เรียกได้ว่าเป็นคำถามยอดฮิตติดลมบนที่สุดของคนที่อยากออกรถ BigBike ว่า ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ถึงจะซื้อไหว เงินเดือนเท่านี้จะซื้อไหวไหมนะ วันนี้ทาง Autospinn จะมาไขข้อข้องใจนี้ให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันครับ
รถจักรยานยนต์ขนาดใหญ่ หรือรถ BigBike ที่หลายๆ คนนั้นเรียกกัน เป็นรถจักรยานยนต์ที่มีสมรรถนะสูง มีความเร็วความแรงมากกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไปอยู่มากโข อีกทั้งยังมีความสวยงาม พร้อมความหล่อความเท่ ด้วยดีไซน์การออกแบบที่แตกต่างจากรถจักรยานยนต์ปกติทั่วไป ทำให้เวลาขับไปไหนก็เป็นที่สนใจ ขี่ไปไหนก็มีแต่คนอยากคุยด้วย อีกทั้งด้วยพละกำลังที่มากมายของมัน ทำให้ผู้ใช้งานที่หลงไหลในความเร็วยอมที่จะเปย์เงินจำนวนมากเพื่อครอบครองให้ได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้การครอบครองเจ้ารถ BigBike นี้ไม่ได้ยากเหมือนแต่ก่อนแล้ว แค่เพียงคุณทำงานมีรายได้ก็สามารถออกรถได้อย่างง่ายดาย
แน่นอนครับว่าด้วยสิ่งต่างๆ ที่เจ้า BigBike มอบมาให้นั้นย่อมมากับราคาค่าตัวที่แพงกว่ารถจักรยานยนต์ทั่วไปแน่นอน ซึ่ง BigBike ในประเทศไทยอ้างอิงจากค่ายรถต่างๆ จะใช้ขนาดเริ่มต้นที่ 400 ซีซี ซึ่งราคารถใหม่ออกศูนย์จะเริ่มต้นอยู่ที่แสนกลางๆ ขึ้นไปจนถึงหลักเหยียบสิบล้านบาทก็มี !
คำถามที่เพื่อนๆ ส่วนใหญ่มักถามกันเข้านั้นจะมีคำถามยอดฮิตนึงว่า
"มีเงินเดือนเท่านี้ ออกรุ่น....ไหวไหม"
ซึ่งวันนี้ทาง Autospinn เราจะมากางสูตรคำนวณง่ายๆ ให้เพื่อนๆ ได้นำไปใช้งาน นำไปบอกต่อให้เพื่อนๆ ได้ลองนำไปใช้กันดูครับ
หลักการคำนวณ
สมมุติว่าเรามีรายได้อยู่เดือนละ 15,000 บาท
ไฟแนนซ์ส่วนใหญ่จะใช้หลักการคำนวณยอดผ่อนจาก 1 ใน 3 ของเงินรายได้ที่เรายื่นให้ไฟแนนซ์ ก็คือ 5,000 บาท นั่นหมายความว่ายอดผ่อนรถที่เราสามารถจ่ายให้ไฟแนนซ์สูงสุดนั้นจะอยู่ไม่เกิน 5,000 บาท บวกลบได้นิดหน่อย
ทีนี้เราก็ต้องมาดูตารางผ่อนกันว่ารถรุ่นที่เราหวังนั้นอยู่ในระดับที่ไฟแนนซ์ต้องการหรือไม่ ยกตัวอย่างเช่น Honda CBR650F ราคาเงินสด 303,000 บาท ซึ่งในใบเสนอราคาเราจะเห็นตารางราคาเงินสด ราคาวางดาวน์ที่คิดเป็นเปอร์เซ็น อัตราดอกเบี้ย ยอดจัดไฟแนนซ์ และตารางการผ่อนชำระ
ทีนี้เงินรายได้ของเราคือ 15,000 บาท เรารู้หลักการคำนวณของไฟแนนซ์แล้วว่า ยอดผ่อนสูงสุดของเราคือ 1 ใน 3 ของเงินรายได้ที่เรายื่นให้ไฟแนนซ์ตรวจสอบ ซึ่งก็คือจำนวนเงิน 5,000 บาท
ซึ่งจากตารางแล้วจะเห็นว่า สูตรที่เราจะครอบครองเจ้า CBR650F คันนี้ได้จะมีอยู่ 3 แบบคือ
- ดาวน์ 15% ผ่อน 5 ปี ตกเดือนละ 5,097 บาท ผ่อนจบอยู่ที่ 351,320 บาท
- ดาวน์ 20% ผ่อน 5 ปี ตกเดือนละ 4,798 บาท ผ่อนจบอยู่ที่ 348,480 บาท
- ดาวน์ 30% ผ่อน 4 ปี หรือ 5 ปีก็ได้ ผ่อนจบอยู่ที่ 334,836 และ 342,780 บาท ตามลำดับ
การดาวน์รถด้วยวงเงินที่สูงดีกว่าการดาวน์ด้วยวงเงินที่น้อย เพราะการดาวน์น้อยนั้น นอกจากจะโดนดอกเบี้ยสูงแล้วยังต้องจ่ายเงินมากกว่าด้วย เห็นได้จากอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยนแปลงไปได้อย่างชัดเจน การผ่อนระยะเวลา 4 ปีนั้นสามารถประหยัดเงินได้มากถึง 8,000 บาทเลยทีเดียว
"ยิ่งดาวน์เยอะ ผ่อนสั้น จะเสียดอกเบี้ยน้อยที่สุด"
เพราะฉะนั้นแล้ว สูตรที่ทางผมอยากจะแนะนำให้เพื่อนๆ ได้ใช้กันคือ ดาวน์ในวงเงินที่สูงที่สุดที่เราดาวน์ไหว และผ่อนในระดับราคาที่สัมพันธ์กับรายได้ของเรา เพราะต้องอย่าลืมนะครับว่ารถ BigBike เป็นรถจักรยานยนต์สมรรถนะสูง สิ่งที่ตามมาเป็นเงาตามตามคือ "ค่าบำรุงรักษา" ที่สูงมากกว่ารถยนต์ญี่ปุ่นเสียด้วยซ้ำไป เข้าเช็คระยะในแต่ละครั้ง เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องแต่ละที ถ้าใช้ของดีๆ ก็มี 2,000 บาทขึ้นไปต่อครั้ง นอกจากน้ำมันเครื่องแล้ว ยังมีเรื่องของอะไหล่สิ้นเปลืองอื่นๆ อีก อาทิเช่นยาง โซ่ สเตอร์ ไหนจะของแต่งเพิ่มอีก หรือคำนวณง่ายๆ ค่าบำรุงรักษาเฉลี่ยกิโลเมตรละประมาณ 2 บาท และค่าน้ำมันเฉลี่ยกิโลเมตรละ 1 บาท แล้วแต่ความหนักเบาของมือ เรียกได้ว่าออกทริปแต่ละที หยอดกระปุกไว้ได้เลย
หากเพื่อนๆ ได้ใช้สูตรการคำนวณนี้ก่อนจะซื้อ BigBike สักคัน รับรองได้เลยว่าจะไม่ต้องมาเจอปัญหาผ่อนไม่ไหว ต้องมาขายดาวน์ต่อ หรือต้องปล่อยให้รถสุดที่รักถูกยึดแน่นอนครับ
สุดท้ายนี้นอกจากเราจะมีเงินออกรถได้แล้ว สิ่งที่อย่าละเลยไปคือเรื่องของการบำรุงรักษารถ รวมถึงอุปกรณ์การขับขี่ครบครัน และที่สำคัญที่สุดคือ "ทักษะการขับขี่" ซึ่งทั้งหมดนี้เราจะมาเล่าสู่กันฟังให้เพื่อนๆ ได้รับชมกันอีกในครั้งต่อไปครับ
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสองเชิญที่นี่
ความคิดเห็น