เมอร์เซเดส-เบนซ์ จ่อผลิตรถปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าปีนี้ รอหารือรายละเอียดแผนลงทุนให้สอดคล้องนโยบายรัฐ คาดแนวโน้มรถหรูปีนี้ดีเช่นเดียวกับภาพรวมตลาดรถยนต์
ไมเคิล เกรเว่ ประธานบริหาร บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างรอหารือกับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เรื่องรายละเอียดการส่งเสริมการลงทุนพัฒนารถปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัทที่มีแผนจะดำเนินการผลิตภายในปีนี้
ทั้งนี้ การลงทุนพัฒนารถปลั๊กอินไฮบริดจะเป็นรถรุ่นใหม่ ไม่เคยมีในไทย ซึ่งบริษัทจะทำภายใต้การสนับสนุนและการส่งเสริมการลงทุนของรัฐ เน้นทำตลาดในประเทศ สาเหตุที่เมเซเดส-เบนซ์ ตัดสินใจพัฒนารถปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า เพราะได้ประโยชน์ มีแรงจูงใจจากภาษีสรรพสามิตที่ลดลง อีกทั้งในส่วนของรถยนต์ไฟฟ้าถือเป็นเทรนด์ในอนาคต
"เมอร์เซเดส-เบนซ์จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการพัฒนารถปลั๊กอินไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าตามแผนการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ โดยใช้โรงงานที่สมุทรปราการ ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีกระแสข่าวเรื่องดังกล่าวมากขึ้น"
ไมเคิล กล่าวว่า ในปี 2561 แนวโน้มเศรษฐกิจดี สร้างความเชื่อมั่นให้ผู้บริโภคมากขึ้นจะส่งผลให้ตลาดรวมรถยนต์ดีขึ้น เช่นเดียวกันกับตลาดรถหรูที่มีแนวโน้มเติบโตดี โดยในปีนี้บริษัทจะทยอยเปิดตัวรถรุ่นใหม่กว่า 10 รุ่น ทุกเซ็กเมนต์ตลอดทั้งปี
นอกจากนี้ บริษัทจะสานต่อกลยุทธ์ "The Best" เน้นการขยายบริการที่ครบวงจร และประกาศแต่งตั้งผู้จำหน่ายรถยนต์แบรนด์ Mercedes-AMG จำนวน 11แห่งทั่วประเทศเพื่อรองรับลูกค้า
สำหรับปี 2560 เมอร์เซเดส-เบนซ์มียอดขายรถยนต์รวม 14,484 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 23% โดยมียอดขายเดือนธ.ค.อยู่ที่ 1,764 คัน เติบโต 26% ขณะที่ยอดขายเมอร์เซเดส-เบนซ์ทั่วโลก มียอดขายสูงถึง 2,289,344 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 9.9% ซึ่งส่วนใหญ่มาจากรถเอสยูวี ที่มียอดขายกว่า 8 แสนคัน หรือคิดเป็น 14% ของจำนวนรถทั้งหมด
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น