วันนี้เรามาอยู่กับรถจักรยานยนต์สัญชาติอังกฤษรุ่นหนึ่งที่มีความหล่อเหลาสไตล์คลาสสิกมากๆ เลยทีเดียวกับเจ้า Triumph Bonneville Speed Master ซึ่งเป็นรถครุยเซอร์ที่มาพร้อมกับเครื่องยนต์ของตระกูล Bonneville ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงนั้นเอง ส่วนตัวรถจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเราไปชมกันครับ
รับชมรีวิวในรูปแบบวิดีโอได้ที่นี่
ตัวรถของ Triumph Bonneville Speed Master คันนี้เป็นรถปี 2018 แต่ยังคงถอดแบบความคลาสสิกแบบคัสตอมไบค์สัญชาติอังกฤษ ที่มีความสวยงามตามแบบสัญชาติอังกฤษอย่างแท้จริง ซึ่งแม้ว่าหน้าตาจะดูคลาสสิก แต่ก็ได้เสริมกิมมิคความทันสมัยด้วยออปชั่นทันสมัยหลายอย่างได้แก่ ไฟหน้า LED โคมทรงกลมอันโดดเด่น ที่มีทั้งไฟสูงและไฟต่ำในโคมเดียวกัน และยังพอมาพร้อมไฟ DRL ที่ให้ความโดดเด่นในการขับขี่
ล้อซี่ลวดขนาด 16 นิ้วทั้งด้านหน้าและด้านหลัง โดยระบบเบรคหน้าเป็นดิสเบรคคู่พร้อมระบบเบรค ABS และปั้มเบรคจากเบรมโบ้
ถัดมาในส่วนของเรือนไมล์ เป็นเรือนไมล์ทรงกลมสไตล์เดียวกับหน้าปัดนาฬิกา ที่ดูเหมือนจะมีเพียงแค่มาตรวัดความเร็วแบบเข็มเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ทว่าตรงกลางของเรือนไมล์นั้นได้ติดตั้งจอแสดงผลดิจิตอลสำหรับบอกข้อมูลการขับขี่อื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นรอบเครื่องยนต์, Trip A, B, สถานะการทำงานของระบบ Cruise Control เป็นต้น ซึ่งระบบล็อกความเร็ว หรือ Cruise Control นี้ สามารถเปิด/ปิดได้บริเวณประกับแฮนด์ด้านซ้ายนั่นเอง นอกจากนี้ฟังก์ชั่นอื่นๆ ในหน้าจอดิจิตอลนี้สามารถควบคุมได้เลยจากประกับแฮนด์ ไม่ว่าจะเป็นโหมดการขับขี่ 2 โหมด ได้แก่โหมด Rain และ โหมด Road อีกทั้งยังสามารถควบคุม Traction Control ได้ด้วย
ฝาถังน้ำมันของเจ้า Speed Master เป็นฝาถังแบบคลาสสิก ที่เราต้องคอยหมุนมันออกมาเพื่อเปิดฝาถังน้ำมัน แตกต่างจากรถในปัจจุบันที่เพียงไขกุญแจก็เปิดได้แแล้ว เรียกว่าเก็บความคลาสสิกได้หมดจรดจริงๆ
กุญแจสำหรับสตาร์ทรถจะอยู่บริเวณน่องขาขวาตรงกับเครื่องยนต์พอดี ซึ่งเจ้ากุญแจตัวนี้เป็นกุญแจชิพอีกด้วย ส่วนตำแหน่งล็อกคอรถจะอยู่บริเวณแผงคอด้านหน้า
จุดเด่นของเจ้า Speedmaster คันนี้ไม่พ้นสไตล์การขี่แบบ Cruiser ไม่ว่าจะเป็นแฮนด์ทรงบีชบาร์แบบงอมาด้านหลังได้ ซึ่งทั้งหรูหราและสะดวกสบาย ตำแหน่งพักเท้าที่เลื่อนไปด้านหน้า เอื้อต่อการขับขี่เดินทางไกลเป็นเวลานาน
เครื่องยนต์
เครื่องยนต์ใน Speedmaster คันนี้ใช้เครื่องยนต์แรงบิดสูงแบบ 2 สูบคู่ขนาด 1200 CC รหัส HT มีระยะการจุดระเบิดที่ 270 องศา ทำให้ได้พละกำลังอันนุ่มนวลจากชุดเกียร์ 6 สปีด ซึ่งได้ปรับจูนเครื่องยนต์ให้เข้ากับรถสไตล์ Bobber แบบนี้ มาพร้อมพละกำลังแรงบิดสูงสุดถึง 106 นิวตันเมตรที่ 4,000 รอบ/นาที แรงม้าสูงสุด 77 ตัวที่ 6,100 รอบ/นาที เรียกได้ว่าให้แรงบิดจัดจ้านตั้งแต่รอบต่ำกันเลยทีเดียว
ด้านสุ่มเสียงคำรามจากเครื่องยนต์ขนาด 1200 ซีซีของมันเรียกได้ว่าไม่เหมือนใคร ดังเร้าใจสะใจแม้เป็นท่อเดิม ด้วยการดีไซน์กรองอากาศคู่และไส้กรองคู่ พร้อมการเดินคอท่อแบบซ่อนกล่องแคต ทำให้ได้เสียงที่เร้าใจกว่าใคร
นอกจากนี้บนชิ้นส่วนต่างๆ ของตัวรถยังตกแต่งด้วยพื้นผิวชุบโครเมี่ยมบนหลายจุด เสริมความหล่อให้กับรถให้ดูเป็นงานศิลปะชิ้นเอกยิ่งขึ้น เรียกได้ว่าถ้าขี่กลางแดดนี่มีสะท้อนแสงกันแน่นอน
ในส่วนตำแหน่งของเบาะนั่งที่ต่ำมากเพียง 705 มิลลิเมตร ทำให้ผู้ขับขี่ไม่ต้องคอยกังวลว่าขาจะไม่ถึงพื้นไปได้เลย ทำให้ผู้ขับขี่ที่มีประสบการณ์น้อยสามารถควบคุมรถได้อย่างมั่นใจขึ้น
การขับขี่
ในการขับขี่ครั้งนี้ เราได้นำเจ้า Speed Master เดินทางมาที่จังหวัดชลบุรี ด้วยระยะทางจากกรุงเทพกว่า 100 กิโลเมตรบน Speed Master คันนี้บอกเลยว่าขับสบายจริงๆ ด้วยสไตล์ของรถครุสเซอร์อยู่แล้ว ทำให้ท่านั่งรวมถึงตำแหน่งแฮนนั่นเอื้อต่อการขับขี่ในระยะทางไกลได้เป็นอย่างดี ประกอบกับตัวรถที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากถึง 245.5 กิโลกรัม มาพร้อมกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ทำให้การขับขี่เดินทางไกลรู้สึกมีความมั่นคงมาก และยังมีพละกำลังจากเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ทำให้สามารถเร่งแซงฝ่าการจราจรอันแสนติดขัดได้อย่างง่ายดาย
ระบบเบรคใน Speedmaster คันนี้เป็นดิสเบรคคู่หน้าขนาดใหญ่ เราได้ทำการทดลองกดเบรคแรงๆ จากความเร็ว 140 เพียงระยะสั้นๆ ก็สามารถลดความเร็วเหลือต่ำกว่า 60 ได้อย่างง่ายดาย ถือว่าสอบผ่านในจุดนี้ได้อย่างสบายๆ
ช่วงล่างของตัวรถเดิมๆ ถูกเซ็ตติ้งมาให้เหมาะกับการเดินทางไกลเป็นอย่างดี ให้ความนุ่มนวลกับการซับแรงกระแทกจากพื้นผิวที่ไม่เรียบเนียนได้เป็นอย่างดี ทางด้านการเข้าโค้งจัดได้ว่าไม่ได้ทำได้ยากนัก แม้ว่าตัวรถจะถูกออกแบบมาให้เหมาะกับการใช้งานเดินทางแบบตรงๆ แต่ก็มิได้ถึงกับเข้าโค้งไม่ได้เลย แต่ถ้าจะเอาไปเล่นโค้งหนักๆ ก็อาจจะไม่เหมาะกับรถแนวนี้มากนัก ทางด้านการขับขี่ในเมืองกับรถคันนี้ถือว่าทำได้ไม่ยากมากนัก เพราะตัวรถนั้นค่อนข้างมีที่นั่งต่ำมาก ทำให้เราสามารถประคองรถไปตามเส้นทางการจราจรที่ติดขัดได้ไม่ยากนัก
สรุป
สำหรับเจ้า Triumph Bonneville Speed Master คันนี้เรียกได้ว่าเป็นรถครุยเซอร์อีกรุ่นหนึ่งที่น่าสดใจมิใช่น้อย เพราะด้วยตัวรถที่มีความสวยงามเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร มาพร้อมกับเทคโนโลยีอันทันสมัยที่ติดตั้งมาในตัวรถคันนี้ ประกอบกับเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูง ท่านั่งอันแสนสบาย และควบคุมรถได้ง่าย อีกทั้งเสียงของเครื่องยนต์อันดุดัน หล่อเหลา เรียกได้ว่ารถคันนี้เปรียบเสมือนงานศิลปะเวอร์ชั่นวิ่งได้จริงๆ
สำหรับท่านที่สนใจเจ้า Triumph Bonneville Speed Master คันนี้ สามารถชมตัวจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Triumph ได้เลยทั่วประเทศ ในราคาวางจำหน่ายที่ 632,000 บาท
ขอขอบคุณ บริษัท ไทรอัมพ์ มอเตอร์ไซเคิลส์ (ไทยแลนด์) ที่ได้เอื้อเฝื้อรถทดสอบให้กับทางเรา
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น