ผู้บริหารระดับสูงด้านการวิจัยและพัฒนาของโตโยต้ามองว่า เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบดั้งเดิมจะไม่สามารถดึงดูดใจลูกค้าได้อีกต่อไปในอีกราว 30 ปีข้างหน้านี้
ปฏิเสธไม่ได้ว่าโตโยต้าเป็นผู้นำตลาดระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าของโลกด้วยการครองส่วนแบ่งตลาดราว 43% ของยอดขายทั่วโลกและมีแนวโน้มว่าจะเติบโตต่อเนื่อง ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจว่าค่ายรถยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่นรายนี้จึงคาดการณ์ไว้ว่าตลาดรถพลังไฟฟ้าจะเข้ามาแทนที่รถเครื่องยนต์สันดาปภายในภายในปี 2050
เซโกะ คูซุมากิ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและพัฒนาวิศวกรรมของโตโยต้าเชื่อว่า บริษัทผู้ผลิตรถยนต์จะต้องเผชิญกับข้อกำหนดด้านมลพิษที่เข้มงวดมากขึ้นในอนาคต ดังนั้นจึงต้องเร่งพัฒนาระบบพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะทำให้มีตลาดรถพลังงานทางเลือกขยายตัวอย่างรวดเร็ว
“เราคาดว่าภายในปี 2050 เราจะต้องลดปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ลงราว 90% เมื่อเทียบกับปริมาณในปี 2010 หรือแทบจะเรียกว่ามลพิษเป็นศูนย์เลยทีเดียว” คูซุมากิกล่าว “การทำเช่นนั้นได้นั้น เราจะต้องไม่ผลิตเครื่องยนต์สันดาปภายใน แต่จะหันไปหาระบบไฮบริดหรือปลั๊กอินไฮบริดแทน”
โตโยต้าเตรียมทำตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าภายในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยจะใช้แบตเตอรี่ลิเธียม-ไอออนที่สามารถขับเคลื่อนได้ราว 500 กม. ต่อการชาร์จไฟหนึ่งครั้ง ขณะเดียวกัน โตโยต้ายังกำลังพัฒนาแบตเตอรี่แบบโซลิดสเตท ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นการยกระดับเทคโนโลยีแบตเตอรี่ให้สูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพราะมีสมรรถนะดีขึ้น ระยะทางขับขี่ไกลกว่าเดิม และมีขนาดเล็กลงด้วย
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น