นิตยสารดิ อีโคโนมิสต์ (The Economist) ชี้ว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะถึงจุดเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในปีหน้า เนื่องจากจะมีสมรรถนะและมูลค่าที่แซงหน้ารถเครื่องยนต์ทั่วไป
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญไปที่ราคาแบตเตอรี่ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการทำตลาดและความต้องการของลูกค้า โดยต้นทุนต่อการพัฒนา 1 กิโลวัตต์-ชั่วโมงกำลังลดลงอย่างต่อเนื่อง พร้อมยกตัวอย่างว่าต้นทุนที่ต่ำลงทำให้เทสล่าสามารถขยายตลาดครอบคลุมทั้งรถระดับ 100,000 เหรียญสหรัฐไปจนถึงรถแมสที่มีราคา 35,000 เหรียญสหรัฐได้
นอกจากนี้ยังมีอีกหลายบริษัทรถยนต์ที่เดินหน้าพัฒนารถยนต์พลังงานไฟฟ้าและเทคโนโลยีแบตเตอรี่อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายค่ายที่มองว่ารถเครื่องยนต์สันดาปภายในจะยังคงมียอดขายมากกว่าไปอีกอย่างน้อย 10 ปี
ดิ อีโคโนมิสต์ชี้ว่า “การเติบโตของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะเปลี่ยนแปลงความต้องการใช้น้ำมันของโลก ซึ่งอาจทำให้กลุ่มชาติมหาอำนาจด้านพลังงานเปลี่ยนแปลงไป”
ทั้งนี้ การคาดการณ์ของดิ อีโคโนมิสต์เกิดขึ้นก่อนที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐอเมริกาจะประกาศปรับลดเงินอุดหนุนการใช้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าของชาวอเมริกัน ซึ่งอาจส่งผลกระทบด้านลบต่อตลาดรถพลังงานทางเลือกก็เป็นได้
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น