple765RS และระบบช่วงล่างของรถจะทำให้เราเสียความมั่นใจในการขับขี่ แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งขี่ ยิ่งสนุก ยิ่งขี่ยิ่งมั่นใจ ยิ่งขี่ยิ่งไปได้เร็วขึ้นเรื่อยๆ เสียด้วยซ้ำ
การโหนแรงๆ เข้าโค้ง การเปิดออกจากโค้งหนัก เชนจ์และกำเบรคหน้าแรงๆ เตรียมตัวก่อนพับ แทบไม่รู้สึกถึงอาการสะบัด ชก ดีด หรืออะไรที่น่ากลัวเลยสักนิด และเจ้านี่ไม่ได้มีดีแค่ออพชั่นโช้คอย่างเดียวระบบเบรกเองก็เป็นระบบเบรกที่ที่ให้เรายิ่งใช้ยิ่งมั่นใจเช่นกัน
Triumph Street Triple765RS จะได้เบรกด้านหน้าเป็น Brembo M5 คาลิเปอร์ 4 สูบประกบดิสก์คู่ 310 มม. แบบโฟลตติ้ง ส่วนด้านหลังจะเป็น Brembo คาลิเปอร์สูบเดี่ยวประกบจาน 210 มม. เช่นเดียวกับระบบกันสะเทือน ยิ่งมากรอบเรายิ่งมั่นใจและเบรกลึกขึ้นเรื่อยๆ
เครื่องยนต์ที่ส่งกำลังได้อย่างรวดเร็วและดุเดือดขนาดนี้สมแล้วกับการมีระบบเบรกที่ทำให้เรามั่นใจได้มาก พอเราเบรกได้ลึกขึ้น ออกโค้งได้เร็วขึ้น รู้จักรถมากขึ้น ที่นี่ก็ถึงเวลาที่เราจะไล่ตามคันหน้าให้ทันเสียที
สำหรับการขับขี่ในสนามแข่งแล้ว Triumph Street Triple765RS ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ให้ความสนุกในการขับขี่ได้ทั้งสำหรับมือใหม่ มืออ่อน และมือเก๋า ถือเป็นรถอีกหนึ่งคันที่ให้รุปแบบการใช้งานได้อย่างครอบคลุมทุกความต้องการและยังให้ออพชั่นมาครบแบบแทบไม่ต้องการอะไรเพิ่ม ที่นี้ที่เหลือก็คือความสนุกบนถนนแล้วล่ะ
อ่านข่าวอื่นที่น่าสนใจ คลิกที่นี่
มองหาแหล่งซื้อรถยนต์มือสองที่ไว้ใจได้ คลิกที่นี่
ขอขอบคุณ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิล(ไทยแลนด์) จำกัด
Special Thank:
บริษัท เวสปิอาริโอ จำกัด AlpineStars Thailand
บริษัท ไทเกอร์ บี จำกัด Suomy Thaland
บททดสอบโดย: Ken [Warodom C.]
ความคิดเห็น