เมื่อคุณต้องการรถ Crossover ที่พาคุณลุยไปทุกที่ อยากได้ทั้งสปอร์ตหรู แต่ความแรงไม่เป็นสองรองใคร All new Peugeot 3008 ตัวใหม่คือคำตอบของคุณ
เรามีเวลาสั้นๆ ไม่ถึง 1 วันเต็มกับ 3008 คันใหม่ ที่นำเข้าจากประเทศฝรั่งเศสทั้งคัน ซึ่งเจ้า All new Peugeot 3008 คันนี้ได้รับรางวัลมากมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Car of the Year 2017, Red Dot Design 2017, UKCoty, AutoExpress New Car Awards 2017 และ Car Buyer 2018 : Best SUV ยิ่งทำให้อยากไปสัมผัสคันจริงมากยิ่งขึ้น
รูปลักษณ์ภายนอก ใหม่หมด หล่อเหลา ดุดัน
ความแตกต่างที่เห็นระหว่างโฉมใหม่และตัวโฉมก่อนหน้าคือ ความดุดันและปราดเปรียว โดยเฉพาะโคมไฟหน้าในตัวโฉม 2018 ที่บ่งบอกถึงความทันสมัยและดูหล่อเหลากว่าโฉมก่อนหน้า และไฟท้ายหลังที่บอกให้เรารู้สึกกลายๆว่า SUV คันนี้เต็มไปด้วยความมีพลังและดุดัน ทำให้เราต้องหันไปมองอยู่หลายรอบอยู่เพราะมันช่างเตะตาเสียเหลือเกิน มันดูมีเอกลักษณ์ชวนให้เราจดจำว่านี่คือ All new peugeot 3008
มิติรถที่มีขนาด 4447x1841x1624 มม. (กว้างxยาวxสูง) โดยมีฐานล้อกว้าง 2675 มม. ซึ่งรถมาพร้อมกับล้ออัลลอย 18” และยาง Continental ส่วนระบบไฟหน้าและไฟตัดหมอกเป็นแบบ LED ซึ่งเมื่อรถมีการเลี้ยวโค้ง ไฟจะถูกปรับองศาตามทิศทางการเลี้ยวอีกด้วย นอกจากนี้รถยังติดเซนเซอร์ด้านหน้าตัวรถไว้อีกด้วย
มาดูด้านหลังรถกันบ้าง ไฟท้ายหลังเป็นแบบ LED นอกจากนี้ฝาท้ายประตูหลังยังเป็นระบบ Smart Electric Tailgate เมื่อต้องการเปิดฝาประตูท้าย เพียงแค่ยื่นเท้าไปด้านใต้กันชนตัวรถ(ซึ่งมีเซนเซอร์อยู่) ฝาท้ายจะค่อยเปิดออก เมื่อต้องการปิด ก็เพียงแค่ยื่นเท้าไปอีกครั้งเท่านั้นเอง ช่วยอำนวยความสะดวกเวลาแบกของพะรุงพะรังมาเก็บในรถได้เป็นอย่างดี พร้อมกับเซนเซอร์เตือนเวลาถอยหลัง
ส่วนด้านหลังคารถเป็นมี Panoramic glass roof ที่สามารถสั่งให้เปิดทำงานได้ด้วยสวิตซ์ออกคำสั่งภายในตัวรถ มาพร้อมกับม่านบังแดดที่เลือกระดับได้
นอกจากเรื่องของรูปทรงที่มีความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น ทาง Peugeot เอง ได้พัฒนาฝากระโปรงหน้าขึ้นมาใหม่ ซึ่งจะมีน้ำหนักที่เบากว่าเดิม เรียกได้ว่าถ้าเปิดฝากระโปรง สามารถยกเปิดขึ้นได้มือเดียวสบายๆ แต่ก็ยังคงความแข็งแรงตามมาตรฐานไว้
ระบบขับเคลื่อน ขุมกำลัง 2.0 ดีเซล พร้อม Turbo แรงได้ตามใจสั่ง
สำหรับรุ่นที่เราได้มาทดสอบนี้เป็นรุ่น 2.0 ดีเซล พร้อมกับ Turbo แปรผัน ให้กำลังแรงม้าที่ 150 แรงม้า ที่ 3,750 รอบต่อนาที พร้อมแรงบิดสูงสุด 340 นิวตันเมตร ที่ 2,000 รอบต่อนาที ทำให้พอคาดคะเนได้ว่า รถต้องตอบสนองในรอบเครื่องต่ำได้อย่างเหลือล้นอย่างแน่นอน
3008 มาพร้อมกับเกียร์ Auto 6 สปีด ซึ่งทางค่ายเรียกว่า Efficient Automatic Transmission (EAT6) พร้อมมี Quickshift Technology และแป้น Paddle Shift เปลี่ยนเกียร์ได้เองที่พวงมาลัยอีกด้วย
ช่วงล่างและระบบความปลอดภัยในตัวรถ
All new Peugeot 3008 ขับเคลื่อนด้วยระบบล้อหน้า โดยเบรคคู่หน้าเป็นจานเบรคพร้อมช่องระบายความร้อน ส่วนล้อคู่หลังเป็นดิสค์เบรคปกติ ช่วงล่างด้านหน้าใช้ Psuedo MacPherson สตรัท ในขณะที่ด้านหลังเป็นแบบ Semi-independent deformable
รถให้ Airbag มา 6 ลูก พร้อมระบบช่วยเหลือในการขับขี่และความปลอดภัยต่างๆ
- Advance Grip Control การปรับโหมดขับขี่สำหรับสถานะการณ์ต่างๆ 5 แบบ : ปกติ, เปิด/ปิด ESP , ลุยหิมะ, ลุยโคลน หรือลุยพื้นทราย
ระบบช่วยลงที่เป็นเนินลาด รถจะค่อยๆไหลลงโดยที่ไม่ต้องแตะคันเร่งหรือเหยียบเบรคมากนัก
ESP, ABS, EBA, ASR, DSC
การแจ้งเตือนเมื่อรถขับเร็วเกินกำหนดที่ตั้งไว้ การแจ้งเตือนเมื่อรถออกนอกเลน การแจ้งเตือนเมื่อมีรถอื่นขับเข้าใกล้ด้านข้างมากเกินไป
เท่านี้ที่เห็นแบบคร่าวๆ ซึ่งจริงๆแล้ว Peugeot เค้าใส่เทคโนโลยีอื่นๆมาไว้ให้รถอีกเยอะมาก ในไทยอาจได้ใช้แค่บางโหมดเท่านั้นสำหรับ Advance Grip Control (ลุยหิมะ น่าจะไม่ได้ใช้ ฮ่าๆ)
ภายในคือ สปอร์ต หรูทุกสัมผัส
สัมผัสแรกตั้งแต่เปิดประตูฝั่งคนขับเข้าไปคือ ประตูมีน้ำหนักอยู่มากทีเดียว รวมถึงรายละเอียดการเก็บงานตามขอบยางต่างๆ แม้กระทั่งการใส่ขอบกำมะหยี่ตามริมประตู ทำให้มั่นใจได้ว่าเก็บเสียงดีแน่นอน
ภายในรอบๆคันจะมีไฟ LED สีฟ้าส่องสว่างอยู่รอบๆ ไม่ว่าจะเป็นแผงประตู คอนโซลรถต่างๆ ช่วยเพิ่มความรู้สึกพรีเมี่ยมในตัวรถมากยิ่งขึ้น
i-cockpit ความรู้สึกของรถสปอร์ตซิ่ง ผสานความมีระดับหรูหรา
อีกหนึ่งจุดขายของ 3008 คือการออกแบบห้องโดยสารสำหรับผู้ขับขี่ให้มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่ง Peugeot เรียกว่า i-cockpit ผ่านการผสมผสานกันสองส่วน นั่นคือเพิ่มความรู้สึกของห้องโดยสารและทำให้ผ่อนคลายไปกับความปลอดโปร่งแก่ผู้ขับขี่
เมื่อเข้ามานั่งเบาะคนขับ สิ่งที่สะดุดตาในครั้งแรกที่เห็น คือ ปุ่มคำสั่งในตัวรถแบบ Piano key ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากปุ่มเครื่องเล่นเปียโน ดูเหมือน Peugeot จะตั้งใจลดการใช้ปุ่มต่างๆและรวบไปอยู่บนแผงนี้ทั้งหมด เมื่อมันไปมองพวงมาลัย multi-function ที่เป็นแบบสองก้าน หุ้มหนังเย็บอย่างดี พร้อมแป้น Paddle-shift ที่สามารถเพิ่มหรือลดเกียร์ได้ทั้งใน Sport mode และ Manual
ด้านหน้าปัดแสดงผลตัวรถขนาด 12.3” นั้นมีความโดดเด่นเป็นอย่างมาก เพราะเป็นหน้าจอสี Digital Screen แบบ TFT สามารถเลือกการแสดงผลต่างๆของตัวรถ ไม่ว่าจะเป็นความเร็ว รอบเครื่องยนต์ อัตราการกินน้ำมัน ระยะทางระหว่างทริปได้ทั้งหมดสามแบบ
- Dial หน้าปัดจะแสดงผลแบบเป็นเข็มกวาด
- Navigation หน้าจอแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นลักษณะแถบเลื่อน ระบบนำทางจะมาอยู่ตรงกลางจอแทน
- Driving หน้าปัดแสดงผลจะเปลี่ยนเป็นลักษณะแถบเลื่อน และจะมีคำสั่งช่วยเหลือขณะขับขี่ขึ้นมาแทน
ในส่วนของหน้าปัดวิทยุ Peugeot เลือกใช้หน้าจอสัมผัสแบบ infotainment ขนาด 8.0 นิ้ว ซึ่งให้การสัมผัสและตอบสนองต่อคำสั่งบนปลายนิ้วได้รวดเร็วและลื่นไหล
ในส่วนของช่องด้านล่างแผง Piano key จะมีช่องสำหรับ wireless charger และมีช่องสำหรับจุดบุหรี่
ส่วนของเครื่องเสียงได้ลำโพง 4 ดอก พร้อม tweeter คู่หน้าจาก Focal
มาดูส่วนของเกียร์รถกันบ้าง ด้ามเกียร์ตกแต่งด้วยหนังอย่างดี ขอบโครและสี piano black สอดรับเข้ากับแผง i-cockpit ของรถ นอกจากนี้ การเปลี่ยนเกียร์ไปยังตำแหน่งต่างๆ ใช้วิธีการโยกเกียร์ขึ้น-ลงเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีปุ่ม sport ที่อยุ่ด้านล่างไว้ใช้ในกรณีที่ต้องการทำความเร็วให้ทันใจมากยิ่งขึ้น
เบาะผู้โดยสารด้านหลังมีช่องแอร์ปรับแยกซ้ายขวาให้ด้วย
ทดสอบขับขี่จริง
ผู้ทดสอบได้มีโอกาสขับทดสอบเป็นระยะเวลาสั้นๆประมาณครึ่งวัน แต่กระนั้นก็ยังพอจับความรู้สึกต่างๆที่มีขณะขับขี่ได้หลายๆจุดทีเดียว
เราเริ่มออกสตาร์ทกันตั้งแต่ศูนย์ Peugeot สาขาทองหล่อ ขับวนออกไปทางเส้นศรีนครินทร์ ซึ่งเส้นทางในขณะขี่มีรถหนาแน่นเป็นช่วงๆ บางจังหวะสามารถลองเร่งทำความเร็วได้ และเส้นที่วิ่งผ่านมีการขุดเจาะถนนสำหรับ BTS อีกด้วย ถือว่าเราได้ทดสอบสมรรถนะไปคร่าวๆพอสนุกๆ
การเก็บเสียง ทาง Peugeot เคลมว่ารุ่นนี้ทำการบ้านเรื่องการเก็บเสียงมาดี แม้ว่าจะวิ่่งเกิน 120 กิโลเมตร/ชั่วโมงไปก็ยังเงียบอยู่ ในสถานการณ์จริง เราลองสังเกตเสียงเครื่องยนต์ตั้งแต่เริ่มทำงาน ขณะวิ่ง ถือว่าเงียบหูเลยทีเดียว ในขณะที่เสียงภายนอก มีเงียบจริง เก็บเสียงดีมาก เสียงภายนอกที่เล็ดลอดเข้ามา คือเราได้ยินเสียงแค่ท่อ Big Bike ที่เบิ้ลเครื่องแซงเราไป กับเสียงเครื่องขุดเจาะถนนบ้างเท่านั้นเอง ถือว่าเงียบเลย
กระด้างไหม? ตอบเลยว่านุ่มนวลกว่าที่คิด
เราลองขับรูดไปบนนถนนที่มีการเจาะลอกถนน และมีทางรถไฟตัดผ่าน ถือว่าช่วงล่างมีความนุ่มนวล เพราะลองขับรูดทางรถไฟไปแบบไม่ผ่อนคันเร่ง ผู้โดยสารภายในยังไม่มีการหัวทิ่มหัวตำหรือบ่นให้ได้ยิน อิอิ
แรงบิดเหลือล้น
กดแรงไปนิด มีล้อฟรีทิ้งด้วย (มีดึงหลังติดเบาะ) ยิ่งถ้ากด Sport Mode จะเป็นการออกคำสั่งให้น้ำหนักพวงมาลัยเบามือขึ้น ช่วงล่างตอบสนองไวยิ่งขึ้น มุดไปมุดมาสบาย ใครที่กลัวว่า SUV คันใหญ่ จะอืดหรือเปล่า คันนี้เค้าให้แรงบิดทะลักมาตั้งแต่รอบเครื่องยนต์ต่ำๆเลยนะ
สรุปส่งท้าย
All new Peugeot 3008 กับค่า 2.699 ล้านบาท กับรถนำเข้าจากฝรั่งเศส (ยางยัง made in france) สมรรถนะของรถ การดีไซน์ภายในระบบช่วยเหลือการขับขี่ที่ยังไม่ได้ลองทุกฟังก์ชั่นแต่ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายเพียงแค่เอื้อมมือบิดหมุน Gear Box ใช้งานง่ายจริง พร้อมกับเบรคมือไฟฟ้า เบาะออกแบบมาให้นั่งขับได้นานๆ รวมถึงหน้าปัดแบบ TFT ที่มีลูกเล่นแสดงผลแบบตั้งค่าได้หลายรูปแบบ หน้าจอวิทยุขนาด 8.0” นิ้ว ช่องชาร์จมือถือแบบไร้สาย ภายในตกแต่งด้วยหนังอย่างดี รับกับแผงคอนโซลโทน piano black สมรรถนะการขับขี่โดดเด่นจะขับเรื่อยๆ หรือจะกดมุดไปบนถนนก็ทำได้ ที่ชอบจริงๆคือความนุ่มนวลของช่วงล่างและการเก็บเสียง ส่วนที่เราเห็นจะต้องติก็อาจจะมีเพียงรุ่นนี้ไม่มียางอะไหล่ มีน้ำยาปะยางให้แทน ซึ่งหลายคนอาจจะไม่ชอบ แต่ก็นานาจิตตัง และเรื่องราคา ที่ Peugeot ตั้งราคาขายมาขนาดนี้ ก็ต้องมาลุ้นกันว่าผู้ซื้อที่เป็นสาวกของค่ายนี้จะว่าอย่างไรกันบ้าง เพราะว่าถ้าเทียบกันกับของคู่แข่ง ก็มีตัวเลือกให้ได้ตัดสินใจกันเยอะทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมว่าเจ้า 3008 นำเข้ามาจากฝรั่งเศส เรื่องการประกอบ วัสดุ รายละเอียดต่างๆนั้นเค้าจัดเต็ม อ่อ แว่วว่าล็อตต่อไปยังเป็นรถนำเข้าจากฝรั่งเศสเหมือนเดิม แต่อาจมีทางเลือกเครื่องยนต์ขนาดบล็อคอื่นๆให้ผู้บริโภคได้ติดสินใจมากขึ้นอีก
น่าเสียดาย น่าจะมีเวลาได้ลองกดเจ้า SUV คันนี้ยาวๆอีกซักวันสองวัน เพราะมันขับสนุกจริงๆนั่นแหล่ะ!
รีวิวโดย @megaTON
ติดตามข่าวสารอัพเดตเพิ่มเติม ได้ที่นี่
ค้นหารถยนต์มือสองสภาพดีการันตีจาก วันทูคาร์ ได้ที่นี่
ความคิดเห็น