เร้าใจไปกับสมรรถนะ BMW X4 ใหม่ พร้อมสัมผัสขุมพลังความแรงจากเหล่า MINI John Cooper Works บนสนามแข่ง Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

เร้าใจไปกับสมรรถนะ BMW X4 ใหม่ พร้อมสัมผัสขุมพลังความแรงจากเหล่า MINI John Cooper Works บนสนามแข่ง

megaTON
โดย megaTON
โพสต์เมื่อ 05 November 2561

บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย จัดทริปให้สื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะ BMW X4 ใหม่ล่าสุดในสถานการณ์ที่หลากหลาย พร้อมเปิดโอกาสให้ได้ทดสอบขุมพลังของ MINI John Cooper Works ถึง 4 รุ่น ที่สนามแข่งแก่งกระจานเซอร์กิต จังหวัดเพชรบุรี


ทริปทดสอบในครั้งนี้ ถูกแบ่งออกเป็นสองวัน สำหรับวันแรกจะเป็นการทดสอบ BMW X4 ใหม่ล่าสุด ซึ่งถือว่าเป็นเจนเนอเรชั่นที่ 2 โดยใช้เครื่องยนต์ดีเซล 4 สูบ พร้อมเทคโนโลยี BMW TwinPower Turbo ให้กำลังสูงสุด 140 กิโลวัตต์/190 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 400 นิวตันเมตรที่ 1,750 - 2,500 รอบต่อนาที สามารถทำความเร็ว 0 - 100 กิโลเมตรต่อโมงชั่วโมงได้ภายใน 8 วินาที ขับเคลื่อน 4 ล้อด้วยบีเอ็มดับเบิลยู xDrive ทำงานควบคู่กับเกียร์อัตโนมัติ Steptronic 8 จังหวะ และด้วยเทคโนโลยี BMW EfficientLightweight บีเอ็มดับเบิลยู X4 ใหม่ จึงมีน้ำหนักเบากว่ารุ่นก่อนหน้าถึง 50 กิโลกรัม และยังมีค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศเพียง 0.30 ซึ่งถือว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุดเมื่อเทียบกับรถยนต์รุ่นอื่น ๆ ภายในเซกเมนต์เดียวกัน ส่งผลให้มีอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิงเฉลี่ยเพียง 17.9 กม./ลิตรเท่านั้น

ในส่วนมิติรถยนต์ มีความยาวเพิ่มขึ้น 81 มิลลิเมตร กว้างขึ้น 37 มิลลิเมตร และฐานล้อกว้างขึ้น 54 มิลลิเมตร แต่ลดความสูงของลง ช่วยเพิ่มแอโรไดนามิกส์ให้แก่รถ และยังมีพื้นที่  Leg room ในห้องโดยสารเพิ่มอีกด้วย

ขนาดทั้งหมด (มม.)

BMW X4 รุ่นใหม่

BMW X4 (รุ่นก่อนหน้า)

ต่างจากเดิม

ความยาว

4,752

4,671

+ 81

ความกว้าง

1,918

1,881

+ 37

ความสูง

1,621

1,624

– 3

ระยะช่วงล้อหน้า-หลัง

2,864

2,810

+ 54

สำหรับ X4 โดย BMW X4 xDrive20d M Sport ใหม่นี้ โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่มีความเฉพาะตัว ปราดเปรียวพร้อมเทคโนโลยีใหม่ๆ และใช้เอกลักษณ์แบบ Sport Activitity Coupe(SAC) คันแรกในรถยนต์ขนาดกลาง ซึ่งมีการดีไซน์เส้นสายลดหลั่นลงมา บ่งบอกถึงความเป็นรถสปอร์ตคูเป้สุดคลาสสิค

ส่วนภายในห้องโดยสาร ยังคงออกแบบโดยคำนึงถึงผู้โดยสารเป็นสำคัญ ทั้งเบาะที่นั่งแบบสปอร์ตและเบาะรองเข่าที่ได้รับการออกแบบใหม่ให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หลังคากระจกแบบพาโนรามายังช่วยเสริมให้ภายในตัวรถโปร่งสบายยิ่งขึ้น เติมเต็มความสปอร์ตอีกขั้นด้วยพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น M Sport เบาะหนังแท้ Vernasca แผงคอนโซลหุ้มหนัง Sensatec ตกแต่งภายในด้วย Aluminium Rhombicle พร้อมแถบโครเมียม ให้ความหรูหราที่โดดเด่นยิ่งขึ้น  

ด้านเทคโนโลยียังคงมีมาให้อย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นระบบ iDrive ใหม่ล่าสุด ระบบการสั่งการด้วยเสียงและ BMW Gesture Control รวมถึง BMW ConnectedDrive


ด้านกลุ่มผู้ทดสอบเริ่มต้นจากการทดสอบสมรรถนะรถแบบจิมคาน่าในสนามหินกรวดก่อน ซึ่งจะเป็นการให้ผู้ขับขี่ได้ทดสอบสมรรถนะการขับเคลื่อน 4 ล้อผ่านกรวยที่ตั้งอยู่แบบสลาลอม รวมถึงการหักเลี้ยวโค้งกะทันหัน และการจอดรถให้สนิทในจุดที่กำหนด  โดยก่อนเริ่มการทดสอบ จะมีการนั่งไปพร้อมกับผู้ฝึกสอนที่จะคอยอธิบายเทคนิคการขับผ่านแต่ละจุด เมื่อเริ่มต้นตอนออกตัวผู้ทดสอบได้ใช้โหมด comfort ดูก่อนเพื่อรับรู้ความรู้สึกของรถ BMW X4 และเพื่อเป็นการปรับตัวและความรู้สึกทั้งหมด

โดย BMW X4 มีการเร่งทะยานไปในระดับที่นุ่มนวลแต่ถ้าเริ่มมีการกระแทกเท้าลงคันเร่ง รถสามารถรีดรอบตอบสนองความต้องการของผู้ขับอยู่พอควร ใครที่ชอบสไตล์พุ่งกระโชกโฮกฮากอาจจะต้องลองปรับเป็นโหมด sport ที่ให้อัตราการเร่งที่ทันใจกว่าเดิม ในเรื่องการเข้าโค้งและช่วงล่าง ผู้ทดสอบสามารถสัมผัสได้ถึงการปรับน้ำหนักพวงมาลัยตามระยะการเข้าโค้งได้อย่างดีเยี่ยมจากตัวรถจากระบบ xDrive ถึงแม้จะมีอาการย้วยไปบ้างเนื่องจากเป็น SUV ขนาดใหญ่และสูงที่ผ่านการหักเข้าโค้งอย่างรวดเร็ว แต่เมื่อต้องทำการหักพวงมาลัยด้วยความรวดเร็วสลับกับการแตะเบรคช่วยเพื่อชะลอในจังหวะที่ต้องตัดเข้าโค้ง ระบบช่วงล่างที่ไว้ใจได้ช่วยให้สามารถบังคับไปในทิศทางที่ต้องการได้สบาย รวมถึงการตอบสนองของรถเมื่อต้องทำการกดในระดับต่างๆ ทั้งการแตะเบรคเพื่อชะลอรถหรือการกดเบรคแบบกะทันหันซึ่งช่วยให้รถหยุดในบริเวณที่ต้องการได้ 

จากนั้น กลุ่มสื่อมวลชนได้ไปทดสอบ BMW X4 ใหม่ในสนามแข่ง ซึ่งความพิเศษในครั้งนี้คือการขับขี่ในรูปแบบของ Reverse Track หรือการวิ่งย้อนทางในสนามแข่ง สำหรับในการทดสอบรอบนี้สื่อมวลชนจะสลับกันทั้งเป็นผู้ขับและผู้โดยสาร ในการทดสอบมีทั้งการขับทางตรงเพื่อเร่งความเร็วระยะยาว หรือโค้งที่มีลักษณะหักศอกแบบต่างๆ รวมถึงการปรับใช้ฟังก์ชั่นต่างๆที่มีในตัวรถเพิ่มเติม เช่น โหมดแสดงแรงบิดหรือแรงม้า 

นอกจากนี้ ยังมีการจัดเส้นทางการวิ่งแบบแรลลี่ครอสหรือขับกึ่งๆวิบากเพื่อให้รับรู้ถึงสมรรถนะของรถในการขับลุยผ่านทางขรุขระและหลุมสูงต่ำ ผู้ขับได้ลองทดสอบเปิดโหมด comfort ในเส้นที่ขรุขระ พบว่าช่วงล่างให้ความรู้สึกค่อนข้างนุ่มนวลถึงแม้จะต้องขับรูดทางที่มีีความสูงต่ำ และได้ลองโหมด sport ในทางที่เป็นหลุมเป็นบ่อ BMW X4 ยังสามารถเก็บความรู้สึกกระด้างเมื่อรถเกิดการกระเทือนได้ดีกว่าที่คิดไว้

นอกจากนี้ไฮไลท์อีกอย่าง คือการขับผ่านเนินสูงด้วยล้อเพียงข้างเดียวเพื่อทดสอบระบบ xDrive ที่จะตรวจสอบล้อที่ว่ิ่ง หากมีล้อใดที่วิ่งฟรีไม่ได้สัมผัสพื้น ระบบจะทำการล็อคล้อเพื่อส่งกำลังให้ล้ออื่นวิ่งแทน รถจะสามารถขับเคลื่อนผ่านอุปสรรคไปได้อย่างง่ายดาย ซึ่งการทดสอบในรอบนี้สื่อมวลจะเป็นลักษณะผลัดกันขับ ผลัดกันเป็นผู้โดยสาร



ส่วนวันที่สอง เป็นการทดสอบรถ MINI  ถึง 4 รุ่นจากสำนักแต่งคู่บุญอย่าง John Cooper Works(JCW) ซึ่งทั้ง 4 รุ่นทั้ง MINI JCW Convertible , MINI JCW Hatch, MINI JCW Countryman และ MINI JCW Clubman ล้วนใช้เครื่องยนต์ MINI TwinPower Turbo 4 สูบ ขนาด 2.0 ลิตร ให้กำลัง 170 กิโลวัตต์ / 231 แรงม้า ด้านแรงบิดในรุ่น MINI JCW Convertible และ MINI JCW Hatch ให้แรงบิดสูงสุดที่ 320 นิวตันเมตร ส่วน MINI JCW Countryman และ MINI JCW Clubman ซึ่งเป็นรุ่นขับเคลื่อน 4 ล้อ เพิ่มแรงบิดสูงสุดอยู่ที่ 350 นิวตันเมตร

สำหรับ MINI John Cooper Works Convertible ใหม่นี้ ยังมีไฮไลท์อันโดดเด่นคือหลังคาผ้าแบบอัตโนมัติที่สามารถเปิด-ปิดแบบไร้เสียงผ่านระบบไฟฟ้า พร้อมปรับปรุงให้สามารถลดเสียงการรบกวนจากภายนอก และยังใช้เวลาเปิด-ปิดเพียงแค่ 18 วินาที ซึ่งจากการขับในรุ่นนี้ ต้องบอกว่าการเก็บเสียงทำได้ดีไม่ต่างกับรถ MINI ในรุ่นอื่นๆ 

การทดสอบรถ MINI ทุกรุ่นได้วิ่งในสนามแข่งตามปกติ ซึ่งสื่อมวลชนได้มีโอกาสสลับกันขับทุกรุ่น สัมผัสแรกของ MINI ที่ได้เข้าไปนั่งคือ นั่งสบายไม่อึดอัดถึงภายนอกจะดูเล็กแต่ข้างในกลับมีพื้นที่มากกว่าที่คิด เมื่อเริ่มออกตัวผู้ทดสอบเลือกใช้แบบโหมด sport/manual และเลือกปรับเกียร์เองตรงแป้น paddle shift เพื่อสัมผัสกับอัตราเร่งและการตอบสนองของเครื่องยนต์ตามใจผู้ขับ ต้องบอกว่าทุกคันยังรักษาคอนเซปต์ go-kart-feeling ไว้พร้อมความแรงตามแบบฉบับของสำนักแต่ง JCW ที่ทำให้แต่ละคันในสนามสามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงได้ต่ำกว่า 7 วินาที (6.1 - 6.5 วินาที)

รถสามารถเร่งทำความเร็วได้อย่างรวดเร็วเพียงในระยะเวลาสั้นๆด้วยเครื่องยนต์ 2.0 TwinPower Turbo ที่ใส่มาในร่างรถขนาดเล็ก ทำให้เพียงชั่วอึดใจสามารถทะยานสุดทางตรงในสนามแข่ง พร้อมด้วยความคล่องตัวในการขับขี่ของตัวรถที่ผู้ทดสอบประทับใจเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมื่อต้องเข้าโค้ง พวงมาลัยและช่วงล่างที่ตอบสนองต่อผู้ขับได้ทันทีทันใดไม่ว่าจะเลือกทำการเปลี่ยนเลนหรือตัดเข้าโค้งต่างๆที่สามารถสั่งได้อย่างใจคิด  และฟีลลิ่งสปอร์ตจากท่อไอเสียที่ปลดปล่อย backfire บ่งบอกขุมพลังที่แฝงอยู่ในรถคันเล็กนี้ที่พร้อมระเบิดตามใจของผู้ขับได้ทุกเมื่อทำให้การขับมีความสนุกได้อรรถรสเป็นอย่างดี แม้ถึงจังหวะต้องเบรกรถเพื่อชะลอความเร็วเพื่อเข้าโค้งหักศอก MINI ทุกรุ่นก็สามารถตอบโจทย์ทั้งทำความเร็วและการตอบสนองการหยุดรถได้อย่างใจ 

รวบรัดตัดความจากการทดสอบทั้ง BMW X4 และเหล่า MINI ทั้งสองวัน คงต้องบอกว่าเป็นรถที่มีสมรรถนะสูงทั้งสองยี่ห้อ หากคุณชอบ SUV ขนาดกลางที่เต็มไปด้วยฟีลลิ่งสุดสปอร์ต พร้อมความหรูหราภายในและเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกและช่วยในการขับขี่ล่าสุดในแบบฉบับ BMW รถ BMW X4 ใหม่จะตอบโจทย์คุณ แต่ถ้าคุณชอบรถขนาดเล็ก ขับง่ายคล่องตัวจัด สามารถพาคุณลัดเลาะไปมาบนถนนด้วยความคล่องตัวสูงและยังอัดแน่นด้วยสมรรถนะและเทคโนโลยีจากประเทศอังกฤษอย่าง MINI พ่วงด้วยความแรงตามแบบฉบับของ John Cooper Works รถ MINI คงตอบสนองอะดรีนาลีนความแรงของคุณได้อย่างแน่นอน

บีเอ็มดับเบิลยู X4 xDrive20d M Sport ใหม่
ราคาจำหน่าย 3,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ BSI Standard)

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คอนเวิร์ตทิเบิล ใหม่
ราคาจำหน่าย 3,468,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ แฮทช์
ราคาจำหน่าย 3,418,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)

มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คันทรีแมน และ มินิ จอห์น คูเปอร์ เวิร์คส์ คลับแมน
ราคาจำหน่าย 3,548,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และแพ็คเกจ MSI Standard)



ขอขอบคุณบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย สำหรับทริปการทดสอบในครั้งนี้ด้วย

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ