วอลโว่ คาร์ส ประกาศผลกำไรจากการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้น 27.7% ไปอยู่ที่ 1.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยได้แรงขับเคลื่อนจากยอดขายรถที่สูงถึง 571,577 คันทั่วโลก
รายได้สุทธิของวอลโว่ คาร์สอยู่ที่ 2.6 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเพิ่มขึ้น 16.6% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2016 ซึ่งทำได้ 2.2 หมื่นล้านเหรียญ ขณะที่อัตราส่วนผลกำไรหรือมาร์จิตก็เพิ่มขึ้นเป็น 6.7% ในปีที่แล้วจากเดิมทำได้ 6.1% ในปีก่อนหน้า
ความสำเร็จดังกล่าวได้แรงขับเคลื่อนจากยอดขายรถยนต์ที่เพิ่มขึ้น 7.0% โดยเฉพาะในประเทศจีนซึ่งเติบโตมากถึง 25.8% นับเป็นตลาดเดี่ยวที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและสำคัญที่สุดของวอลโว่ คาร์สไปแล้ว
รถยนต์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากหนีไม่พ้นรถอเนกประสงค์ ทั้งเอ็กซ์ซี60 และเอ็กซ์ซี40 ขณะที่กลยุทธ์การพัฒนาระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าก็ทำให้วอลโว่ยืนอยู่แถวหน้าของอุตสาหกรรมยานยนต์ในแง่เทคโนโลยี
ไม่เพียงเท่านั้น วอลโว่ยังมีแบรนด์โพลสตาร์ที่เน้นพัฒนารถสมรรถนะสูงขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า จึงครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าพรีเมียม
ฮาคาน ซามูลเอลสัน ประธานกรรมการของวอลโว่ คาร์ส กล่าวว่า “ธุรกิจของเรามีการพลิกโฉมอย่างแท้จริงนับตั้งแต่ปี 2010 เป็นต้นมา และเราเดินหน้าสู่การเติบโตระดับโลกอย่างยั่งยืน เราลงทุนในทุกส่วนภายในองค์กรและมีกลยุทธ์ที่ชัดเจนในด้านพลังงานไฟฟ้า การเชื่อมต่อ และระบบขับขี่อัตโนมัติ”
ด้วยการจับมือกับจีลี่ โฮลดิ้ง กลุ่มทุนยานยนต์ยักษ์ใหญ่จากจีน วอลโว่จึงมีทรัพยากรที่เหมาะสมสำหรับการพัฒนาเทคโนโลยีด้วยต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งทำให้วอลโว่เติบโตอย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
ความคิดเห็น