Test Drive New Toyota Yaris Hatchback
ทดสอบการขับขี่ Toyota Yaris Hatchback กับสมรรถนะปรับปรุงใหม่ ช่วงล่างดี เก็บเสียงเยี่ยม ออพชั่นจัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น
เรียกได้ว่าเป็นรถยนต์รุ่นเปิดตลาดสำหรับรถ แฮทช์แบค ในประเทศไทยเลยก็ว่าได้สำหรับ Toyota Yaris ด้วยการพัฒนารถยนต์ให้มีการใช้งานที่หลากหลาย ครอบคลุมทำให้เป็นที่ชื่นชอบต่อลูกค้าชาวไทย และลูกค้าทั่วโลก ในวันนี้เดินทางมาถึงรุ่นใหม่ล่าสุดซึ่งเป็นรุ่นปรับโฉมครั้งใหญ่ แต่ยังคงเอกลักษณ์เฉพาะตัวของยาริสไม่เปลี่ยนแปลง
หลังการเปิดตัว Toyota Yaris ATIV ซับคอมแพคซีดานรุ่นใหม่ล่าสุด ที่ได้เสียงตอบรับอย่างดีไปแล้วในช่วงเดือน สิงหาคม ที่ผ่านมา
Toyota Yaris Hatchback ก็เป็นอีกรุ่นที่มาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ครบครัน นอกจากรูปลักษณ์ที่โฉบเฉี่ยว ภายในสวยสะดุดตา สมรรถนะการขับขี่ที่ปรับปรุงใหม่ ถือเป็นรถยนต์ที่คุ้มค่า ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน
เริ่มต้นกันที่รูปลักษณ์ภายนอก ดีไซน์ใหม่ โดดเด่น โฉบเฉี่ยว ลงตัวมากขึ้น
Toyota Yaris Hatchback รุ่นปรับปรุงโฉมใหม่มาพร้อมรูปลักษณ์ภายนอกที่โดดเด่น สะดุดตา ไม่ว่าจะเป็นด้านหน้า ที่มาพร้อมไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟ LED Light Guiding
และระบบเปิด-ปิด ไฟหน้าอัตโนมัติ พร้อมด้วยระบบไฟส่องสว่างหลังจากดับเครื่องยนต์ Follow-Me-Home เพิ่มเติมความปลอดภัย (ระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ และระบบ Follow-Me-Home เฉพาะรุ่น G เท่านั้น)
ดีไซน์สอดรับกับเส้นสายกระจังหน้าให้ความโฉบเฉี่ยว และหรูหรา ปลอดภัยด้วยไฟส่องสว่างเวลากลางวันหรือ Daytime Running Light แบบ LED และชุดไฟตัดหมอกหน้า
ในส่วนด้านท้ายมาพร้อมไฟท้ายแบบ LED Light Guiding ดีไซน์ใหม่เช่นกัน ซึ่งทำให้รถยนต์ดูมีมิติมากขึ้น ดูสปอร์ตกว้างขวางสวยงาม อีกทั้งยังมาพร้อมเสาอากาศแบบครีบฉลาม (Shark Fin) ตามแบบฉบับรถพรีเมี่ยม โดยจะมีเฉพาะรุ่น G เท่านั้น
และไฮไลท์ที่โดดเด่นไม่แพ้ดีไซน์ใหม่ คงจะหนีไม่พ้นสีตัวถังใหม่กับสีเขียว Citrus Mica Metallic โดดเด่น ทุกมุมมองกว่าใครบนท้องถนนอย่างแน่นอน
ภายในใหม่ หรูหรา สวยงาม กว้างขวาง ไม่น้อยหน้าใคร
ไม่ใช่แค่ภายนอกที่มีการปรับใหม่ให้สปอร์ต สวยงามลงตัวมากขึ้นเท่านั้น ภายในก็ปรับเปลี่ยนใหม่ให้มีความสวยงามไม่แพ้กันเลยทีเดียว
ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบชุดแผงคอนโซลใหม่ ที่สวยงามลงตัวมากขึ้น การออกแบบช่องเก็บของต่างๆ ที่มีมากขึ้นเพื่อรองรับการใช้งานที่หลากหลาย
เริ่มต้นกันที่แผงคอนโซลหน้าดีไซน์ใหม่ตกแต่งด้วยดีไซน์เดินตะเข็บแบบรถสปอร์ต พร้อมชิ้นส่วนสีโครเมี่ยมตัดกับสีสันของแผงคอนโซล พร้อมพวงมาลัยหุ้มหนังแบบมัลติฟังก์ชั่น สามารถควบคุมเครื่องเสียง เครื่องเล่นวิทยุ CD/MP3/WMA พร้อมช่อง USB/AUX และระบบ Bluetooth กับการดีไซน์ใหม่สีเปียโนแบล็กพร้อมตัวหนังสือเรืองแสงสีฟ้า ทำให้มิติภายในมีความหรูหรา และทันสมัย ซึ่งรวมไปถึงดีไซน์ของชุดระบบปรับอากาศด้านล่างเช่นเดียวกัน
ถัดลงมาจะพบดีไซน์ใหม่สำหรับวางแก้วแบบ 2 ช่อง ที่มีขนาดค่อนข้างลึกสามารถวางแก้วหรือขวดน้ำขนาดใหญ่ได้สบายๆ พร้อมไฟส่องสว่างสีฟ้าอ่อนในเวลากลางคืน
ด้านมาตรวัดเรืองแสงดีไซน์ใหม่แบบ Optitron พร้อมจอแสดงข้อมูลการขับขี่ MID แสดงผลขนาดใหญ่สามารถอ่านได้ง่ายดาย พร้อมกันนี้ยังมาพร้อมระบบสตาร์ทเครื่องยนต์แบบ Push Start
ห้องโดยสารด้านหลังกว้างขวาง เข้า-ออกได้ง่าย สะดวก เบาะพับแบบ 60:40 พร้อมพื้นที่เก็บสัมภาระท้ายขนาดใหญ่ คาดว่าใหญ่ที่สุดในเซกเมนต์ตอนนี้
เครื่องยนต์สมรรถนะไว้ใจได้ น้ำหนักพวงมาลัย และช่วงล่างปรับใหม่ ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เครื่องยนต์เบนซิน 1.2 ลิตร 3NR-FE พร้อมเทคโนโลยี Dual VVT-I 4 สูบ DOHC ให้กำลังแรงม้าสูงสุดที่ 86 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที และแรงบิดสูงสุด 108 นิวตันเมตร ที่ 4,000 รอบต่อนาที
โดดเด่นด้วยอัตราการบริโภคน้ำมันที่มาพร้อมความประหยัด รองรับการเติมน้ำมัน E20 พร้อมอัตราเร่งที่ไว้ใจได้ ในส่วนพวงมาลัยพาวเวอร์ไฟฟ้าแบบ EPS มีการปรับจูนใหม่ เบาในช่วงความเร็วต่ำ และปรับหนักขึ้นเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูง ทำให้ควบคุมรถยนต์ได้ง่าย ขับขี่สบาย พร้อมความมั่นใจในทุกการขับขี่
จุดเด่นอีกประการคือระบบช่วงล่างกันสะเทือนด้านหน้าอิสระ แบบแมคเฟอร์สันสตรีท พร้อมเหล็กกันโคลง ระบบด้านหลังแบบ ทอร์ชั่นบีม และคอยล์สปริงพร้อมเหล็กกันโคลง ปรับเซ็ตใหม่ หนึบ แน่น กระชับ
ซับแรงได้ดีจนต้องยอมรับว่าระบบช่วงล่างใหม่เซ็ตมาดีมากทำให้การขับขี่มั่นใจแม้จะใช้ความเร็วสูงก็ตาม (อยากให้ทุกท่านทดลองขับด้วยตนเองแล้วจะติดใจ)
เก็บเสียงยอดเยี่ยม ออพชั่นจัดเต็มตั้งแต่รุ่นเริ่มต้นเช่น ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง และอีกมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นระบบความปลอดภัยทั้ง ถุงลมเสริมความปลอดภัย 7 ตำแหน่ง (คู่หน้า, คู่ด้านข้าง, ม่านคู่ด้านข้าง และบริเวณหัวเข่าผู้ขับขี่) ระบบเบรก ABS, ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี TRC, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชันหรือ HAC, ระบบกระจายแรงเบรก EBD และระบบเสริมแรงเบรก BA ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมดนี้มีมาให้ครบๆ ตั้งแต่รุ่นเริ่มต้น ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดาเลยทีเดียวกับออพชั่นที่จัดเต็มเช่นนี้
โดยรวมถือเป็นรถยนต์ แฮทช์แบ็ค ที่น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว ทั้งในส่วนของดีไซน์ใหม่ สมรรถนะการขับขี่ และออพชั่นจัดเต็ม ที่มีมาให้ชนิดทีเรียกว่าไม่หวงของ
จุดเด่นที่อยากเน้นอีกประการคือ ระบบช่วงล่างที่ปรับเซ็ตใหม่ ทำให้ขับขี่มั่นใจขึ้นจริงๆ การเก็บเสียงที่ยอดเยี่ยม รวมไปถึงสมรรถนะเครื่องยนต์ที่ไว้ใจได้
ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลอยากให้คุณผู้อ่านทุกคนได้ไปลองทดสอบขับขี่ด้วยตนเอง ที่โชว์รูม Toyota ใกล้บ้านท่าน ว่าโดนใจหรือไม่ แต่สำหรับผม ค่อนข้างคุ้มค่าและน่าใช้ไม่เบาสำหรับ New Toyota Yaris Hatchback รุ่นนี้
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น