ขอต้อนรับเข้าสู่ M Town เมืองที่เต็มไปด้วยความแรงแบบไร้ขีดจำกัด ดินแดนแห่งความฝันสำหรับผู้ที่ชื่นชอบและหลงไหล ในเสน่ห์ของรถยนต์ BMW M ฉีกกฎข้อจำกัดแบบเดิมๆ แล้วไปเพลิดเพลินกับพวกเราชาว M Town
หากพูดถึง BMW ตระกูล M หลายท่านคงจะนึกถึงความเป็นที่สุดของแต่ละ Series ซึ่งเป็นรถที่มีความพิเศษ โดดเด่นทั้งภายนอกและภายใน ซึ่งแรกเริ่มเดิมที BMW M ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้สำหรับในการแข่งขัน โดยมีโลโก้ ///M เป็นสัญลักษณ์ประจำรุ่น แต่ภายใต้โลโก้ ///M นั้น แฝงไปด้วยประสิทธิภาพอันทรงพลังของเครื่องยนต์ ที่ถูกออกแบบและปรับแต่งให้มีความแรง ไม่ต่างจากรถซูเปอร์คาร์ สาวกตระกูล M ที่เคยสัมผัสคงรู้กันดี
จะว่าไปแล้วรถที่อยู่ในตระกูล M ตั้งแต่อดีต ถึง ปัจจุบัน ก็มีอยู่มากมายหลายรุ่น ถ้าจะให้ขุดมาทั้งหมด สงสัยคงจะยาว งั้นผมขอดึงรุ่นที่น่าสนใจที่ยังมีจำหน่ายในโชว์รูม BMW มาให้ชาวออโต้สปินน์ ได้อ่านได้รับชมกันครับ
BMW M2 Coupe
เริ่มด้วย BMW M2 Coupe น้องเล็กของตระกูล M ที่หน้าตาดูสวยดุ แฝงความน่ารัก หากมองผิวเผินอาจจะดูเหมือน BMW 2 ประตูทั่วๆไป แต่ใต้ฝากระโปรง ซ่อนความดุดันด้วยเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6 สูบ แถวเรียง TwinPower Turbo ระบบน้ำมันมีปั๊มน้ำมันไหลกลับ เครื่องยนต์จึงได้รับน้ำมันในปริมาณที่เหมาะสม ผสานระบบวาล์วแบบแปรผัน Valvetronic ซึ่งมีระบบ Double-VANOS ระบบฉีดเชื้อเพลิงความแม่นยำสูง และเทอร์โบชาร์จเจอร์แบบ TwinScroll เพื่อสมรรถนะเต็มสูบ จึงให้กำลังสูงสุดถึง 272 กิโลวัตต์ (370 แรงม้า) และแรงบิดสูงสุด 465 นิวตันเมตร ทั้งยังเพิ่มได้อีก 35 นิวตันเมตรด้วยโอเวอร์บูสท์ระหว่าง 1,350 ถึง 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ เครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบนี้จึงเร่งความเร็วรถจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้อย่างน่าทึ่งภายในเวลา 4.3 วินาที และเร่งถึงความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจึงเหลือเพียง 12.0 กิโลเมตร/ลิตร
ภายนอก เริ่มด้วยไฟหน้าที่เป็นแบบ LED ปรับตามทิศทางของการหมุนพวงมาลัย และยังมีระบบทำความสะอาดไฟหน้าด้วยแรงดันน้ำ หรูหราสปอร์ตลงตัวด้วยหลังคาซันรูฟกระจก เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้า เพิ่มความดุดันยิ่งขึ้น ด้วยล้ออัลลอย M ขนาด 19 นิ้ว แบบ Double-spoke สีดำ ลาย 437 M
ภายใน เมื่อก้าวเข้าสู่ห้องโดยสารของบีเอ็มดับเบิลยู M2 Coupé คนผู้ขับและผู้โดยสารตอนหน้า เป็นเบาะนั่งแบบสปอร์ตจากหนัง ‘Dakota’ สีดำ ทุกเบาะมีตราสัญลักษณ์นูนรูปตัวอักษร M อยู่ใต้พนักพิงศีรษะ เย็บด้วยตะเข็บสี Polar Blue ติดตั้งอุปกรณ์อย่างเป็นระบบเพื่อคนขับ จึงสามารถใช้งานระบบสำคัญได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ตอกย้ำความเป็นรถสปอร์ตด้วยแผงบุประตูจากลายของคาร์บอนไฟเบอร์ พวงมาลัยหุ้มหนัง M และมาตรวัดพร้อมเข็มสีแดง ทั้งยังมีองค์ประกอบอื่น เช่น แผงบุหลังคา BMW Individual สี Anthracite เพิ่มความสะดุดตาให้กับห้องโดยสาร
BMW M4 Coupe
BMW M4 Coupe อีกหนึ่งรุ่นของตระกูล M ที่มาในตัวถังคูเป้ ด้วยการออกแบบที่ดูสดุดตา ผสมผสานความดุดันสปอร์ตที่ลงตัว เรียกได้ว่าหลงรักตั้งแต่แรกพบเลยทีเดียว
BMW M4 Coupe มาพร้อมขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน 3.0 ลิตร 6สูบ แถวเรียง M TwinPower Turbo ผสานสุดยอดพลังสองรูปแบบเข้าด้วยกันอย่างลงตัว ได้แก่ รอบสูงถึง 7,300 รอบต่อนาทีและให้กำลังเครื่องเต็มสูบด้วยแรงบิดสูงสุด 550 นิวตันเมตร เครื่องยนต์ M กำลัง 317 กิโลวัตต์ (431 แรงม้า) ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ M แบบคลัทช์คู่ 7 จังหวะ พร้อม Drivelogic เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 4.1 วินาที และเร่งถึงความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจึงเหลือเพียง 12.3 กิโลเมตร/ลิตร
ภายนอก ช่องรับลมด้านหน้าที่ดูโดดเด่น และรับอากาศได้ดี ช่วยระบายความร้อนขณะขับขี่ โฉบเฉี่ยวด้วยการออกแบบฝากระโปรงหน้าดูบึกบึน มีส่วนนูนบริเวณช่วงกลางฝากระโปรง และเส้นสายของข้างตัวรถที่ดูโฉบเฉี่ยวตามแบบฉบับของรถยนต์แบบคูเป้
ภายใน ภายในห้องโดยสาร เบาะนั่งได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ในทรงที่โอบกระชับ ประดับด้วยตราสัญลักษณ์ M เรืองแสง
พร้อมแผงมาตรวัดกลมแบบรถแข่ง พวงมาลัยหุ้มหนัง M และคันเกียร์ M ยืนยันความเป็นรถสปอร์ตอย่างไร้ข้อกังขา บีเอ็มดับเบิลยู M4 Coupe คือนวัตกรรมที่สร้างมาเพื่อปฏิวัติขีดจำกัดอย่างแท้จริง
BMW M5 Sedan
BMW M5 Sedan ถือเป็นอีกรุ่นของรถซีดานสมรรถนะสูง ที่เพรียบพร้อมด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัยต่างๆมากมาย ด้วยนวัตกรรมของระบบขับเคลื่อน M xDrive นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ถึง 5 โหมด ประกอบด้วย โหมดการขับขี่ด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพแบบไดนามิก (หรือ DSC ที่สามารถเลือกเปิดหรือปิดระบบ DSC หรือเลือกการขับขี่ด้วยโหมด M Dynamic) และยังสามารถเลือกการขับขี่ด้วยระบบ M xDrive ซึ่งแบ่งเป็นโหมด 4WD, 4WD Sport และ 2WD
BMW M5 มาพร้อมกับเครื่องยนต์ M TwinPower Turbo แบบ V8 ความจุ 4.4 ลิตร ให้พละกำลังสูงสุด 441 กิโลวัตต์ / 600 แรงม้า ที่ 5,600 – 6,700 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 750 นิวตันเมตร ที่ 1,800 – 5,600 รอบต่อนาที เร่งความเร็วจาก 0 ถึง 100 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 3.4 วินาที และเร่งความเร็วจาก 0 ถึง 200 กม./ชม. ได้ในเวลาเพียง 11.1 วินาที ความเร็วสูงสุดได้ที่ 250 กม./ชม. ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะต่างๆ อัตราการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงจึงเหลือเพียง 10.5 กิโลเมตร/ลิตร
ภายนอก ถูกออกแบบช่องอากาศด้านหน้าให้มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมเสียงเครื่องยนต์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ผ่านกลไลวาล์วไอเสียรวม สามารถควบคุมให้นุ่มนวลหรือดุดันด้วยการกดปุ่มภายในรถยนต์ ติดตั้งฝากระโปรงหน้าอะลูมิเนียมดีไซน์ M และหลังคาผลิตจากวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ (CFRP) ขณะที่ระบบเบรกเป็นแบบ 6 ลูกสูบ พร้อมคาลิปเปอร์สีน้ำเงิน และด้านหลังแบบคาลิเปอร์ 1 ลูกสูบลอยน้ำหนักหนักเบา มาพร้อมล้ออัลลอย M ขนาด 20 นิ้ว
ภายใน ห้องโดยสารถูกติดตั้ง Control Display แบบลอยตัว และ Head-up Display ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์ ติดตั้งเบาะนั่งบุหนังแท้ Merino และพวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นสไตล์ M, ระบบ iDrive สั่งงานด้วยมือ และที่ชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย
และทั้งหมดนี้ก็คือ BMW ตระกูล M ที่ผมได้หยิบยกขึ้นมา ซึ่งความน่าหลงไหลภายใต้โลโก้ ///M ไม่ได้มีแค่หน้าตาที่สวยงามดุดัน แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่านั้น คือความแรง และความเป็นที่สุดของบีเอ็มดับเบิลยู
หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่หลงรักความแรงแบบไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ก็สามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน M Town ของเรา และรับรหัส BMW M Town ของคุณได้ที่ https://bmw-m.com/only-in-mtown
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น