MINI เป็นรถที่ขึ้นชื่อได้ว่าเป็นรถที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาตั้งแต่ต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นความสนุกสนานในการขับในฟิลลิ่งโกคาร์ท สมรรถนะ และความเป็น MINI ที่ได้สืบทอดตำนานมาจนถึงปัจจุบัน ด้วยการพัฒนารถให้ล้ำสมัย แต่ยังไม่ทิ้งความเป็นตัวตนของตัวเอง
ในปี 1959 ทั่วโลกได้รู้จักกับยนตกรรมฉบับ MINI ที่ออกสู่ตลาดภายใต้ชื่อบรัษัท บริติชมอเตอร์คอร์ปอเรชั่น หรือ BMC โดยใช้ชื่อเรียกในช่วงแรกว่า "ออสติน เซเว่น" (Austin Seven) และต่อมาไม่นาน ก็เปลี่ยนชื่อเรียกใหม่เป็น "ออสติน มินิ" (Austin Mini) ที่เรารู้จักคุ้นหูกันดี ซึ่ง ออสติน มินิ คันนี้ มาพร้อมเครื่องยนต์ขนาด 850 ซีซี 4 สูบ 35 แรงม้า สามารถทำความเร็วได้สูงถึง 122 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทันทีที่เริ่มจำหน่ายก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากครอบครัวชาวอังกฤษด้วยเหตุผลที่สมควรนั่นก็คือราคาถูก โดยมีราคาเพียง 496 ปอนด์เท่านั้น
หลังจากนั้น MINI ก็ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบรับกับความต้องการของผู้ใช้รถเรื่อยมา จนได้มีการเปลี่ยนมือผู้ดูแลมาเป็น BMW Group นับตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา โดย MINI ได้ผลิตรถออกมาหลากหลายรุ่น และหนึ่งในนั้นคือ Cooper 3 ประตู ซึ่งเปิดตัวครั้งแรกในปี 2002 การออกแบบยังคงไว้ซึ่งความคลาสสิคของตัวถัง MINI ใส่เครื่องยนต์ 1.6 ลิตร จากนั้นปลายปี 2006 ก็ได้มีการเปลี่ยนโฉมกันครั้งใหญ่สำหรับ MINI เรียกได้ว่าเป็นการเปลี่ยนโมเดลแบบใหม่หมดจด รวมไปถึงเครื่องยนต์ด้วยเช่นเดียวกัน และได้ทำการไมเนอร์ เชนจ์ ในปี 2011 ทำการแก้ไขปัญหาต่างๆ ทั้งปรับจูนเครื่องยนต์ใหม่ และปรับปรุงหน้าตาและภายในบางส่วน
จนกระทั่งปี 2013 MINI ได้เปิดตัวโมเดลใหม่ MINI Hatch 3 Doors ภายใต้รหัส F56 ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สุดอีกครั้งของ MINI มีการปรับปรุงดีไซน์ทั้งภายในและภายนอกใหม่ทั้งหมด โดยไม่ใช้อะไหล่ร่วมกับตัวถังก่อนหน้าเลย
MINI Hatchback ในรหัส F56 นี้ ได้รับการปรับปรุงโฉมใหม่ทั้งหมด แต่ยังคงเอกลักษณ์ดีไซน์ของความเป็น MINI ให้ความรู้สึกเหมือนการขับโกคาร์ท มีความโดดเด่นที่กระจังหน้ารูปทรงหกเหลี่ยม ซึ่งเหมือนกับที่ใช้ในรถมินิคลาสสิค ไฟหน้ามีวงแหวน Daytime Running Lights เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน มิติของตัวรถมีขนาดใหญ่ขึ้นกว่า R56 ทุกด้าน
อีกทั้งมีเพิ่มเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาช่วยมากมาย ทั้งเรื่องความสะดวกสบาย และความปลอดภัยก็มีให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ MINI Connected ใหม่, ระบบช่วยจอด, มีกล้องหน้า - ถอยจอด, หน้าจอ Head-up Display, ดีไซน์ของคอนโซลกลางใหม่เป็นวงแหวนของไฟสีต่างๆ บอกสถานะการทำงานของระบบที่กำลังควบคุมอยู่ภายในตัวรถ
และก็ไม่ปล่อยให้สาวกรอนาน MINI ยังได้ออกเวอร์ชั่นแฮทช์แบ็ก 5 ประตู คือ MINI Hatch 5-Door รหัส F55 รุ่นแรกของ MINI โดยใช้พื้นฐานตัวถังจาก 3-Door ขยายมิติตัวถังให้มีความยาวเพิ่มขึ้นอีก 161 มิลลิเมตร มีความยาวฐานล้อมากขึ้น 72 มิลลิเมตรพื้นที่เหนือศีรษะเพิ่มขึ้นอีก 15 มิลลิเมตร เพิ่มประตูสำหรับผู้โดยสารแถวหลังเข้าไป ทำให้พื้นที่ภายในห้องโดยสารมีความสบายมากขึ้น เพื่อเสริมความต้องการของตลาด สำหรับผู้ที่อยากได้รถที่ให้ความสะดวกสบายของผู้โดยสารทุกที่นั่ง แต่ยังคงไว้ด้วยความสนุกในการขับในฟิลลิ่งของการขับโกคาร์ทตามสไตล์ MINI เหมือนเดิม
และยังมีอุปกรณ์ต่าง ๆ เหมือนกันกับรุ่น 3 ประตู ทั้งระบบอินโฟเทนเมนท์แบบใหม่ขนาด 8.8 นิ้ว มาตรวัดทรงกลม นอกจากนี้ยังจัดระบบความปลอดภัยให้อย่างครบถ้วน อาทิ ไฟหน้าปรับระดับอัตโนมัติ
โดยทั้ง MINI Hatch 3-Door และ 5-Door แบ่งออกเป็นทั้งหมด 3 รุ่นคือ Cooper, Cooper S ที่ใช้เครื่องยนต์เบนซิน และ Cooper D เครื่องยนต์ดีเซล
MINI Hatch 3-Door และ 5-Door เรียกได้ว่าเป็นรถพรีเมียมขนาดเล็กที่ตอบสนองเรื่องสไตล์การขับขี่ได้ดีที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาด เป็นรถเล็กที่ไม่ว่าใครที่ได้ขับก็รู้สึกสนุกเหมือนการขับโกคาร์ท ที่มาจากสมรรถนะที่สมบูรณ์แบบ เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถที่มีสไตล์เป็นของตัวเอง เป็นเพื่อนร่วมทางที่พร้อมไปด้วยกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการขับขี่ในเมือง หรือเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ตลอดทุกเส้นทาง
ร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 58 ปี กับ มินิ ประเทศไทย พร้อมนำเสนอโปรโมชั่น ผ่อน 0% นานสูงสุด 5 ปี รับโปรแกรมบริการหลังการขาย MINI Service Inclusive (MSI) นาน 3 ปี สำหรับผู้ที่ซื้อรถมินิทุกรุ่น และพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อ MINI Countryman รับฟรี ประกันภัยชั้น 1 จนถึงวันที่ 30 กันยายน 2560 นี้
ติดรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.mini.co.th
ความคิดเห็น