EA Anywhere บูมสถานีชาร์จไฟฟ้าเส้นทางท่องเที่ยว กรุงเทพ-หัวหิน ก่อนขยายสู่เส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่

 พลังงานบริสุทธิ์ หรือ EA Anywhere ได้จัดทริปพาสื่อมวลชน สำรวจสถานีชาร์จสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าเส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน สร้างความมั่นใจผู้ใช้รถปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้า

EA Anywhere จัดทริปล่องใต้ เส้นทางท่องเที่ยว กรุงเทพ-หัวหิน ระยะทางประมาณ 380 กม. ตอกย้ำความมั่นใจให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าในเส้นทางดังกล่าว โดยผ่านสถานีชาร์จทั้งสิ้น 6 จุด จุดแรกเริ่มออกจากกรุงเทพ บริเวณสถานีชาร์จที่ปั๊มน้ำมันซัสโก้ ราษฎร์บูรณะ ซึ่งมีทั้งเครื่องชาร์จทั้งควิกชาร์จและแบบธรรมดา

การเดินทางครั้งนี้ เหมือนสำรวจสถานีชาร์จของ EA Anywhere ตลอดเส้นทาง ได้ผ่าน สถานีชาร์จ OPG Amazon บางขุนเทียน, ปั๊มน้ำมันบางจาก แพรกหนามแดง (อัมพวา), ร้านอาหารครัวบ้านขวัญ, ศูนย์บริการ A.C.T. (ประจวบคีรีขันธ์) และจนสิ้นสุดที่ โรงแรม Holiday Inn Vana Nava Hua Hin โดยสถานีชาร์จที่ใหญ่ที่สุดคือ ครัวบ้านขวัญ มีช่องบริการทั้งหมด 16 ช่อง ถือเป็นบริการเสริมของร้านอาหารอีกทางหนึ่ง

ธนพัชร์ สุขสุธรรมวงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พลังงานมหานคร บริษัทในเครือ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ กล่าวถึงความคืบหน้าในการรุกธุรกิจการให้บริการสถานีชาร์จไฟฟ้า ว่า ขณะนี้เปิดสถานีชาร์จไฟฟ้ากว่า 140 แห่ง และอยู่ระหว่างก่อสร้าง 200 กว่าแห่ง โดยยังคงเป้าหมายเดิมที่สิ้นปีนี้จะต้องเปิดให้บริการให้ได้จำนวน 1,000 แห่ง และค่อนข้างมั่นใจว่าจะเปิดครบทันเวลา

"อยู่ระหว่างจัดทำเอกสารกับพาร์ทเนอร์ ซึ่งมีพาร์ทเนอร์ที่สนใจติดต่อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง เรามีบิ๊กล๊อตของแต่ละพาร์ทเนอร์ที่เราดิวไว้ แต่ละรายมี 80-200 สาขาโดยเป็นกลุ่มปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส"

ถ้าถามเรื่องตัวเลขของการชาร์จ ตอบได้ว่า เพิ่มขึ้น 60-70% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว โตแบบก้าวกระโดด จากเดิมวันธรรมดา มีคนเข้ามาใช้วันละไม่กี่คัน ปัจจุบันเป็น 15-20 ชาร์จต่อครั้ง ส่วนวันส.-อา แทบจะไม่พอ และหลายคนทราบจากแอพพลิเคชั่น EA Anywhere ที่ระบุจุดบริการ รถส่วนใหญ่ที่เข้ามาใช้จะเป็นรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ส่วนรถยนต์ไฟฟ้า (BEV) คาดว่าปีหน้าน่าจะมากขึ้น โดยทริปที่มาจะมีรถ BYD e6, BMW 530e, Tesla Model S และ Kia Soul เป็นต้น

"เราร่วมมือกับการไฟฟ้าฯ เรื่องปริมาณไฟ เพราะการไฟฟ้าฯ ต้องเตรียมความพร้อมให้เรา อีกทั้ง ระบบของเราเชื่อมต่อกันทำให้สามารถตรวจสอบได้ปัจจุบันเราเปิดให้บริการโดยยังไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพราะเรารอใบจดแจ้งขอยกเว้นเพื่อดำเนินธุรกิจ ส่วนสถานีที่เก็บค่าบริการคือ สถานีที่เรามีใบอนุญาตแล้ว เช่น สยามพารากอน สยามคาร์พาร์ค"

เบื้องต้นจะคิดค่าชาร์จแบบธรรมดา หรือ หัวชาร์จ AC ตามชั่วโมงการชาร์จ (คิดทั้งจอดและชาร์ท) 1 ชม.ราคา 50 บาท,2 ชม. 80 บาท, 3 ชม. 120 บาท และ 4 ชม. 150 บาท ส่วนหัวชาร์จ DC ยังอยู่ระหว่างพิจารณาอัตราการจัดเก็บค่าบริการ DC ชาร์จขณะนี้ติดตั้งไปแล้วกว่า 70 แห่ง โดย DC ชาร์จ ส่วนใหญ่จะอยู่ในปั๊มน้ำมัน ปั๊มแก๊ส คอมมูนิตี้มอลล์ ส่วนในห้างสรรพสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นหัวจ่ายแบบ AC ชาร์จปกติ ซึ่งจากพฤติกรรมการใช้พบว่า ลูกค้าจะใช้เวลาอยู่ในห้างสรรพสินค้าค่อนข้างนาน

ส่วนหนึ่งที่ให้บริการโดยยังไม่เก็บค่าใช้จ่าย เพราะต้องการให้คนซึมซับกับธุรกิจ เนื่องเป็นธุรกิจที่ใหม่สำหรับบ้านเรา โดยมีข้อดีที่ข้อมูลทั้งหมดสามารถดำเนินการได้ทุกอย่างจากสมาร์ทโฟน ทั้งการจอง การชาร์จ การจ่ายทั้งหมด เช่น กรณีชาร์จอยู่ และลูกค้าต้องการไปธุระเร่งด่วน สามารถกดหยุดจากแอพพลิเคชั่นในมือถือได้

หลังวันที่ 1 ม.ค. 2562 อาจมีการปรับค่าบริการแต่จะควบคุมไม่ให้เกินราคาจำหน่ายก๊าซ NGV โดยค่าบริการจะขึ้นอยู่กับโลเคชั่นของแต่ละพื้นที่ หากเป็นพื้นที่รอบนอกกทม. จะเป็นราคาหนึ่งซึ่งถูกกว่าในเมืองขึ้นกับพาร์ทเนอร์ในพื้นที่นั้นๆ แต่อาจจะต้องหารือให้ชัดเจนอีกรอบ

ส่วนแผนการขยายไปต่างจังหวัด และกำลังจะเปิดเป็นส่วนต่อไปในเส้นทางท่องเที่ยวคือ เส้นทางกรุงเทพ-เขาใหญ่ ปัจจุบันมีสถานีชาร์จที่พิษณุโลก ราชบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต หาดใหญ่ เขาใหญ่ พัทยา ชุมพร รูปแบบทางเจ้าของพื้นที่จะเตรียมพื้นที่ให้ และบริษัทเตรียมอุปกรณ์ทั้งหมด และแบ่งปันผลประโยชน์ด้วยการแบ่งกำไรคนละครึ่ง

การจัดทริปเดินทางเส้นทางกรุงเทพ-หัวหิน เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับรู้ว่า EA Anywhere มีสถานีบริการชาร์จไฟฟ้าที่ใดบ้าง ส่วนแผนในอนาคตนอกจากเส้นทางท่องเที่ยวแล้ว จะรุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ทั้งแนวราบ-สูง

ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ที่นี่

ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสองเชิญที่นี่