นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ กับการทดสอบเป็นครั้งแรกหลังจากที่ประกาศขายทำตลาดในประเทศไทย กับกิจกรรมให้สื่อมวลชนทดสอบ ผู้ทดสอบจะได้สัมผัสกับสมรรถนะอันโดดเด่นของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในรูปแบบต่างๆทั้ง ทางออฟโรดและออนโรด การทดสอบในจังหวัดเชียงราย
สำหรับระยะทางในการทดสอบกว่า 120 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมืองเชียงราย มุ่งสู่พระตำหนักดอยตุงวนกลับมาที่พักในเมืองเชียงราย เริ่มต้นการทดสอบกับการบรรณยายให้เห็นข้อดีต่างว่า เทอร์ร่า นั้นมีดีอะไรบ้างคัดมาที่เด่นๆ เริ่มด้วย
เครื่องยนต์ใหม่ที่ไม่เหมือนกับนาวาร่า
คัสซีกับตัวรถมียางรองตัวถังแบบซับแรงกว่า 10 จุด ทำให้ลดแรงกระเทือน
ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 5 Link ช่วยให้ลดอาการโคลง
ลดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกแบบ Acoustic glass
เริ่มการทดสอบ รถที่ทางทีมงานได้รับคือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ หน้าตาภายนอกเหมือนกับรุ่นขับสี่ หน้าตาการออกแบบด้านหน้า กระจังหน้าแบบ V-Motion อันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะของนิสสัน พร้อมไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) และไฟท้าย LED แบบ light guide ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว เข้ามานั่งภายในรถมีความกว้างขวางตามแบบฉบับรถแนว ppv คอนโซนหน้าตาคล้ายนาวาร่า แนวเรียบๆ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น แต่ที่โดดเด่นคือจอส่องหลัง ในการแสดงภาพที่มาจากกล้องด้านหลังตัวรถ โดยภาพบนจอจะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นทัศนวิสัยด้านหลังได้ในมุมกว้าง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยน ระหว่างจอแสดงภาพจากกล้อง หรือจากกระจกปกติได้ เพื่อช่วยให้การมองเห็นสภาพการจราจรด้านหลังได้อย่างชัดเจนที่สุด สำหรับเทคโนโลยี IRVM นี้ช่วยเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสารนั่งด้านหลัง พร้อมระบบ IAVM ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นสภาพรอบตัวยานพาหนะได้ทั่วทุกทิศทาง ด้วยการสร้างภาพมุมสูงแบบ bird’s-eye view รอบตัวรถ จึงทำให้สามารถควบคุมตัวรถระหว่างถอดจอดรวมถึงเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างง่ายดายแม้ในพื้นที่แคบ เบาะนั่งแถวที่ 2 เข้าออกได้อย่างง่ายดายด้วย ระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-Touch Remote Fold and Tumble Seats) ที่สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ แค่เพียงการกดที่ปุ่มเดียว แอร์มีให้เยอะทั้ง สองแถว ทำให้เย็นทั่วทั้งคัน
เครื่องยนต์นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC ขนาด 2,298 ซีซี มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเร็คอินเจคชัน ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดีระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ที่มาพร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล (M mode) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 พร้อมระบบล็อกไฟฟ้าเพื่อการใช้งานที่แตกต่างตามสภาพพื้นผิวถนน ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ทำให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อหรือ two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ four-wheel driver (4H) เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเจอกับสภาพถนนที่เปียกลื่น นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่แบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive (4LO) สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูง หรือลงในเส้นทางลาดชัน
การทดสอบครั้งนี้ เริ่มต้นการทดสอบทางออฟโรดที่ไม่โหดมากโดยแบบเป็นสองกลุ่ม ในกลุ่มแรกทีมงานได้ขับขี่ในเส้นทางแบบใช้รถในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) ในเส้นทางลุยไปตามสวนและร่องน้ำตามธรรมชาติ เทอร์ร่า สามารถผ่านเส้นทางไปอย่างง่ายดายพร้อม ตัวรถสามารถรับแรงกระแทกตามหลุมบ่อได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงช่วงล่างที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมตัวถังที่ลดแรงกระแทกได้ดี และก็เปลี่ยนมาขับเคลื่อน 4 ล้อ (4WD) บนเส้นทางหลากหลายรูปแบบ โดยทางนิสสันได้เตรียมสถานีเพื่อทดสอบสมรรถนะแบบออฟโรด เส้นทดสอบมุมเอียงให้เห็นการสรงตัวของรถ เนินสลับรถสามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย เนินเขาสูงด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงถึง 450 นิวตัน-เมตร ทำให้เนินเป็นเรื่องง่ายดาย เทคโนโลยีของ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ในรถเอสยูวีพรีเมี่ยม เช่น เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control – HDC) เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential - B-LSD) มาตรแสดงข้อมูลของระบบขับเคลื่อน (Off-road Meter) รวมถึงมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่ทางออฟโรด ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ที่ให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ได้อย่างง่ายดาย
เส้นทางทดสอบในช่วงออนโรด ขึ้นพระตำหนักดอยตุง ไปดอยช้างมูบ ดอยผาฮี้ ตลอดจนถึง ดอยผาหมี มีรูปแบบเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชันและคดเคี้ยวตลอดเวลา ในช่วงการทดสอบมีทั้งแดด ฝน หมอก เรียกว่าครบทุกสภาพจริงๆในการขึ้นเขา เครื่องยนต์ เทอร์ร่า ใหม่แสดงให้เห็นถึงพละกำลัง ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ทำให้ขึ้นเขาได้อย่างง่ายดาย ในการทดสอบช่วงฝนตก รถที่ทางทีมงานใช้คือระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ทางโค้งลงเขาถนนลื่นมากทำให้รถเสียอาการในบางช่วงแต่ด้วยระบบความปลอดภัยต่างๆที่ทำงานได้ดีจึงทำให้รู้สึกปลอดภัย ช่วงล่างหลังคอยล์สปริงแบบ 5-link สามารถช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ (body roll) ได้จริงในทางโค้งที่เยอะ ลงจากเขา ใช้เส้นทางหลักเพื่อกับโรงแรม เป็นช่วงที่สามารถทำความเร็วได้ สิ่งที่เด่นคือการเก็บเสียงที่ดีมากในความเร็วสูง กำลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีตั้งแต่รอบต้นยันปลายหรือที่เรียกว่าปลายไหลช่วงล่างให้ความมั่นคงในความเร็วที่สูง เบรคไว้ใจได้
สรุปกับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ บอกได้ว่ามาช้าไปหน่อยเพราะถ้ามาเร็วก็นี้ตลาด รถอเนกประสงค์ คงจะสนุกกว่านี้ แต่ก็มาแล้ว ถ้าถามว่า เทอร์ร่า มีจุดเด่นตรงไหนคือการขับขี่เครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดี ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ แต่ในส่วนอื่นๆ เรื่องหน้าตาต้องบอกว่าแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องเบรคหลังที่เป็นดรัมเบรคทางนิสสันให้คำตอบว่า เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแต่ที่แน่ๆเบรคก็ถูกปรับจูนให้ทำงานได้ดี
ข้อดี อุปกรณ์ความปลอดภัยมีมาให้อย่างเต็มที่ เครื่องยนต์ใหม่ตอบสนองดี ช่วงล่างเด่น การเก็บเสียงที่ดีภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งสบาย เบาะแถวสองปรับไฟฟ้า แอร์มีให้ครบทุกแถว
ข้อเสีย ภายในดูเรียบ เครื่องเสียงดูโบราณ เกียร์ที่หยิบยืมมาจากนาวาร่าอาจจะดูเก่าไปกับการใช้งาน (เพราะในช่วงลงเขาถ้าอยู่ในหมวด ออโต้ รถจะไหลลงเขาอย่างรวดเร็วเกียร์จะไม่เปลี่ยนให้ ต้องปรับเกียร์เองในช่วงทางลงเพื่อลดการใช้เบรค แต่ในทางเรียบทำงานได้ดี) เสา A อับสายตา กล้องเวลาถอยถ้าแสดงภาพที่เครื่องเสียงแทนจะดีมาก
ถ้าคุณจะตอบเลือกรถอเนกประสงค์สักคันนึง เทอร์ร่าก็ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพราะถ้าถามว่าให้เทียบระหว่างค่ายต่างๆแล้ว เทอร์ร่า นั้นอยู่ตรงกลางๆไม่เด่นไปทางไหนและก็ไม่ได้ด่อยไปกว่าใคร ถ้าคุณชอบในนิสสันคุณก็ควรลอง
นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือก 5 สี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT รุ่น 1,349,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ THB 1,427,000 สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น