BMW เพิ่งเสียตำแหน่งบริษัทรถยนต์ที่ทำกำไรสูงสุดให้แก่ Suzuki ไป
เว็บไซท์ Manager Magazin อ้างรายงานจาก Ernst & Young ซึ่งแจงตัวเลขของ Suzuki ที่ทำกำไรเพิ่มขึ้น 11.8 เปอร์เซนต์ในช่วงไตรมาสที่สอง ตามมาด้วย BMW ที่ทำกำไรเพิ่มที่ 11.4 เปอร์เซนต์
นอกจากนี้ Daimler ทำกำไรเพิ่มขึ้น 6.5 เปอร์เซนต์ รั้งอันดับ 6 ส่วน Volkswagen Group ตามมาเป็นอันดับ 7 (ทำกำไร 6.5 เปอร์เซนต์)
หากมองภาพรวมทั้งสองไตรมาสรวมกัน BMW ยังนำคู่แข่งจากญี่ปุ่นอยู่
อย่างไรก็ดี BMW ที่ขยายไลน์รถหรูออกไปเรื่อยๆในตลาดตั้งแต่จากจุดที่คุณต้องมีความพยายามในการซื้อรถไปจนถึงจุดที่คุณไม่ต้องถามเรื่องราคารถอีกต่อไป ส่วน Suzuki สามารถรักษาค่านิยมของลูกค้าได้อย่างแน่นหนาไปจนสุดของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นสิ่งที่น่าประทับใจสำหรับของทั้งสองแบรนด์
Suzuki ขึ้นมายืนอยู่ในตลาดที่กำลังเติบโตของอินเดีย โดยเกือบ 50 เปอรเซนต์ของรถโดยสารถูกขายโดย Maruti Suzuki
ในด้านของเงินดอลลาร์และเซนต์ Toyota ทำมูลค่าสูงสุด
Peter Fuss พาร์ทเนอร์ผู้ให้คำปรึกษาอาวุโสในด้านยานยนต์สำหรับ Ernst & Young กล่าวแก่ Manager Magazin ว่าค่ายรถของเยอรมันทุกยี่ห้อเผชิญปัญหา “ต้านลมอย่างรุนแรง” ในช่วงครึ่งปีแรกของปี ไม่ว่าจะเป็นความนิยมที่ตกลงเรื่อยๆของการใช้เครื่องยนต์ดีเซล การลงทุนไปจำนวนมาก ผลกระทบของค่าเงิน และการทำสงครามภาษีระหว่างประเทศจีนและอเมริกา
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ยังได้กีดกันรถจากประเทศเยอรมันในการนำรถเข้ามาขายในประเทศ และออกกำแพงภาษีสำหรับการนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมจากประเทศในกลุ่ม EU, เมกซิโก และแคนาดา
Fuss ยังกล่าวถึง ปัจจัยที่ท้าทายเหล่านี้จะเกิดขึ้นต่อเนื่องในช่วงครึ่งปีหลังต่อไป
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn ที่นี่
ความคิดเห็น