[Girl’s Tips] ชวนสาวๆ เตรียมความพร้อมก่อนสอบใบขับขี่ Share this

[Girl’s Tips] ชวนสาวๆ เตรียมความพร้อมก่อนสอบใบขับขี่

Tadsaneeya
โดย Tadsaneeya
โพสต์เมื่อ 12 October 2560

หลายครั้งหลายครา ที่เราขับรถบนท้องถนนจะเจอคนที่ขับรถไม่เหมือนชาวบ้าน ก็จะมีเสียงก่นด่ามาว่า เป็นผู้หญิงขับแน่ๆ แล้วก็ตามมาว่า ซื้อใบขับขี่มาหรือไง จากประสบการณ์ตรงของคนขับรถที่เจอมาเป็นสาเหตุทำให้เค้ามองเป็นอย่างนั้นได้ สาวๆ ที่มีรถขับกันแล้วยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ เรามีขั้นตอนการทำใบขับขี่ง่ายๆ มาบอกกัน

การมีใบอนุญาตขับขี่รถยนต์ เป็นสิ่งที่คนขับที่นั่งหลังพวงมาลัยจำเป็นต้องมี ประโยชน์โดยตรงก็คือสามารถเป็นหลักฐานเพื่อแสดงว่า คุณเป็นบุคคลที่ได้รับอนุญาตให้ขับขี่รถประเภทต่างๆ ได้จริง และถือว่าเป็นเจ้าของใบอนุญาตที่มีความรู้ความสามารถในการขับขี่รถประเภทที่กำหนดในใบอนุญาต และได้ผ่านการทดสอบจากกรมการขนส่งทางบกเรียบร้อยแล้ว ซึ่งผู้ที่ผ่านการอบรมจะได้ทั้งความรู้ความเข้าใจในกฏและเครื่องหมายจราจรต่างๆ รวมไปถึงการปฏิบัติเมื่อเกิดอุบัตเหตุ

นอกจากประโยชน์ในข้างต้นแล้ว ใบขับขี่ ยังมีประโยชน์อื่นๆ อีก เช่น ช่วยให้ได้รับค่าสินไหมทดแทนหรือค่าเสียหายจากประกันภัยต่างๆ ที่ได้ทำเอาไว้ ซึ่งหากไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ก็อาจทำให้บริษัทประกันภัยใช้เป็นข้ออ้างเพื่อการยกเว้นความรับผิดชอบได้ หรือ พูดง่ายๆ ก็คือ บริษัทประกันจะไม่จ่ายค่าเสียหายให้ โดยอ้างว่าผู้เสียหายไม่มีใบอนุญาตขับขี่ ในกรณีที่โดนตำรวจจราจรเรียกตรวจ การไม่มีใบอนุญาตขับขี่ก็จะทำให้ถูกเปรียบเทียบปรับได้ ซึ่งถือว่าเป็นค่าเสียหายที่ไม่ควรเกิดขึ้น

สำหรับคุณผู้หญิงที่ต้องขับรถเป็นประจำทุกวัน แต่ยังไม่มีใบอนุญาตขับขี่ แนะนำให้ไปทำเพื่อประโยชน์ของตัวเอง เวลาขับรถไปที่ไหนจะได้สบายใจ และจะสามารถปฏิบัติตัวได้อย่างถูกต้องเมื่อเกิดเหตุ

ปัจจุบันกรมการขนส่งทางบก เปิดให้จองคิวเพื่อเข้ารับการอบรมได้ล่วงหน้าแล้ว ทั้งจองคิวได้ด้วยตนเอง ทางโทรศัพท์ และทางออนไลน์ได้ ที่นี่ สาวๆที่อยู่กรุงเทพฯ และปริมณฑล สามารถเลือกสถานที่เข้าอบรมได้ที่ใกล้บ้านที่สุด แนะนำให้อ่านรายละเอียดการจองคิวอย่างละเอียดครบถ้วนด้วยนะ

สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนมาเข้ารับการอบรมคือ

1. บัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริง พร้อมสำเนา

2. ใบรับรองแพทย์ อายุไม่เกิน 1 เดือน (30วัน)

3. เอกสารการจองคิว

การขอรับใบขับขี่ต้องผ่านการตรวจสอบสมรรถภาพทางร่างกาย 4 ประเภท ได้แก่ ทดสอบตาบอดสี ทดสอบสายตาทางลึก ทดสอบสายตาทางกว้าง และทดสอบการตอบสนองของเท้า เมื่อผ่านแล้ว จะต้องเข้าอบรมประมาณ 5 ชั่วโมง แบ่งเป็น กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง จำนวน 2 ชม. การขับขี่อย่างปลอดภัย จำนวน 1 ชม. 30 นาที จิตสำนึกและมารยาทในการขับรถ จำนวน 1 ชม. การขับรถในสถานการณ์ฉุกเฉิน การให้ความช่วยเหลือและการปฐมพยาบาล จำนวน 30 นาที เพื่อเข้าสอบข้อเขียน 50 ข้อ ภายในเวลา 60 นาที ตอบผิดได้ไม่เกิน 5 ข้อ ไม่เช่นนั้นจะต้องสอบใหม่ภายในเวลา 90 วัน สำหรับผู้ที่ผ่านแล้ว จะได้รับผลการสอบเพื่อนำไปจองคิวสอบภาคปฏิบัติ ซึ่งจะได้ในวันถัดๆไป

การสอบภาคปฏิบัติ กรมการขนส่งทางบก ได้กำหนดการสอบไว้ทั้งหมด 3 ด่าน คือ

1. ขับรถเดินหน้าและถอยหลังในทางตรง ในช่องเดินรถที่ระยะ 12 เมตร เดินหน้า 1 ครั้ง และถอยหลัง 1 ครั้ง โดยต้องไม่ขับชนหรือเบียดเสาหลัก ที่ตั้งวางเรียงกันทั้งซ้ายและขวา และอย่าให้เครื่องยนต์ดับในขณะทดสอบอยู่

2. ขับรถเดินหน้าและหยุดรถเทียบทางเท้าด้านซ้ายของตัวรถต้องจอดขนาน และห่างจากขอบทางไม่เกิน 25 ซม. โดยจอดให้ล้อหน้าและหลัง ล้อทับเส้นสีที่กำหนด กันชนหน้ารถต้องไม่เกินจุดหยุดรถข้างทางและห่างจากเส้นหยุดรถไม่เกิน 1 เมตร

3. ขับรถถอยเข้าซอง ให้ขับรถถอยหลังเข้าจอดและออกจากช่องว่างด้านซ้าย เปลี่ยนเกียร์ได้ไม่เกิน 7 ครั้ง ต้องไม่ชนหรือเบียดเสาในพื้นที่ที่กำหนด ตัวรถต้องขนานกับขอบทางหรือเสาหลักด้านซ้าย กระจกข้างต้องไม่ล้ำออกมาเกินเส้นที่กำหนด

ทุกด่านมีความยาก ควรมีฝึกฝนให้มั่นใจ จะได้ผ่านฉลุย ใครที่คิดว่าจะใช้เซ็นเซอร์หรือกล้องถอยหลัง ใช้ไม่ได้นะจ๊ะ เจ้าหน้าที่จะเอาเทปกาวปิดทับ เพื่อได้ใช้ทักษะการขับรถเท่านั้น

ค่าใช้จ่ายในการขอรับใบอนุญาตขับขี่ มีค่าคำขอ 5 บาท, ค่าใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว 200 บาท จะมีอายุ 2 ปี (ถ้าต่ออายุมาเป็น 5 ปี ซึ่งต้องเสียค่าธรรมเนียม 500 บาท) ค่าซองใส่ใบขับขี่ 100 บาท (แจ้งไม่รับก็ได้) รวมทั้งสิ้น 305 บาท

จบสำเร็จ ได้ใบขับขี่รถยนต์สมดั่งใจหมาย เคล็ดลับสำคัญคือการเตรียมเอกสารและการจองคิวให้ครบถ้วน มีใบรับรองการอบรม ที่เหลืออยู่ที่การเตรียมความพร้อมของเราเองล้วน ๆ

สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่

สามารถค้นหารถยนต์มือสองคุณภาพดี ได้ที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ