[Test Ride] Honda CB300R เน็กเก็ตไบค์สไตล์คาเฟ่ เท่ไม่ซ้ำใคร

ครั้งแรกที่ผมเห็นการเปิดตัว Honda CB300R บอกเลยว่ารถคันนี้ออกแบบมาสะดุดตามาก ซึ่งทาง Honda ได้ออกแบบรถมาใหม่ทั้งคันในแนวคิด NEO SPORTS CAFÉ ส่วนจะมีอะไรเปลี่ยนไปบ้างนั้น ติดตามชมได้ในบทความด้านล่างนี้ได้เลยครับ

Honda CB300R เป็นรถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ที่ทาง Honda ได้เปิดตัวไปเมื่อช่วงเดือนมกราคมที่ผ่านมา ออกแบบมาในแนวคิด นีโอ สปอร์ต คาเฟ่ (NEO SPORTS CAFÉ) ซึ่งในไลน์อัพนี้ยังมีพี่น้องอีก 2 รุ่นนั่นคือ CB150R น้องเล็กสุดในคลาส 150 ซีซี ที่ทาง Autospinn ได้เคยรีวิวไปแล้ว และยังมีรุ่น CB1000R เป็นพี่ใหญ่คลาส 1000 ซีซี อีกด้วย ส่วนรายละเอียดของเจ้า CB300R จะเป็นอย่างไรนั้นไปชมกันได้เลยครับ

ดีไซน์ใหม่ไม่ซ้ำใคร

ด้วยแนวคิดการออกแบบใหม่ของฮอนด้า ที่จับเอาความคลาสสิกมาผสมเข้ากับความทันสมัย จึงใส่ใจความสวยงามผ่านอุปกรณ์ที่จัดเต็มมาให้

จุดแรกเห็นได้ชัดเจนคือไฟหน้า LED ทรงกลม มาพร้อมไฟสูงและไฟต่ำในโคมเดียวกัน ให้ความสว่างที่เพียงพอและสวยงามเข้ากับตัวรถ ส่วนไฟท้าย และไฟเลี้ยวเป็น LED ให้ความโดดเด่นกว่าใคร

โช๊คหน้าหัวกลับขนาดแกน 41 มม. เทียบเท่ากับรถ Honda X-Adv รถบิ้กไบค์สายลุยของฮอนด้า มาพร้อมกับจากดิสเบรกขนาดใหญ่ถึง 296 มม. ส่วนปั้มเบรกเป็นแบบเรเดี้ยลเม้าท์ 4 พอต จาก Nissin และยังมาพร้อมกับระบบ ABS G-Sensor สไตล์รถ BigBike อีกด้วย มั่นใจได้ในประสิทธิภาพ

โช๊คหลังเป็นแบบต้นเดี่ยววางเฉียงไปในแนวลำตัวรถเหมือนกับรถสปอร์ต สามารถปรับระดับแข็ง-อ่อนด้วยตนเองได้ถึง 7 ระดับ

แฟริ่งสีเงินด้านข้าง ติดโลโก้ CB300R ขับความเด่นของตัวรถออกมาให้แตกต่างจากรถคันอื่นบนท้อนถนน และเป็นการแยกความแตกต่างระหว่างรุ่น 150 และ 300 ด้วย เนื่องจากทั้ง 2 รุ่นนี้ใช้การออกแบบที่ใกล้เคียงกันมาก

ล้อแม็กแบบก้านคู่ พร้อมสวิงอาร์มคู่สไตล์สปอร์ต โดยส่วนตัวผมว่ามันดูเท่กว่าสวิงอาร์มแบบกล่องของ CB300F และ CBR300R รวมถึงตระกูล CB500X/F/R ซึ่งเป็นสวิงอาร์มที่ใช้งานมาตั้งแต่ยุคบุกเบิกของฮอนด้าเลยทีเดียว และยังมาพร้อมดิสเบรกหลังและปั้มเบรกจาก Nissin

ท่อไอเสียออกแบบใหม่ให้มีขนาดใหญ่เหมือนรถ BigBike มาพร้อมกับการ์ดป้องกันความร้อน ให้เสียงที่ดุดัน แต่ก็ไม่ดังจนเกินกฎหมายกำหนด

เรือนไมล์แบบดิจิตอล บอกข้อมูลการขับขี่ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นรอบเครื่องยนต์ มาตรวัดความเร็ว นาฬิกา โหมดจับทริป A B มาตรวัตรอัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน แบ่งเป็นมาตรวัดค่าความสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยและมาตรวัดความสิ้นเปลืองในขณะขับขี่ นอกจากนี้ยังมีมาตรวัดอุณหภูมิน้ำหล่อเย็นอีกด้วย

ข้อสังเกตุของเรือนไมล์ตัวนี้ที่แตกต่างจากตัว 150R คือไม่มีการบอกตำแหน่งเกียร์นั่นเอง

ถังน้ำมันออกแบบมาให้หนีบได้กระชับเข้ากับตัวรถได้เป็นอย่างดี มาพร้อมความจุสูงถึง 10 ลิตร สามารถขับขี่ได้ไม่ต่ำกว่า 250 กิโลเมตรต่อถัง มาพร้อมกับแฮนบาร์แบบแฟตบาร์ หรือแฮนอ้วนที่เราคุ้นเคยกันดี ส่วนของเบาะนั่งเป็นแบบ 2 ตอน ความสูงจากพื้นถึงเบาะนั่งคนขับอยู่ที่ 80 เซ็นติเมตร

เครื่องยนต์

Honda CB300R ใช้เครื่องยนต์แบบ 1 สูบ DOHC ขนาด 286 cc ระบายความร้อนด้วยน้ำ ให้แรงม้าสูงสุดที่ 31 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 27 นิวตันเมตร

ระบบคลัชมือ พร้อมเกียร์ 6 สปีด ความเร็วสูงสุดที่ทดสอบได้อยู่ที่ 160 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และด้วยน้ำหนักตัวรถที่เบามากเพียง 143 กิโลกรัม เรียกได้ว่ากำลังเครื่องยนต์ตัวนี้ให้มาเหลือเฝือครับ

การทดสอบขับขี่

เจ้า Honda CB300R เป็นรถที่ขับขี่ได้ง่ายมาก จุดศูนย์ถ่วงของรถอยู่ต่ำมาก ทำให้พลิกรถได้ง่าย และมีความคล่องตัวสูงเนื่องจากมีระยะฐานล้อที่สั้น ทำให้รถมีวงเลี้ยวแคบ ขับขี่ไหลไปตามการจราจรที่ติดขัดได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเราได้ทำการทดสอบขับขี่ในกรุงเทพฯ ผ่านชั่วโมงเร่งด่วนในตอนเช้าก็ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างไร ตัวรถสามารถพาเราผ่านการจราจรกันติดขัดได้อย่างสบายๆ

กำลังของเครื่องยนต์ขนาด 300 ซีซี ถือว่าไม่น้อยไม่มากจนเกินไป อยู่ในระดับที่กำลังขี่สนุก ขับทำความเร็วช่วง 0-100 ทำได้ไม่ยากนัก แต่ถ้าหากต้องการใช้ความเร็วที่สูงกว่านั้นอาจจะต้องรอให้รอบเครื่องไหลบ้าง เนื่องจากเป็นเครื่องยนต์สูบเดียว ซึ่งลักษณะของเครื่องสูบเดียวจะเด่นเรื่องแรงต้นถึงกลางมากกว่าในช่วงปลายนัก จึงไม่แปลกที่ความเร็วสูงแล้วอัตราเร่งจะลดลง

อัตราสิ้นเปลืองโดยเฉลี่ยขณะใช้งานภายในเมืองอยู่ที่ 28 กิโลเมตรต่อลิตร ส่วนการขับขี่ทางไกลอยู่ที่ 30-32 กิโลเมตรต่อลิตร ซึ่งถือว่าประหยัดน้ำมันใช้ได้เลยทีเดียว

ในส่วนของช่วงล่างตอบสนองได้ดีเยี่ยม ซับแรงกระแทกจากถนนได้เป็นอย่างดี การเข้าโค้งนั้นสามารถทำได้ดี แม้ใช้ความเร็วสูงก็ไม่มีอาการท้ายห้อยท้ายปัดขณะเข้าโค้งแต่อย่างใด

ระบบเบรกทำได้ดีเยี่ยม มีความหนักแน่นและแม่นยำสูง แม้กดเบรกที่ความเร็วสูง ก็สามารถหยุดรถได้ดั่งใจโดยไม่ต้องกังวลว่าล้อจะล็อกด้วยระบบ ABS ที่ติดตั้งมากับตัวรถทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เพื่อป้องกันล้อล็อกขณะเบรกหนัก

สรุปแล้วเจ้า Honda CB300R เป็นรถที่เหมาะสำหรับการขับขี่ทั้งในชีวิตประจำวัน และการออกทริป เพราะด้วยออปชั่นที่ฮอนด้านั้นได้ใส่มากับเจ้ารถคันนี้ถือว่าครบครัน นอกจากนี้แล้วยังมีหน้าตาที่หล่อเหลาเอาการ ไม่ซ้ำใครในท้องถนน เรียกได้ว่าขี่ไปไหนก็มีแต่คนเหลียวแน่นอน

สำหรับราคาวางจำหน่ายของ Honda CB300R อยู่ที่ 149,800 บาท ซึ่งเราสามารถเข้าไปชมตัวจริงได้ที่ศูนย์ Honda Wing Center ครับ