มาสด้าประกาศย้ายไลน์การผลิตปิกอัพบีที-50 รุ่นใหม่ไปไว้โรงงานอีซูซุ ด้วยกำลังผลิต 4 หมื่นคันต่อปี พร้อมเผยใช้อีซูซุพัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องยนต์แทนฟอร์ด ส่วนกำลังการผลิต 5.5 หมื่นคันในเอเอที เตรียมปรับผลิตรถยนต์นั่งแทน
ฮิโรชิ อิโนอูเอะ ประธาน มาสด้า เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า มาสด้าเตรียมโยกสายการผลิตรถยนต์ปิกอัพบีที-50 รุ่นใหม่ไปไว้ที่โรงงานผลิตรถปิกอัพของอีซูซุ ซึ่งเป็นพันธมิตรรายใหม่ของมาสด้าในการประกาศความร่วมมือกันก่อนหน้านี้
ทั้งนี้ มาสด้ายังไม่ระบุช่วงเวลาเริ่มต้นของการเปิดสายการผลิตดังกล่าว แต่ระบุว่าจะใช้กำลังการผลิตที่โรงงานอีซูซุจำนวนปีละ 4 หมื่นคัน โดยระบุว่าอีซูซุจะเป็นผู้พัฒนาแพลตฟอร์มและเครื่องยนต์สำหรับรถปิกอัพรุ่นใหม่ และมาสด้าจะทำการปรับหน้าตาให้กับรถของตน
"ถ้าจะให้อธิบายให้ง่ายก็คือ รูปแบบของพันธมิตรใหม่นี้จะไม่แตกต่างกับที่มาสด้าเคยทำกับฟอร์ดมาก่อน ซึ่งแม้มาสด้าจะหันมาเน้นการทำตลาดรถยนต์นั่งในช่วงที่ผ่านมา แต่ก็ขอยืนยันว่าเราก็พร้อมที่จะแข่งขันในตลาดปิกอัพต่อไปอย่างแน่นอน"
สำหรับกำลังการผลิตที่เหลือในโรงงานออโต้อัลลายแอนซ์ (เอเอที) ในประเทศไทยนั้น มาสด้าจะทำการปรับแผนการผลิตเพื่อนำกำลังการผลิตส่วนที่เหลือไปใช้ในการผลิตรถยนต์นั่ง ที่มีการผลิตมาสด้า 2, มาสด้า 3 และมาสด้า ซีเอ็กซ์-3 ในปัจจุบัน
มาสด้ายังถือหุ้นในโรงงานเอเอที 50% ต่อไปแม้จะประกาศยกเลิกความสัมพันธ์ในการพัฒนารถปิกอัพร่วมกันกับฟอร์ดในช่วงที่ผ่านมา โดยมีกำลังการผลิตที่โรงงานดังกล่าว 1.75 แสนคันต่อปี แบ่งเป็นรถยนต์นั่ง 1.2 แสนคันและรถปิกอัพ 5.5 หมื่นคัน
"แม้ในช่วงที่ผ่านมา มาสด้าจะหันไปเน้นการทำตลาดรถยนต์นั่งจนเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ขณะเดียวกัน ตลาดก็มีการเปลี่ยนแปลงและรถยนต์นั่งมีสัดส่วนการจำหน่ายมากขึ้น แต่เราก็ยืนยันที่จะทำตลาดรถปิกอัพเจนเนอเรชั่นถัดไปอย่างแน่นอน"
อิโนอูเอะยังกล่าวถึงแผนการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต ว่ามาสด้ามองถึงการพัฒนาอย่างยั่งยืน โดยจะไม่มีการแนะนำรถยนต์ไฟฟ้าในประเทศที่ไม่มีแหล่งกำเนิดไฟฟ้าสะอาดอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม จะเน้นการแนะนำรถยนต์ไมลด์ไฮบริดและปลั๊กอินไฮบริดไปก่อน
สำหรับในตลาดประเทศไทยที่มีการประกาศโครงสร้างภาษีพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้านั้น ต้องพิจารณาโครงสร้างในภาพรวมที่ว่าพลังงานไฟฟ้าในประเทศไทยยังเป็นพลังงานไม่สะอาดอยู่ และหากแนะนำรถไฟฟ้า ก็จะไม่ได้สิทธิประโยชน์ทางด้านการลดมลภาวะในภาพรวมอยู่ดี
อย่างไรก็ตาม มาสด้ายังอยู่ระหว่างการเตรียมการเปิดตัวเทคโนโลยีเครื่องยนต์รุ่นถัดไปอย่างมาสด้า สกายแอคทีฟ เอ็กซ์ ที่จะมาพร้อมสมรรถนะที่โดดเด่นและการประหยัดน้ำมันที่ยอดเยี่ยม โดยวางแผนที่จะเปิดตัวเครื่องยนต์เบนซิน 2.0 ลิตร สกายแอคทีฟ เอ็กซ์ ในอนาคต
ทั้งนี้ เครื่องยนต์สกายแอคทีฟ เอ็กซ์นั้นมีการพิจารณาเพื่อผลิตในอาเซียนเช่นกัน โดยมาสด้ามีโรงงานผลิตเครื่องยนต์ในประเทศไทย ซึ่งมาสด้าเชื่อว่าเครื่องยนต์รุ่นใหม่นี้เป็นเครื่องยนต์เบนซินที่ประหยัดน้ำมันที่สุดในระดับเดียวกัน และจะเป็นฐานสำหรับการผลิตรถยนต์ไฮบริดในอนาคต
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น