ก่อนที่พระที่นั่งอนันตสมาคมจะปิดเพื่อทำการซ่อมแซมอย่างไม่มีกำหนดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 นี้เป็นต้นไป Autospinn ขอบึ่ง MG GS 1.5Turbo ไปชมความงามของพระที่นั่งแห่งนี้อีกครั้งหนึ่ง แม้จะไม่สามารถเข้าไปเก็บภาพภายในออกมาได้ แต่บรรยากาศในสวนรอบนอกก็มีความงดงามไม่น้อย
ช่วงนี้ไปสามารถจอดรถที่ด้านซ้ายมือของลานพระบรมรูปทรงม้าแล้วเดินออกกำลังกายพอเหนื่อยไปทางเดียวกับที่ไปสวนสัตว์เขาดิน เจอทางเข้าที่เดินเข้าไปจะเจอกับโต๊ะตรวจสอบความเรียบร้อย อย่าลืมนะครับ แต่งกายเรียบร้อย ไม่สั้น ไม่แตะ เตรียมตัวให้พร้อมจะได้เดินเข้าชมอย่างไม่มีปัญหา
โต๊ะตรวจสอบจะตั้งอยู่ที่ด้านหน้าก่อนเข้าลานที่สามารถถ่ายรูปกันได้อย่างสวย ๆ เรียกว่าถ้าแต่งกายผิดระเบียบมาก็อดเข้ากันเลยทีเดียว งานนี้เห็นนักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตาเตรียมตัวกันมาอย่างดี ขณะที่คนไทยเองที่เอาแต่ยินเถึยงเจ้าหน้าที่เรื่องกระโปรงสั้นไปหรือเปล่า เอาเป็นว่าขอความร่วมมือในการเข้าเขตพระราชฐานละกัน
ผมขับเอ็มจี จีเอส 1.5 เทอร์โบ ไปจอดที่ด้านซ้ายมือที่บอก เจ้าหน้าที่ตำรวจก็ดูแลเป็นอย่างดี แต่อย่าไปจอดที่จอดรถทัวร์กลางลานด้านหลังพระรูปนะครับ โดนไล่ที่กันอย่างแน่นอน ส่วนที่จอดริมถนนที่อยู่เลยไปทางเขาดินวนาก็มีที่น้อยและแย่งชิงกันพอสมควร ใครอยากสบาย ๆ ยอมเดินไกลนิดดีกว่า
แม้จะมีโอกาสได้ทดลองขับจีเอสรุ่นนี้ไกล ๆ ไปทางอีสานมารอบ แต่ก็ไม่เคยเอามาใช้งานในกทม.เสียที เพิ่งจะได้มีโอกาสรับรู้ถึงแรงกระชากของรถที่ให้ความรู้สึกดุดันในการขับขี่แบบเอาเรื่อง แถมการเร่งแซงนั้นก็ถือว่าหายห่วง ติดแค่ชื่อชั้นที่อาจจะห่างไกลคู่แข่งไปหน่อย ไม่งั้นก็ถือว่าไม่แพ้กันนะ
เดินฝ่าแดดและนักท่องเที่ยวจากแผ่นดินใหญ่เข้าไปหน้าประตู ส่วนใหญ่แล้ว ผู้ที่มาเยือนหากไม่เดินไปทางซ้ายเพื่อถ่ายรูปพระที่นั่งชัดชัด ก็จะเดินไปทางขวาเพื่อไปเข้าแถวต่อคิวซื้อบัตรเข้าชมกัน ซึ่งอย่างที่บอกว่าสถานที่นี้กำลังจะปิดแบบไม่มีกำหนด แน่นอนว่าคิวมหาศาล มาจองกันหน้าประตูทางเข้าตั้งแต่เก้าโมงกว่า ๆ กันเลยทีเดียว
ถ้าคุณมีเวลามากพอที่จะต่อแถวเพื่อเข้าชมด้านในก็ขอให้ทำ เพราะแลกกับค่าเข้าชม 150 บาท เพื่อให้ได้ชื่นชมสถาปัตยกรรมแห่งยุคสมัยที่หาที่ใดเปรียบได้ยาก ก็ถือว่าเป็นความคุ้มค่า แถมตอนนี้ยังมีนิทรรศการศิล์ปแผ่นดิน ครั้งที่ 7 ให้ชมอีก หากพลาดก็จะต้องตามไปชมกันถึงอยุธยาเลยนะ
พระที่นั่งอนันตสมาคมนั้น เป็นพระที่นั่งที่เริ่มก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 5 ใช้เวลาก่อสร้างนานกว่า 8 ปีและแล้วเสร็ในสมัยรัชกาลที่ 6 นับเป็นพระที่นั่ง 6 แผ่นดิน โดยสร้างจากพระราชประสงค์ในรัชกาลที่ 5 เพื่อใช้เป็นที่รับรองแขกบ้านแขงเมืองและประชุมปรึกษาราชการแผ่นดิน ซึ่งรวมถึงการใช้ในพระราชพิธีสำคัญ ๆ ของประเทศมาโดยตลอด
ความสวยงามของพระที่นั่งนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากโบสถ์และวิหารในทวีปยุโรป ตัวอาคารแม้จะมีซุ้มเสา แต่ก็เน้นความเรียบง่ายที่ไม่บดบังความงามกันเอง เรียกว่าเป็นศิลปะแบบผสมที่สร้างความงดงามให้กับตัวอาคารมาจนถึงปัจจุบัน โดยมีโดมขนาดใหญ่ตรงกลางและโดมขนาดเล็กอีก 6 โดมรายล้อมอยู่
ความแตกต่างจากพระที่นั่งองค์อื่น ๆ ในประเทศไทยก็คือการเลือกใช้หินอ่อนในการก่อสร้างโครงสร้างภายนอกอาคารทั้งหล้ง โดยเป็นหินอ่อนที่นำเข้าจากประเทศอิตาลี แหล่งผลิตหินอ่อนที่ว่ากันว่าดีที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และทำให้พระที่นั่งอนันตสมาคมเป็นพระที่นั่งหินอ่อนองค์เดียวในประเทศไทย มาจนถึงปัจจุบัน
ในสวนด้านนอกนั้น นอกจากตัวอาคารของพระที่นั่งแล้ว อย่าลืมหาโอกาสเหมาะ ๆ ไปถ่ายรูปกับเรือนยอดบรมมังคลานุสรณีย์ งานสถาปัตยกรรมที่สวยงามไม่แพ้กัน ที่สร้างขึ้นโดยอิงความเชื่อของเขาพระสุเมรุ ออกมาเป็นตัวอาคารสีทองโดดเด่นเป็นสง่า ไม่ว่าจะจับภาพมุมไหนก็ล้วนแล้วแต่มีความสวยงามในทุกด้าน
ถ่ายรูปด้านนอกกันเสร็จแล้ว จ่าย 150 บาท ต่อแถวรับหูฟังเพื่อเข้าชมงานภายในด้วย แถวยาวขนาดไหนก็ต้องรอรับนะ เพราะหลาย ๆ เรื่องเป็นสิ่งที่ต้องฟังเลยจะได้ไม่พลาดกัน ช่วงก่อนปิดนี่คนจะไปเยอะมาก อย่าใจร้อน พกร่ม พกหมวกไปกันแดดกันให้เรียบร้อยด้วย แถมอาจจะเจอฝนตกกันด้วยในบางวัน
ภาพวาดเฟรสโกบนโดมด้านในทั้ง 6 โดมที่แสดงให้เห็นถึงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ไทยในยุคเริ่มต้นของกรุงรัตนโกสินทร์ ใช้เทคนิคการวาดที่เหนือชั้น ด้วยการลงสีและเงาแบบจิตกรรมตะวันตกที่ทำให้ภาพวาดมีมิติ เรียกได้ว่าความงามของภาพวาดนั้นไม่ได้ลดน้อยหรือยิ่งหย่อนลงไปกว่าภาพวาดดัง ๆ ในยุโรปแม้แต่น้อย
นอกจากนี้ หากเป็นนักท่องเที่ยวสายประวัติศาสตร์ นี่คือสถานที่แห่งประวัติศาสตร์ชาติไทยมากมาย ไม่ว่าจะเป็นการพระราชทานรัฐธรรมนูญฉบับแรกของรัชการที่ 7 การเป็นที่เป็นประชุมสภาผู้แทนครั้งแรกของประเทศไทย สถานที่จัดงานพระราชพิธีฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปีของรัชกาลที่ 9 ซึ่งนับเป็นพระราชพิธีที่มีประมุขจากประเทศต่าง ๆ มาร่วมมากที่สุดในโลก
ผมเดินทอดน่อง เก็บบันทึกภาพในความทรงจำไว้ จริง ๆ แม้จะมาที่พระที่นั่งอนันตสมาคมนี้หลายต่อหลายครั้ง แต่ต้องบอกว่านี่คือครั้งที่ผมตั้งใจเดินเก็บภาพและเก็บรายละเอียดของการเดินทางมาให้มากที่สุด เพราะไม่รู้ว่าการปิดซ่อมแซมจะนานเพียงใด และเราจะมีโอกาสได้มาเดินกันอีกหรือไม่
เหลือเวลาให้ทุกคนได้เดินกันอีก 5 วันครับ เริ่มวันอังคารที่ 26 ไปถึงวันเสาร์ที่ 30 กันยายนนี้เท่านั้น ใครวันลาเหลือแนะนำให้มาวันธรรมดาเช้า ๆ เปิดขายบัตร 10 โมงเช้า ปิดขายบัตรบ่ายสามโมงครึ่ง เปิดให้เข้าชมถึงสี่โมงเย็นนะครับ แต่บอกเลยว่าครึ่งชั่วโมงไม่พอ ถ่ายรูปเล่นด้านนอกก็หมดเวลาแล้ว
หาเวลามาชมกันครับ นี่คือหนึ่งในสมบัติของชาติชิ้นหนึ่ง ที่จะกลายเป็นหนึ่งในตำนานที่เล่าขานกันไปอีกยาวแน่นอน!!!
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถยนต์ใหม่และรถมือสอง ตรวจสอบราคา เชิญที่นี่
LINE
ความคิดเห็น