[Test Drive] NEW NISSAN TERRA มาช้าดีกว่าไม่มา เด่นที่การขับขี่ Share this
รีวิวรถยนต์
โหมดการอ่าน

[Test Drive] NEW NISSAN TERRA มาช้าดีกว่าไม่มา เด่นที่การขับขี่

วรัญญู ยอดพรหม
โพสต์เมื่อ 03 October 2561

นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่  กับการทดสอบเป็นครั้งแรกหลังจากที่ประกาศขายทำตลาดในประเทศไทย กับกิจกรรมให้สื่อมวลชนทดสอบ ผู้ทดสอบจะได้สัมผัสกับสมรรถนะอันโดดเด่นของเทคโนโลยีอัจฉริยะเพื่อการขับขี่ในรูปแบบต่างๆทั้ง ทางออฟโรดและออนโรด การทดสอบในจังหวัดเชียงราย

            สำหรับระยะทางในการทดสอบกว่า 120 กิโลเมตร เริ่มต้นจากเมืองเชียงราย มุ่งสู่พระตำหนักดอยตุงวนกลับมาที่พักในเมืองเชียงราย เริ่มต้นการทดสอบกับการบรรณยายให้เห็นข้อดีต่างว่า เทอร์ร่า นั้นมีดีอะไรบ้างคัดมาที่เด่นๆ เริ่มด้วย

เครื่องยนต์ใหม่ที่ไม่เหมือนกับนาวาร่า  

คัสซีกับตัวรถมียางรองตัวถังแบบซับแรงกว่า 10 จุด ทำให้ลดแรงกระเทือน

ระบบกันสะเทือนด้านหลังแบบ 5 Link ช่วยให้ลดอาการโคลง

ลดเสียงรบกวนจากภายนอกด้วยกระจกแบบ Acoustic glass

           

        เริ่มการทดสอบ รถที่ทางทีมงานได้รับคือ รุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ หน้าตาภายนอกเหมือนกับรุ่นขับสี่ หน้าตาการออกแบบด้านหน้า กระจังหน้าแบบ V-Motion อันเป็นเอกลักษณ์การออกแบบเฉพาะของนิสสัน พร้อมไฟหน้า LED ทรงบูมเมอแรง พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน (Daytime Running Light) และไฟท้าย LED แบบ light guide ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว  เข้ามานั่งภายในรถมีความกว้างขวางตามแบบฉบับรถแนว ppv คอนโซนหน้าตาคล้ายนาวาร่า แนวเรียบๆ พวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชั่น แต่ที่โดดเด่นคือจอส่องหลัง ในการแสดงภาพที่มาจากกล้องด้านหลังตัวรถ โดยภาพบนจอจะช่วยให้ผู้ขับขี่เห็นทัศนวิสัยด้านหลังได้ในมุมกว้าง โดยผู้ขับขี่สามารถเลือกปรับเปลี่ยน ระหว่างจอแสดงภาพจากกล้อง หรือจากกระจกปกติได้ เพื่อช่วยให้การมองเห็นสภาพการจราจรด้านหลังได้อย่างชัดเจนที่สุด สำหรับเทคโนโลยี IRVM นี้ช่วยเสริมความปลอดภัยและความสะดวกสบายในการขับขี่ ในกรณีที่มีการบรรทุกสัมภาระหรือมีผู้โดยสารนั่งด้านหลัง  พร้อมระบบ IAVM ช่วยให้ผู้ขับสามารถมองเห็นสภาพรอบตัวยานพาหนะได้ทั่วทุกทิศทาง ด้วยการสร้างภาพมุมสูงแบบ bird’s-eye view รอบตัวรถ จึงทำให้สามารถควบคุมตัวรถระหว่างถอดจอดรวมถึงเคลื่อนตัวไปข้างหน้าอย่างง่ายดายแม้ในพื้นที่แคบ เบาะนั่งแถวที่ 2 เข้าออกได้อย่างง่ายดายด้วย ระบบพับเบาะอัตโนมัติ (1-Touch Remote Fold and Tumble Seats) ที่สามารถสั่งการได้จากตำแหน่งผู้ขับ แค่เพียงการกดที่ปุ่มเดียว แอร์มีให้เยอะทั้ง สองแถว ทำให้เย็นทั่วทั้งคัน

               เครื่องยนต์นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ ใช้เครื่องยนต์ดีเซล YS23DDTT ทวินเทอร์โบ อินเตอร์คูลเลอร์ DOHC ขนาด 2,298 ซีซี มาพร้อมหัวฉีดเชื้อเพลิงระบบไดเร็คอินเจคชัน ให้พละกำลังสูงสุด 190 แรงม้า และมีแรงบิดสูงสุด 450 นิวตัน-เมตร ให้อัตราเร่งที่ดีระบบส่งกำลังแบบอัตโนมัติ 7 สปีด ที่มาพร้อมโหมดขับขี่แบบแมนนวล (M mode) ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ 4x4 พร้อมระบบล็อกไฟฟ้าเพื่อการใช้งานที่แตกต่างตามสภาพพื้นผิวถนน ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ทำให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อหรือ two-wheel drive (2H) เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือ four-wheel driver (4H) เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะเมื่อเจอกับสภาพถนนที่เปียกลื่น นอกจากนี้ยังมีโหมดการขับขี่แบบความเร็วต่ำ low range four-wheel drive (4LO) สำหรับการขับขี่บนพื้นทราย โคลน ลุยน้ำ ปีนขึ้นที่สูง หรือลงในเส้นทางลาดชัน

            การทดสอบครั้งนี้ เริ่มต้นการทดสอบทางออฟโรดที่ไม่โหดมากโดยแบบเป็นสองกลุ่ม ในกลุ่มแรกทีมงานได้ขับขี่ในเส้นทางแบบใช้รถในรุ่นขับเคลื่อน 2 ล้อ (2WD) ในเส้นทางลุยไปตามสวนและร่องน้ำตามธรรมชาติ เทอร์ร่า สามารถผ่านเส้นทางไปอย่างง่ายดายพร้อม ตัวรถสามารถรับแรงกระแทกตามหลุมบ่อได้เป็นอย่างดี แสดงให้เห็นถึงช่วงล่างที่ถูกพัฒนาขึ้นมาพร้อมตัวถังที่ลดแรงกระแทกได้ดี และก็เปลี่ยนมาขับเคลื่อน  4 ล้อ (4WD) บนเส้นทางหลากหลายรูปแบบ โดยทางนิสสันได้เตรียมสถานีเพื่อทดสอบสมรรถนะแบบออฟโรด เส้นทดสอบมุมเอียงให้เห็นการสรงตัวของรถ  เนินสลับรถสามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดาย  เนินเขาสูงด้วยเครื่องยนต์ที่มีแรงบิดสูงถึง 450 นิวตัน-เมตร ทำให้เนินเป็นเรื่องง่ายดาย เทคโนโลยีของ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี้ ในรถเอสยูวีพรีเมี่ยม เช่น เทคโนโลยีช่วยออกตัวบนทางลาดชัน (Hill Start Assist – HSA) เทคโนโลยีควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน (Hill Descent Control – HDC) เทคโนโลยีป้องกันการลื่นไถล (Brake Limited Slip Differential -    B-LSD) มาตรแสดงข้อมูลของระบบขับเคลื่อน (Off-road Meter) รวมถึงมุมเอียงต่างๆ ในขณะขับขี่ทางออฟโรด ฟังก์ชั่น shift-on-the-fly ที่ให้ผู้ขับสามารถเปลี่ยนจากการขับขี่แบบสองล้อ เป็นระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ ได้อย่างง่ายดาย

            

             เส้นทางทดสอบในช่วงออนโรด ขึ้นพระตำหนักดอยตุง ไปดอยช้างมูบ ดอยผาฮี้ ตลอดจนถึง ดอยผาหมี มีรูปแบบเส้นทางขึ้นลงเขาสูงชันและคดเคี้ยวตลอดเวลา ในช่วงการทดสอบมีทั้งแดด ฝน หมอก เรียกว่าครบทุกสภาพจริงๆในการขึ้นเขา เครื่องยนต์ เทอร์ร่า ใหม่แสดงให้เห็นถึงพละกำลัง ขนาด 2.3 ลิตร ทวินเทอร์โบ ที่ทำให้ขึ้นเขาได้อย่างง่ายดาย ในการทดสอบช่วงฝนตก รถที่ทางทีมงานใช้คือระบบขับเคลื่อน 2 ล้อ ทางโค้งลงเขาถนนลื่นมากทำให้รถเสียอาการในบางช่วงแต่ด้วยระบบความปลอดภัยต่างๆที่ทำงานได้ดีจึงทำให้รู้สึกปลอดภัย ช่วงล่างหลังคอยล์สปริงแบบ 5-link สามารถช่วยลดอาการโคลงของตัวรถ (body roll) ได้จริงในทางโค้งที่เยอะ ลงจากเขา ใช้เส้นทางหลักเพื่อกับโรงแรม เป็นช่วงที่สามารถทำความเร็วได้ สิ่งที่เด่นคือการเก็บเสียงที่ดีมากในความเร็วสูง กำลังเครื่องยนต์ที่ตอบสนองได้ดีตั้งแต่รอบต้นยันปลายหรือที่เรียกว่าปลายไหลช่วงล่างให้ความมั่นคงในความเร็วที่สูง เบรคไว้ใจได้

  

           สรุปกับ นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ บอกได้ว่ามาช้าไปหน่อยเพราะถ้ามาเร็วก็นี้ตลาด รถอเนกประสงค์ คงจะสนุกกว่านี้ แต่ก็มาแล้ว ถ้าถามว่า เทอร์ร่า มีจุดเด่นตรงไหนคือการขับขี่เครื่องยนต์ให้การตอบสนองที่ดี ช่วงล่างที่ไว้ใจได้ แต่ในส่วนอื่นๆ เรื่องหน้าตาต้องบอกว่าแล้วแต่ความชอบของแต่ละคน เรื่องเบรคหลังที่เป็นดรัมเบรคทางนิสสันให้คำตอบว่า เพื่อเป็นการลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาแต่ที่แน่ๆเบรคก็ถูกปรับจูนให้ทำงานได้ดี

ข้อดี  อุปกรณ์ความปลอดภัยมีมาให้อย่างเต็มที่ เครื่องยนต์ใหม่ตอบสนองดี ช่วงล่างเด่น การเก็บเสียงที่ดีภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งออกแบบมาให้นั่งสบาย เบาะแถวสองปรับไฟฟ้า แอร์มีให้ครบทุกแถว

ข้อเสีย ภายในดูเรียบ เครื่องเสียงดูโบราณ เกียร์ที่หยิบยืมมาจากนาวาร่าอาจจะดูเก่าไปกับการใช้งาน (เพราะในช่วงลงเขาถ้าอยู่ในหมวด ออโต้ รถจะไหลลงเขาอย่างรวดเร็วเกียร์จะไม่เปลี่ยนให้ ต้องปรับเกียร์เองในช่วงทางลงเพื่อลดการใช้เบรค แต่ในทางเรียบทำงานได้ดี)  เสา A อับสายตา  กล้องเวลาถอยถ้าแสดงภาพที่เครื่องเสียงแทนจะดีมาก

          

       ถ้าคุณจะตอบเลือกรถอเนกประสงค์สักคันนึง เทอร์ร่าก็ควรเป็นหนึ่งในตัวเลือกเพราะถ้าถามว่าให้เทียบระหว่างค่ายต่างๆแล้ว เทอร์ร่า นั้นอยู่ตรงกลางๆไม่เด่นไปทางไหนและก็ไม่ได้ด่อยไปกว่าใคร ถ้าคุณชอบในนิสสันคุณก็ควรลอง

นิสสัน เทอร์ร่า ใหม่ มีให้เลือก 5 สี ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 1,316,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 V 2WD 7AT รุ่น 1,349,000 บาท สำหรับรุ่น 2.3 VL 2WD 7AT และ THB 1,427,000 สำหรับรุ่น 2.3 VL 4WD 7AT

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่

 


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ