โลกของการแข่งขันความเร็วในสนามแข่งรถเป็นโลกอีกหนึ่งใบที่ท้าทาย ทั้งการแข่งรถทางเรียบ และการแข่งบนทางออฟโรด ‘วิชาวัจณ์ โชติรวี’ หรือ ‘อาท ออฟโรด’ เป็นคนหนึ่ง ที่หลงใหลในการแข่งขับบนสนามออฟโรด
ทุกครั้งที่อาทเตรียมความพร้อมสำหรับสนามแข่งในแต่ละครั้ง ต่อให้ไม่ทราบหนทางข้างหน้าว่าจะทรหดขนาดไหน หัวใจของผู้ชายคนนี้ก็คึกคักและพร้อมจะออกไปลุยเสมอ นั่นเป็นเหตุผลให้กว่า 15 ปีบนเส้นทางนี้เต็มไปด้วยพลัง
“ความสุขของนักแข่งรถอยู่ที่การได้ปรับแต่ง จูนรถ เพื่อให้พร้อมกับสนามแข่ง แข่งแล้วก็จบกลับมาอย่างมีความสุข ถ้าทำได้ดีถ้วยรางวัลที่ได้ก็ถือว่าเป็นรางวัลของความพยายาม ผมคิดแค่ว่าถึงเวลาก็คงได้มา ไม่ต้องคิดว่า ไปแข่งทุกสนามแล้วจะต้องได้รางวัลกลับมาทุกครั้ง เพราะถ้าเป็นอย่างนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับคุณกดดันตัวเองตั้งแต่ก่อนจะไปแข่ง แต่ถ้าเราทำให้ดีที่สุด แล้วได้รางวัลกลับมา นั่นคือว่าเราทำได้ดีจริงๆ แต่ไม่ว่าจะอย่างไรผมเต็มที่กับเป้าหมายทุกครั้ง ได้หรือไม่ได้ก็ไม่เป็นไร”
“เวลาไปแข่ง ถามว่ากลัวอันตรายไหม จริงๆ ผมก็กลัวนะ และเชื่อว่านักแข่งทุกคนก็ต้องกลัวการเกิดอุบัติเหตุ เพราะมันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา เวลาเราอยู่ในระหว่างการแข่งขันออฟโรด มันเกิดขึ้นได้ ทั้งพลิกคว่ำ ตีลังกา เพราะฉะนั้นอย่างแรกที่ต้องมีเลยคือความไม่ประมาท ที่สำคัญคือประสบการณ์ก็ช่วยเราได้ระดับหนึ่ง เมื่อไหร่ก็ตามที่รถเริ่มจะโอเว่อร์เฟียร์ อันเดอร์เฟียร์ เราก็ต้องเอารถให้อยู่ แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าให้ได้ และต้องแข่งไปต่อไปให้ได้ด้วย แต่ผมก็โชคดีที่ไม่เคยมีอุบัติเหตุ”
ชีวิตบนเส้นด้ายของการเป็นนักแข่งความเร็วในสนามครอสคันทรี่เป็นเหตุผลสำคัญให้ วิชาวัจณ์ หรือ ‘อาท ออฟโรด’ ไม่เคยประมาทกับชีวิต ทั้งในสนามของการแข่งขัน และบนท้องถนนของชีวิตจริง
“ผมเป็นนักแข่งรถที่อยู่กับความเร็ว แต่พออยู่บนท้องถนนจริง ผมเป็นคนขับรถไม่เร็วเลย จะขับอยู่ที่ 80-90 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ขับไปเรื่อยๆ ไม่รีบร้อนและระมัดระวังทุกอย่าง ผมก็ไม่เข้าใจวิธีการขับรถของคนอื่นบนท้องถนนบ้างเหมือนกัน เช่น บางคนขับมาเร็วๆ พอถึงโค้งแล้วก็เบรก จริงๆ การขับแบบนี้มันทำให้รถเสียทั้งผ้าเบรก เสียทั้งยาง ถ้าขับไปเรื่อยๆ เข้าโค้งไปแบบธรรมดาๆ น่าจะดีกว่า”
“สิ่งที่เห็นชัดๆ จากการเป็นนักแข่งรถในชีวิตจริงคือ ผมจะไม่มีความประมาท ขับรถอยู่บนท้องถนน ผมจะไม่ขับรถเร็ว พยายามบอกตัวเองให้ใจเย็น เจอคนขับปาดหน้า เราก็พยายามจะตั้งสติ จริงๆ ผมเป็นใจร้อน แต่เรื่องนี้คนทั่วไปจะไม่ค่อยมีใครได้เห็นเท่าไหร่ เพราะผมเป็นคนสนุกสนาน หัวเราะ ยิ้มง่าย อีกอย่างผมมองว่าการที่เราสามารถคุมอารมณ์และสติของตัวเองได้ ไม่ว่าจะในสนามแข่งขัน หรือชีวิตจริง ย่อมเป็นเรื่องที่ดี”
สำหรับคนที่หลงใหลความเร็วแล้ว หลายคนมอง ‘วิชาวัจณ์’ หรือ ‘อาท ออฟโรด’ เป็นแบบอย่างของการล่าฝันบนถนนของความเร็ว โดยเฉพาะผู้ที่ฝันอยากเดินตามรอยบนเส้นทางสายเดียวกัน
“สำหรับคนที่อยากมาขับครอสคันทรี่ ผมให้คำแนะนำว่า หนึ่งคุณต้องมีใจรักการท่องเที่ยว หรือพื้นฐานอาจจะต้องมาจากคนชอบเที่ยวป่า เที่ยวอุทยานแบบลุยๆ ชอบขับรถแนว 4WD ซึ่งก็ต้องมองภาพให้ออกว่าจะออกแนวลุยและเปื้อน ถ้าสนใจและพบว่าเป็นทางที่ใช่จริงๆ ก็เริ่มฝึกขับรถ ซึ่งแนะนำว่าควรต้องเป็นพื้นที่ปิด ฝึกขับทางลูกรังเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถคอนโทรลรถได้แล้ว หลังจากนั้นก็มาปรับแต่งรถให้เหมาะกับสภาพถนนออฟโรด เริ่มจากช่วงล่างที่สำคัญที่สุด ค่อยๆ เริ่ม แล้วจึงค่อยเริ่มลงสนามแข่ง”
“ผมมองว่านักแข่งรถที่ดีต้องรู้เรื่องเครื่องยนต์บ้างในระดับหนึ่ง รวมถึงมีความใฝ่รู้ให้มาก อย่างเรื่องกติกาการแข่งก็สำคัญ เพราะการที่เราทราบกติกาที่เกี่ยวข้องกับการแข่งได้อย่างครบถ้วนยแล้ว เราก็จะสามารถทำรถออกมาเพื่อให้พร้อมสำหรับสนามนั้นๆ ได้จริง การแข่งรถในสนามครอสคันทรี่ เมื่อได้รถใหม่มาหนึ่งคัน ต้องเริ่มต้นจากสปอตตัวถัง ดามคัทซี เพื่อทำรถให้แข็งแรงมาก เสร็จแล้วก็ดามช่วงล่าง ดามปีกนกบน ปีกนกล่าง นอกจากนี้ยังต้องมีโช๊คที่ดี มียางที่ดี คือยางมัดเทอเรนที่ลุยโคลนโดยเฉพาะ เพราะเราต้องพารถไปใช้ในทางวิบากที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเส้นทางทั่วไป ตัวนักแข่งเองก็ควรต้องเป็นคนหมั่นฝึกฝน และดูแลสุขภาพตัวเองให้แข็งแรงด้วย"
“จริงๆ ปัจจัยที่มีความสำคัญกับการแข่งครอสคันทรีมีเยอะมาก นอกจากสภาพร่างกายและจิตใจของเราซึ่งเป็นคนขับต้องแข็งแรงและพร้อมจริงๆ แล้ว ตัวรถที่เราใช้แข่งเองก็มีความสำคัญ ถ้าเป็นไปได้ รถที่ใช้แข่งควรเป็นรถใหม่ เพราะเมื่อลงสนามแข่งเราจะใช้เครื่องยนต์หนักมากบนทางวิบาก ดังนั้นถ้าเครื่องยนต์ไม่ดีจริง หรือได้รับการปกป้องไม่ดีพอ เราก็จะไม่สามารถไปถึงฝันได้ อีกสิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจมากๆ ก็คือ น้ำมันเครื่อง ถ้าใช้เป็นน้ำมันเครื่องที่เกรดไม่ดี หรือดูแลปกป้องเครื่องยนต์ได้ไม่ถึง เครื่องยนต์จะร้อนและน็อคไปเลยก้ได้”
“นอกจากนี้หากต้องการเป็นนักแข่งอาชีพที่ไปให้ได้ถึงฝันได้ก็ต้องมีผู้สนับสนุนที่ดี และพร้อมจะไปถึงเป้าหมายเดียวกันด้วยเหมือนกัน ผมโชคดีที่มีผู้สนับสนุนที่ดี และพร้อมจะไปถึงเป้าหมายร่วมกัน อย่างน้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ เดโล่ ที่ผลักดันให้เราประสบความสำเร็จมาตลอด”
สนับสนุนข้อมูลโดย
น้ำมันเครื่องคาลเท็กซ์ เดโล่ สปอร์ต น้ำมันเครื่องคุณภาพสำหรั
สามารถติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
สามารถค้นหารถยนต์มือสองคุณภาพดี ได้ที่นี่
ความคิดเห็น