Isuzu เชื่อภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้สูงกว่า 9 แสนคัน ยอดขายเดือนม.ค.สูงกว่าคาดการณ์ Share this

Isuzu เชื่อภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้สูงกว่า 9 แสนคัน ยอดขายเดือนม.ค.สูงกว่าคาดการณ์

Wongsupat
โดย Wongsupat
โพสต์เมื่อ 25 February 2561

อีซูซุเชื่อภาพรวมตลาดรถยนต์ปีนี้สูงกว่า 9 แสนคัน เหตุยอดขายเดือนม.ค.สูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ ค่ายรถอาจใช้สงครามราคาดูดกำลังซื้อ

โทชิอากิ มาเอคาวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดรถยนต์ปีที่ผ่านมามียอดจำหน่ายในประเทศกว่า 8.71 แสนคัน ปีนี้คาดว่าจะดีขึ้นอยู่ในระดับ 9 แสนคันหรือมากกว่านั้น แต่จะดีขึ้นเท่าไร ยังประมาณไม่ได้ สาเหตุที่เชื่อมั่นเนื่องจากยอดขายรถโดยรวมเดือนม.ค.ที่ผ่านมาดีกว่าที่คาดการณ์ไว้

นอกจากนี้ รัฐบาลยังผลักดันการใช้จ่ายมากขึ้น เพราะการใช้จ่ายของภาครัฐมากขึ้นย่อมส่งผลให้เศรษฐกิจดีขึ้น และคาดว่าลูกค้าที่ซื้อรถคันแรกตั้งแต่ปี 2555 เริ่มกลับมาซื้อรถใหม่ ส่วนตลาดรถปี 2560 บริษัทมีส่วนแบ่งตลาดอยู่ที่ 18.4% ซึ่งปีนี้ต้องการรักษาส่วนแบ่งตลาดให้ได้เท่าเดิม

อย่างไรก็ตาม มองว่าตลาดรถปิกอัพน่าจะมีการแข่งขันรุนแรงมากเท่าๆกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดรถปิกอัพเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในตลาดรถยนต์รวม และรถปิกอัพมีจำนวนรุ่นน้อยกว่ารถเก๋ง ฉะนั้นจำนวนขายแต่ละรุ่นจะมากกว่า บริษัทผู้ผลิตย่อมต้องการส่วนแบ่งตลาดตรงนี้

"ปิกอัพเราส่งออกไปขายในตลาดต่างประเทศทั่วโลก ซึ่งผู้ผลิตรายอื่นก็ทำแบบนี้ หากดูจากปริมาณการผลิต ใครๆก็อยากได้ส่วนแบ่งตรงนี้ เพราะวอลลุ่มส่งออกและขายในประเทศเมื่อบวกกันปริมาณจะเยอะมาก ผู้ผลิตก็ต้องการแข่งขันกัน ปกติจะเป็นไปในรูปสงครามราคา แต่เราไม่ได้ใช้สงครามราคา"

ด้านการส่งออกในปี 2560 บริษัทส่งออกได้ 1.6 แสนคัน คาดว่าปีนี้น่าจะส่งออกได้มากขึ้นหรืออยู่ที่ 1.7 แสนคัน เพราะคิดว่าสถานการณ์ในกลุ่มประเทศตะวันออกกลางยังไม่กระเตื้อง แต่หากประเทศกลุ่มตะวันออกกลางดีขึ้นกว่านี้ ยอดส่งออกจะดีกว่านี้ ปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีตลาดใหม่เพิ่ม 2 ประเทศเป็นอย่างน้อย น่าจะเป็นอิหร่านและอาร์เจนตินา

ส่วนพฤติกรรมผู้บริโภคในปัจจุบันของตลาดรถปิกอัพมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างชัดเจนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ในการเลือกซื้อในรุ่น 4 ประตูยกสูง (ดับเบิลแคป) จากเดิมที่นิยมในรุ่น 2 ประตูตอนครึ่ง (สเปซแคป) ซึ่งต้องการความอเนกประสงค์ทั้งบรรทุกผู้โดยสารและบรรทุกสัมภาระ ซึ่งมีความแตกต่างจากรถยนต์นั่งที่มีข้อจำกัดในการบรรทุกสัมภาระเมื่อเทียบกับกระบะ ประกอบกับผู้ผลิตรถยนต์ต่างลดช่องว่างของราคาระหว่างดับเบิลแคปและสเปซแคปที่เดิมมีความแตกต่างกันมากลง ซึ่งมาจากปัจจัยด้านกำลังการผลิตเพื่อการส่งออกจึงสามารถบริหารจัดการต้นทุนได้ดียิ่งขึ้น

ปัจจัยการใช้จ่ายของภาครัฐยังส่งผลดีต่ออีกตลาดหนึ่งคือ ตลาดรถบรรทุก ซึ่งมองว่าปี 2561 ภาพรวมตลาดจะมีอัตราเติบโตอยู่ที่ราว 10% จากปีก่อนที่ตลาดมีอัตราหดตัวลง 4% หรืออยู่ที่ 27,044 คัน เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าที่อยู่ที่ 28,302 คัน

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ