อีซูซุ คาราวานสัญจร เส้นทางที่ 3 นี้ เริ่มต้นที่ จ. มุกดาหาร ประเทศไทย ไปจนถึง บาน่า ฮิลล์ ประเทศเวียดนาม นำสมาชิกประชาคมอีซูซุ 29 คันจากทั่วประเทศ เดินทางสัมผัสประสบการณ์ในแบบคาราวานท่องเที่ยวทางรถยนต์สู่เวียดนามตอนกลาง เว้-ดานัง ระยะทางไป-กลับกว่า 1,000 กม. ชมวิถีชีวิตและโบราณสถานเก่าแก่ที่ห้ามพลาดของเมืองเว้ ก่อนไปตะลุยเมืองตากอากาศแสนสวย “บาน่า ฮิลล์” เดินชม “สะพานสีทองบนมือยักษ์” แลนด์มาร์กแห่งใหม่ล่าสุดในเมืองดานัง
เริ่มต้นการเดินทาง สมาชิกคาราวานได้มารวมตัวที่โชว์รูมอีซูซุ ของบริษัท ตังปักอำนาจเจริญ (สาขามุกดาหาร) โดยมี คุณปานทอง สระคูพันธ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร คุณสุริยัน โสรินทร์ รองผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนครพนม มร.อาร์ ซากาโนะ ผู้จัดการอาวุโส ในฝ่ายขายดีลเลอร์บี บริษัท ตรีเพชรอีซูซุเซลส์ จำกัด พร้อมด้วยอาจารย์พัฒนเดช อาสาสรรพกิจ ผู้อำนวยการจัดคาราวาน ร่วมให้การต้อนรับและตีธงปล่อยขบวน
รถอีซูซุ คาราวานสัญจรทั้ง 29 คัน เดินทางข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่ 2 ซึ่งเชื่อมระหว่างจังหวัดมุกดาหารของประเทศไทยกับแขวงสะหวันนะเขตของ สปป.ลาว วิ่งไปบนถนนหมายเลข 9 ซึ่งอยู่ภายใต้โครงการพัฒนาเศรษฐกิจตามแนวตะวันออกและตะวันตก (East-West Economic Corridor) เป็นถนนสายเศรษฐกิจในภูมิภาคอินโดจีนระหว่างประเทศไทย ประเทศลาว และประเทศเวียดนาม (เมืองดานัง) ก่อนข้ามด่านแดนสวรรค์-ลาวบาวเพื่อเข้าสู่ที่พักคืนแรกในเมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ในช่วงบ่าย พอมีเวลาได้เดินชมเมืองเว้ก่อนร่วมงานเลี้ยงแสนอบอุ่นในสไตล์อีซูซุในมื้อค่ำ
เช้าวันที่สอง สมาชิกคาราวานอีซูซุได้ท่องเที่ยวใน “เมืองเว้” เมืองมรดกโลกที่ยังมีร่องรอยของประวัติศาสตร์ และความเก่าแก่แบบคลาสสิก โดยไม่พลาด “พระราชวังต้องห้าม” ซึ่งได้ตกทอดความยิ่งใหญ่และสวยงามของราชวงศ์เหวียน พระราชวังแห่งนี้สร้างขึ้นตามแบบแผนความเชื่อของจีน ซึ่งในสมัยก่อนพื้นที่นี้ถูกสงวนไว้เฉพาะจักรพรรดิและเชื้อพระวงศ์ ด้วยเป็นสถานที่ประทับของกษัตริย์ราชวงศ์เหวียนแห่งเว้ทั้ง 13 พระองค์ ระหว่างปี พ.ศ. 2345-2488 โดย "จักรพรรดิยาลอง" เป็นปฐมกษัตริย์แห่งเมืองเว้ เป็นผู้สถาปนานครแห่งนี้ขึ้น ส่วนกษัตริย์องค์สุดท้ายคือ "พระเจ้าบ๋าวได๋" ซึ่งทรงสละราชบัลลังก์ ก่อนจะมีการเปลี่ยนแปลงการปกครองเป็นเวียดนามในปัจจุบัน
ต่อด้วย "วัดเทียนหมุ" ที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม เป็นหนึ่งในความคลาสสิก ทั้งจากศิลปะอันวิจิตรตรงประตูทางเข้า รวมถึงความสูงหลายสิบเมตรของเจดีย์ทรง 8 เหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร นับเป็นศูนย์กลางแห่งศรัทธาทางพุทธศาสนานิกายเซน ที่ถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1601 หรือ 417 ปีมาแล้ว
ปิดท้ายเมืองเว้ที่ "สุสานจักรพรรดิไคดิงห์" ที่ได้ชื่อว่ามีความยิ่งใหญ่สวยงามเหนือบรรดาสุสานจักรพรรดิทั้งหมด และเป็นเพียงสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออก-ตะวันตกได้อย่างลงตัว ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีบันไดทางขึ้นถึง 127 ขั้น เป็นบันไดมังกรพาขึ้นไปสู่ลานชั้นหนึ่ง ส่วนลานชั้นสองเรียงรายด้วยรูปปั้นหินของช้าง ม้า ข้าราชการทหารและพลเรือน กลางลานมีแผ่นจารึกเขียนด้วยอักษรจีน ด้านบนสุดเป็นที่ตั้งของสุสาน มีรูปปั้นสำริดเท่าองค์จริงของพระเจ้าไคดิ่งเป็นศูนย์กลาง ภายในสุสานชั้นในมีการตกแต่งผนังด้วยกระเบื้องเคลือบสีซึ่งรับอิทธิพลมาจากจีน หลายจุดทำเป็นรูปมังกร หนึ่งในชิ้นงานโดดเด่น คือ งานเขียนสีรูปมังกรในม่านเมฆขนาดใหญ่บนเพดานห้องโถงที่ศิลปินใช้เท้าในการเขียนภาพ
หลังจากจบมื้อกลางวัน สมาชิกคาราวานอีซูซุได้เดินทางต่อจากเมืองเว้ไปยังเมืองดานัง เพื่อไปยังจุดหมายสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ นั่นคือ “บาน่า ฮิลล์” (Bana Hills) อดีตเมืองตากอากาศที่โดนทิ้งร้างหลังจากชาวฝรั่งเศสพ่ายแพ้สงครามกลับประเทศไปในช่วงปี ค.ศ.1945 ที่ได้รับการบูรณะใหม่ให้เป็นเมืองท่องเที่ยวที่สวยสดงดงาม และมีชีวิตชีวาอีกครั้งในปี ค.ศ. 2009
การไปเยือนต้องนั่งกระเช้าลอยฟ้าที่ได้รับการบันทึกสถิติโลกโดยกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ดส์ว่า เป็นกระเช้าที่มีระยะทางยาวและสูงที่สุดในโลก คือ ยาวมากถึง 5,801 เมตร และสูงถึง 1,368 เมตร ซึ่งทุกคนได้ชื่นชมกับสุดยอดวิวทิวทัศน์ของเมืองดานังในแบบพาโนรามาระหว่างทางนั่งกระเช้า เมื่อใกล้จุดหมายปลายทางจะมองเห็นยอดปราสาทอยู่ลิบ ๆ เหมือนเมืองในเทพนิยาย โดยโรงแรมที่พัก Mercure Danang French Village Bana Hills ก็เป็นหนึ่งในหมู่ตึกสวยของหมู่บ้านฝรั่งเศส ล้อมรอบด้วยร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก
และที่ทุกคนไม่ยอมพลาดคือ “Golden Bridge” สะพานสีทองบนมือยักษ์ตั้งอยู่ริมหน้าผาสวยอลังการ แลนด์มาร์กใหม่ของเมืองดานังที่เพิ่งเปิดให้ชมเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และได้กลายเป็นที่สนใจบนโลกออนไลน์อย่างมาก นอกจากนี้ยังมีจุดท่องเที่ยวกระจายโดยรอบ อาทิ พระพุทธรูปใหญ่สีขาวบนยอดเขา สวนสนุก Fantasy Park ที่มีเกมและเครื่องเล่นสำหรับทุกวัยให้เลือกสนุกกัน และสวนดอกไม้ เป็นต้น
สาย ๆ ของวันถัดมาถึงเวลาของการอำลาหมู่บ้านแสนสวยบนบาน่า ฮิลล์ สมาชิกคาราวานอีซูซุ ได้เยี่ยมชมและสักการะ วัดเจ้าแม่กวนอิมลิ่งอึ้ง (Chua Linh Ung) โดยมีเจ้าแม่กวนอิมองค์สีขาวในท่ายืนถือแจกันโปรยน้ำทิพย์ประทานพร ประดิษฐานด้านหน้าวัดที่หันออกสู่ทะเล มีความสูง 67 เมตรหรือเท่าอาคาร 30 ชั้น ถือได้ว่าเป็นองค์เจ้าแม่กวนอิมที่ใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ขึ้นชื่อมากในการขอพรเรื่องสุขภาพ การทำมาค้าขาย ความปลอดภัย และเรื่องการมีบุตร ถือเป็นการจบทริปการท่องเที่ยวในประเทศเพื่อนบ้านที่สามารถขับรถไปเที่ยวได้แบบสบาย ๆ อย่างสวยงาม
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น