Deus Ex Machina คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรมจากออสเตรเลีย ชวนย้อนเวลาสนุกไปกับบรรยากาศงานเทศกาลของไทยสมัยก่อนกับ Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night
“Deus” คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์จากออสเตรเลีย ร่วมกับ Moto Guzzi (โมโต กุซซี่) แบรนด์สองล้อแฮนด์เมดสัญชาติอิตาเลี่ยนสไตล์คลาสสิค ร่วมจัดกิจกรรมความสนุกตามแบบฉบับของ Deus ในงาน “Deus Ex Machina & Moto Guzzi Present Lorm Pha Film & Art Night ที่จะให้เหล่าไบค์เกอร์ได้ร่วมสนุกและสัมผัสวัฒนธรรมผ่านหนังสั้นและศิลปะซึ่งเป็นหนึ่งในอัตลักษณ์ของแบรนด์ที่ผสานเข้ากับความเป็นไทยอย่างลงตัว พร้อมกันนี้ยังได้ชมหนังสั้งอีก 2 เรื่องบนรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง พร้อมด้วย Deus Art Exhibition สตรีทฟู้ดส์ เกมส์ ดีเจ ปาร์ตี้ และ Pop-Up Store จาก Deus ให้แฟนๆ ได้เลือกช้อปปิ้งและสุดพิเศษกับเสื้อยืดที่ผลิตขึ้นเฉพาะงานนี้เท่านั้น นอกจากนี้ยังเป็นการเผยโฉมครั้งแรกของสุดยอดมอเตอร์ไซค์คลาสสิคระดับตำนานของอิตาลี Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition โดยงานนี้จัดขึ้น ณ ACMEN เอกมัย คอมเพล็กซ์ ซ.เอกมัย 15
แนวคิดของ Dare Jennings และ Carby Tuckwell 2 ผู้บริหารแบรนด์ Deus ผู้มีแนวคิดแบบไร้ขอบเขตมองว่า สำหรับ Deus Ex Machina คือ คัลท์แบรนด์ไลฟ์สไตล์และขบถทางวัฒนธรรมจากออสเตรเลีย Deus นั้นเป็นมากกว่าแบรนด์ แต่คือวัฒนธรรมที่เปิดกว้างมาพร้อมความกระตือรือร้นที่โดดเด่นและสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้คนไม่ว่าจะปรากฎตัวอยู่ ณ ที่ใดก็ตาม โดย Deus เปรียบเสมือนเป็นสถานที่แห่งความคิดสร้างสรรค์สะท้อนได้จากปรัชญาแห่ง Deus คือ ความสนุกสนาน ไม่ยึดติดกับกฎเกณฑ์ เชื่อในการลงมือทำเพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ได้อย่างใจคิด ไม่ว่าจะเป็นการขี่มอเตอร์ไซค์ การเล่นเซิร์ฟ สเก็ตบอร์ด ฯลฯ ปัจจุบัน Deus ปรากฎตัวในรูปแบบแฟลกชิพสโตร์ทั้งหมด 5 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ซิดนีย์ บาหลี ลอสแอนเจลิส มิลาน และโตเกียว โดยทุกแห่งมีสไตล์เฉพาะและเป็นตัวของตัวเอง โดยสิ่งเดียวที่เหมือนกันทุกที่คือวัฒนธรรมแบบ Deus
นอกเหนือจากหนังสั้นแล้ว ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ในงาน นั่นคือ การแสดง Live Painting บนรถ Piaggio Ape และ Surfboard ครั้งแรกโดย Paul McNeil ศิลปินชาวออสซี่ผู้สร้างสรรค์ชิ้นงานที่ไร้ขอบเขตจากเส้นสายคล้ายเกลียวคลื่นและดวงตากลมโตสีเหลืองอันเป็นเอกลักษณ์ โดยครั้งนี้เขามาพร้อมคอนเซ็ปต์ Italian - Californian Beach ในยุค 70 ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่ในแบบฉบับอิตาเลี่ยน ผสานเข้ากับบรรยากาศของความสนุกที่ไร้ขอบเขตบนชายหาดแคลิฟอร์เนีย รวมถึงเซิร์ฟ ภาพยนตร์ และดนตรีในยุคพั้งก์ร็อคซึ่งส่งผลให้เขาสามารถแสดงความเป็นตัวเองและสิ่งที่เขาชื่นชอบได้อย่างไร้ขอบเขต อีกความพิเศษคือเขายังได้รวบรวมผลงานมาแสดงให้แฟนๆ ในไทยได้รับชม
เป็นครั้งแรกอีกด้วย สำหรับ Paul McNeil นอกเหนือจากการเป็นศิลปินแล้ว เขายังเป็นนักเล่นเซิร์ฟที่เก่งและบ้าบิ่นอีกด้วย
สำหรับไฮไลท์อื่นๆ ในงานยังมีจุดถ่ายรูปเท่ๆ ที่ให้บรรดาแฟนๆ ที่ขี่มอเตอร์ไซค์เข้าร่วมงานได้ถ่ายภาพกับรถของตัวเองพร้อมดาวน์โหลดเข้าสมาร์ทโฟนได้เลย และขี่มอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดในงานพร้อมรอชมภาพยนตร์สั้นได้ทันที ในงานยังมี Deus Art Exhibition แสดงคอลเลคชั่นโปสเตอร์เท่ๆ สร้างสรรค์โดย Carby Tuckwell, Creative Director แห่ง Deus พร้อมด้วยห้องฉายโลโก้หลากหลายรูปแบบจาก Deus ให้แฟนๆ ได้เข้าไปถ่ายรูปเป็นที่ระลึก นอกจาก Art & Film แล้ว ยังได้เนรมิตงานวัดย่อมๆ พร้อมเกมส์ความสนุกต่างๆ อาทิ เกมส์ปากระป๋อง ยิงปืน และปาลูกดอกลุ้นรับของรางวัลพิเศษจาก Deus ทั้งนี้ แฟนๆ และผู้เข้าร่วมงานสามารถเลือกซื้อสินค้าคอลเลคชั่นที่รับการออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่องานนี้เท่านั้นและมีจำนวนจำกัดพร้อมราคาพิเศษ เติมเต็มบรรยากาศสนุกด้วยเสียงดนตรีจาก DJ Tom Funky Gangster ที่คัดสรรสุดยอดเพลงจากแผ่นไวนิล ลิ้มรสกับความอร่อยอย่างมีสไตล์แบบย้อนเวลา อาทิ ปลาหมึกบด ข้าวเกรียบว่าว กาแฟรสเข้มกลิ่นหอมละมุน รวมถึงยาดองออแกนิคที่รังสรรค์ขึ้นมาเป็นพิเศษสำหรับงานนี้เท่านั้น
นอกเหนือไปจากกิจกรรมความสนุกในสไตล์ Deus แล้ว โมโต กุซซี่ สุดยอดมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลี ที่ในงานนี้เป็นผู้สนับสนุนหลักของกิจกรรมยังได้เผยโฉม Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition ที่มาในมาดเท่กับรูปทรงคลาสสิคอันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นและสะกดทุกสายตาไปกับวัสดุโครเมี่ยมที่ประกอบขึ้นอย่างปราณีตตามจุดต่างๆ ผสานเข้ากับสไตล์เฉพาะและการใช้วัสดุตกแต่งแบบคาร์บอนไฟเบอร์ที่มีความทันสมัยและดูหรูหราในทุกมุมมองของตัวรถ โดยสร้างขึ้นอย่างภาคภูมิใจตามประโยคที่ว่า “ผลิตจากเมืองแมนเดลโล่ – Made in Mandello” ในทุกรายละเอียด ทั้งนี้ยังมาพร้อมกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยม เสริมความเป็นเอกลักษณ์ด้วยการสลักหมายเลขลำดับการผลิตของมอเตอร์ไซค์สัญชาติอิตาเลี่ยนนี้ไว้ที่โครงยกแฮนด์ โดยผลิตขึ้นเป็นจำนวนทั้งสิ้น 1,921 คัน เพื่อสื่อถึงปีต้นกำเนิดของแบรนด์คือปี ค.ศ. 1921 ด้วยการออกแบบอันลงตัวและประณีตเสมือนเป็นงานศิลปะชิ้นเอก โมโต กุซซี่ วี7 III คาร์บอน ไชน์ รุ่นนี้ เหล่าบรรดานักสะสมมอเตอร์ไซค์ระดับตำนานจากอิตาลีต้องไม่พลาด โดย Moto Guzzi V7 III Carbon Shine Limited Edition ราคา 675,000บาท
ติดตามข่าวสารประชาสัมพันธ์ของ Deus Ex Machina ได้ที่เฟซบุ๊ก Deus Thailand และอินสตาแกรม @inbenzinveritas_thailand สำหรับโมโต กุซซี่ ติดตามได้ที่เฟซบุ๊ก Moto Guzzi Thailand และอินสตาแกรม @Motoguzzi_thailand
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสองเชิญที่นี่
ความคิดเห็น