หลังจากเปิดตัว Mazda CX-3 คอลเลคชั่น 2018 ในไทยเมื่อกลางเดือนก.ค.ที่ผ่านมา เริ่มมีลูกค้าให้ความสนใจรถรุ่นนี้เป็นจำนวนมาก
ล่าสุด มาสด้าได้จัดกิจกรรมทดลองขับและทดสอบสมรรถนะ มาสด้า ซีเอ็กซ์ 3 ใหม่ 2018คอลเลคชั่น เส้นทางกรุงเทพ-เกาะสีชัง โดยจัดรถให้สื่อมวลชนหญิงล้วนได้ทดสอบรถจำนวน 7คัน ทั้งเครื่องยนต์ดีเซล ขนาด 1.5 ลิตร และเครื่องยนต์เบนซิน ขนาด 2.0 ลิตร ซึ่งมาสด้าได้วางตำแหน่งของรถรุ่นนี้ในรูปแบบของรถอเนกประสงค์ขนาดกลางที่มีลักษณะเป็น Crossover ในเซ็กเมนท์ คอมแพคเอสยูวี
สเป็กของรถรุ่นใหม่มีความแตกต่างจากเดิม มีการปรับปรุงทั้งภายนอก-ใน ตั้งแต่กระจังหน้าแบบใหม่ กรอบไฟตัดหมอก ไฟท้าย LED ซึ่งใช้ใน Mazda CX-5 ปัจจุบัน ล้ออัลลอยแบบทูโทน ขนาด 18 นิ้ว สอดคล้องกับรถมาสด้ารุ่นใหม่ในอนาคต รวมไปถึงสีใหม่ 2 สีคือ สีแดง Soul Red Crystal และ สีเทา Machine Gray
ส่วนภายในตกแต่งด้วยอุปกรณ์ใหม่จาก Mazda 3 และ Mazda CX-5 เปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมที่ใส่อุปกรณ์จาก Mazda 2 โดยรุ่นใหม่เป็นเบาะหนังสีดำ มีที่วางแขนทั้งด้านหน้า-หลัง ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อมระบบ Auto Hold รุ่นท๊อปทั้งเครื่องยนต์ดีเซล และเบนซิน หลังคา Sunroof
ทริปการทดสอบครั้งนี้ โดยสารรถ No.3 สีเทา แมชชีน เกรย์ เครื่องยนต์ดีเซล ในฐานะผู้หญิงไซด์มินิขอนั่งทั้งหน้า-หลังรถชิลล์ๆ ช่วงแรกนั่งหน้าคู่คนขับไซด์เดียวกัน ยังรู้สึกสบาย ยืดแข้งขาได้ตามปกติ แม้ไม่ขยับเบาะ ระยะหน้าต่างยังอยู่ในระดับที่คนสูงประมาณ 150 ซม.มองออกไปข้างนอกได้สบายตา ขณะที่ผู้ขับจะต้องปรับเลื่อนเก้าอี้ให้เหมาะสมอยู่บ้างเพื่อความคล่องตัวในการขับขี่ ส่วนการจัดวางอุปกรณ์และฟังก์ชั่นการใช้งานในตำแหน่งผู้นั่งด้านหน้าลงตัวดี แต่การใช้โทนสีดำ แลดูอึดอัดไปนิด
เราเริ่มเดินทางออกจากโชว์รูมมาสด้าเจ.พี. ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ไปยังร้านกาแฟ Bikepark Cafe X Totti Coffee โดยขึ้นทางด่วนไปยังบางนา ผ่านด่านรับบัตรทางด่วนบูรพาวิถี เห็นคนขับเขย่งปลายเท้าเอื้อมสุดมือไปรับบัตรทางด่วนเพราะบานหน้าต่างแคบ ระหว่างอยู่บนทางด่วนคนขับได้ลองเร่งความเร็วในระดับ 100 กม.ต่อชม. ทำให้ได้ยินเสียงลมข้างนอกเข้ามาแตกต่างจากปกติที่ขับบนท้องถนน เพราะบนท้องถนนนั้น เสียงภายนอกเข้ามาสู่ห้องโดยสารน้อยมาก และไม่ว่าคนขับจะเข้าโค้งช่วงใด คนนั่งคู่หน้าก็ยังปกติสบายๆ
หลังจากพักรับประทานของว่างเรียบร้อย ก็เดินทางต่อไปยังร้านอาหารมุมอร่อยศรีราชา โดยเปลี่ยนมือคนขับแต่ไซด์มิได้ต่างจากเดิมมากนัก ฟิลลิ่งในการนั่งชมวิวคู่คนขับยังไม่เปลี่ยนแปลง แวะทานข้าวเสร็จเรียบร้อย เดินทางต่อไปที่จอดรถ และข้ามไปเกาะสีชังโดยสปีดโบ๊ท ทำกิจกรรมตามตารางเยี่ยมชมรอบเกาะโดยรถสกายแล็ป ไหว้พระจุฑาธุชราชฐาน ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ก่อนกลับมาฝั่งศรีราชาและสลับที่นั่งมานั่งเบาะหลัง
เนื่องจากเป็นผู้หญิงไซด์มินิ ทำให้การนั่งด้านหลังสบายมาก ยืดแขนขาได้เต็มที่ แถมด้านหลังยังมีที่วางแก้วตรงกลางเบาะระหว่างคนนั่งซ้าย-ขวา แต่สิ่งที่ขัดใจอยู่นิด เพราะกระจกด้านหลังค่อนข้างแคบในความรู้สึกทำให้วิสัยทัศน์ในการมองออกไปนอกตัวรถลำบาก อาจจะต้องขยับตัวกันสักนิด จึงจะมองได้ถนัด และแล้วก็จบวันแรกถึงที่พักเคบ บางเสร่
เช้าวันต่อมา ขากลับเข้ากรุงเทพ ได้นั่งรถ No.7 สีดำ เจ็ท แบล็ก เครื่องยนต์เบนซิน มีสาวสวยขายาวมาขับให้ เนื่องจากกรุ๊ปไซด์มินิ หนีไปหนึ่งคน ผู้นั่งก็ยังมั่นหน้า ยึดพื้นที่นั่งหน้าคู่สาวสวย ในช่วงสั้นๆก่อนแวะรับประทานอาหารเที่ยง ความรู้สึกในการนั่งและพื้นที่รอบข้างก็ยังเหมือนเดิม เหมาะสมลงตัวสำหรับผู้หญิงไซด์มินิ หันไปทางคนขับที่ตัวสูงกว่า ก็ยังนั่งขับได้อย่างสบาย คล่องตัวดี
จากนั้น ได้สลับไปนั่งเบาะหลัง สภาพการนั่งยังคงเดิม แต่รู้สึกว่าเครื่องยนต์เบนซินจะหนืดๆหน่อย ส่วนฟังก์ชั่นอื่นๆ ไม่ได้มีปัญหา ที่ติดอยู่คือกระจกหลัง ยังสูงและแคบเพราะการออกแบบมาสด้า ซีเอ็กซ์ 3 ทั้งเครื่องยนต์เบนซินและดีเซล รูปลักษณ์กระจก 4 ด้านเหมือนกัน
ทั้งนี้ทั้งนั้น รถยนต์แต่ละคันอาจเหมาะสำหรับทุกคนในครอบครัว เพียงแต่ความเหมาะสมลงตัวของคนขับ คนนั่งอาจแตกต่างกันไปทั้งสรีระของบุคคล ทั้งรถยนต์ อย่างไรก็ตาม ในฐานะผู้นั่ง Mazda CX-3 เป็นรถยนต์อีกคันหนึ่งที่นั่งสบาย แม้จะขัดใจเรื่องกระจกด้านข้างที่แคบไปบ้าง แต่ด้วยเทคโนโลยีและวัสดุตกแต่งที่ใส่เข้ามาถือว่า ตอบโจทย์ให้ผู้นั่งรถมีความสบายและรู้สึกปลอดภัยตามสไตล์เทคโนโลยี SKYACTIV ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 879,000 บาท
ติดตามข่าวคราวความเคลื่อนไหวของแวดวงอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
LINE
ความคิดเห็น