เป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ทาง Kawasaki ได้เรียนเชิญทุกคนเข้ามาร่วมการทดสอบขับขี่ Kawasaki Z400 เน็กเก็ตไบค์น้องใหม่ล่าสุดในตระกูล Z เข้าสู่ตลาดบ้านเรา ซึ่งเจ้ารถคันนี้ก็เพิ่งเปิดตัวกันไปในงาน Motor Expo 2018 เมื่อเดือนธันวาคมปลายปีที่แล้วนี่เอง สำหรับการทดสอบครั้งแรกนี้จะเป็นอย่างไร เรามาติดตามกันครับ
การทดสอบ Kawasaki Z400 ครั้งนี้ จัดขึ้นที่สนาม Motorsport Park สุวรรณภูมิ โดยเปิดโอกาสให้ผู้สนใจทุกๆ ท่านเข้าร่วมขับขี่ทดสอบรถรุ่นนี้ได้ฟรีทุกคน นอกจากนี้ยังมีอาหารและเครื่องดื่มให้บริการตลอดทั้งวัน โดยตลอดวัน ทาง Kawasaki นอกจากจะขนเอากองทัพ Z400 มากกว่า 10 คันมาให้ลองขี่กันทุกสีสันแล้ว ยังมี Kawasaki Ninja ZX-6R ซุปเปอร์สปอร์ตรุ่นใหม่ล่าสุดจากทางค่าย ที่กำลังร้อนแรงอยู่ในขณะนี้มาให้ทดลองขับขี่กันอีกด้วย
สำหรับ Kawasaki Z400 เป็นรถเน็กเก็ตไบค์ขนาดกลาง ด้วยขุมพลังเครื่องยนต์ 2 สูบเรียง ขนาด 399 ซีซี ระบายความร้อนด้วยน้ำที่ซึ่งถูกออกแบบมาใหม่ทั้งหมด ให้มีความเป็นมิตรต่อผู้ขับขี่มากที่สุด ด้วยปริมาตรกระบอกสูบ 399 ซีซี
ทางด้านการออกแบบ ตัวรถ Kawasaki Z400 คันนี้ ถูกเน้นหนักไปในเรื่องของความกระทัดรัด เนื่องจากทั้งเครื่องยนต์และเฟรมนั้นถูกออกแบบขึ้นมาใหม่ทั้งหมด วิศวกรจึงสามารถเลือกจุดในการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ให้มีความเหมาะสมมากที่สุดได้ โดยเจ้าเครื่องยนต์บล็อกใหม่นี้มีขนาดเท่ากับเครื่องของ Z250 รุ่นปี 2013 ถึงปี 2018 ตลอดจนมีการลดน้ำหนักในหลายส่วนลงเพื่อให้ตัวเครื่องเบาที่สุด โดยการออกแบบใหม่ดังกล่าวยังช่วยให้สามารถตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออกไปได้ รวมถึงปรับปรุงโครงสร้างใหม่เพื่อให้เครื่องยนต์มีความกระชับ
นอกจากนี้ระบบคลัชท์ยังมาพร้อมกับสลิปเปอร์คลัชท์ ซึ่งนอกจากทำให้การเปลี่ยนเกียร์เป็นเรื่องง่ายแล้ว ยังทำให้บีบคลัชได้อย่างนุ่มมือมากกว่าเดิมด้วย
ด้านหน้า ใช้ไฟหน้าแบบ LED สีขาว ดีไซน์ทันสมัย ซึ่งบอกเลยว่ารถมอเตอร์ไซค์ส่วนใหญ่ที่เป็นสไตล์สปอร์ตตั้งแต่ปี 2016 เป็นต้นมา แทบจะใช้ไฟหน้าแบบ LED เป็นมาตรฐานทั้งหมดแล้วเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับไฟเลี้ยวแบบ LED สไตล์สปอร์ตด้วย
โช๊คอัพด้านหน้าแบบเทเลสโกปิค ขนาดแกน 41 มม. ซึ่งมอบความนุ่มนวลสูงมาก มาพร้อมกับดิสเบรคเดี่ยวขนาด 310 มม. แบบ Semi-Floating ขนาดเดียวกับรุ่นพี่ใหญ่สุดอย่าง Z1000 ส่วนปั้มเบรคและระบบ ABS เป็นของ Nissin รุ่นล่าสุด ซึ่งมีขนาดเล็กน้ำหนักเบา
เรือนไมล์มัลติฟังก์ชั่นขนาดกะทัดรัด
Z400 มาพร้อมเรือนไมล์และสวิตช์แบบเดียวกับ Ninja 650 ตัวเรือนไมล์ถูกจัดวางข้อมูลมาให้อ่านง่าย มาตราวัดความเร็วรอบแบบเข็มมาพร้อมไฟบอกตำแหน่งเกียร์บริเวณตรงกลางและอยู่ด้านบนของจอ LCD มัลติฟังก์ชั่น โดยภายในเรือนไมล์นี้บอกข้อมูลการขับขี่ครบครันไม่ต่างจากรุ่นพี่ใหญ่เลยทีเดียว
ไฟท้ายและไฟเลี้ยวด้านหลังเป็นแบบ LED ดีไซน์สปอร์ตเข้ากับยุคสมัยปัจจุบัน
ข้อมูลทางเทคนิค
การขับขี่
สำหรับการขับขี่เจ้า Kawasaki Z400 คันนี้บอกเลยว่าเป็นรถที่ขี่สนุกมากๆ อีกรุ่นหนึ่งเลยทีเดียว โดยทางผมเองได้มีโอกาสทดสอบในสนามทดสอบแบบปิดที่ Motorsport Park สุวรรณภูมิ ทำให้สามารถทดสอบความสามารถของรถได้อย่างเต็มที่
ในด้านการขับขี่โดยรวมของตัวรถนั้น เป็นรถเน็กเก็ตไบค์ที่ควมคุมได้ง่าย ทำการปรับตัวกับรถไม่นานมากนักก็สามารถควมคุมเจ้า Kawasaki Z400 นี้ได้อย่างคล่องตัว
เครื่องยนต์ 2 สูบเรียง 399 ซีซีใน Kawasaki Z400 คันนี้บอกเลยว่า "เหลือๆ" ด้วยพละกำลังแรงบิดสูงถึง 33 นิวตันเมตร ทำให้การกระชากคันเร่ง บิดส่งตัวรถออกจากโค้งนั้น ทำได้อย่างง่ายดาย ประกอบกับตัวรถที่มีน้ำหนักเบามาก เพียง 167 กิโลกรัม ทำให้เจ้า Kawasaki Z400 คันนี้ ขึ้นแท่นเป็นรถเน็กเก็ตไบค์ที่ขี่ง่ายไปอีกรุ่นหนึ่งอย่างแน่นอน
ระบบเบรคเดิมๆ ของตัวรถนั้นทำงานได้เป็นอย่างดี โดยการทดสอบในสนามปิดนั้น เราขับขี่กันด้วยความเร็วพอสมควร ผมได้ทดสอบด้วยการยกลึกก่อนเข้าโค้ง พบว่าเบรคเดิมๆ ของตัวรถนั้นมั่นใจได้เลยล้ะว่าสามารถลดความเร็วได้ในระยะทางอันแสนสั้นได้อย่างสบายๆ เพราะงั้นแล้วเรื่องเบรคถือว่าสอบผ่านครับ
ในส่วนของท่านั่งนั้น เป็นไปตามสไตล์รถเน็กเก็ตไบค์ครับ คือท่านั่งสบาย ออกแนวหลังเกือบจะตรง ตำแหน่งของแฮนบาร์นั้นวางมาได้พอดีกับสรีระของชาวเอเชียอย่างเรา ประกอบกับความสูงของเบาะเพียง 785 มม. เท่านั้น ทำให้ผู้ขับขี่ที่แม้มีความสูงไม่มากแบบผมนั้น สามารถควบคุมรถได้อย่างง่ายดายครับ
ช่วงล่างของตัวรถนั้นซับแรงกระแทกได้อย่างนุ่มนวลมากๆ ไม่ว่าจะเนินบั้มพ์แบบไหนก็เอาอยู่ แต่ถ้าเกิดต้องการขับขี่ในสนามอย่างจริงจังด้วยความเร็วสูง เปิดคันเร่งออกจากโค้งแรง กดเบรคหนัก แนะนำให้เซ็ตอัพช่วงล่างให้เหมาะสมกับการขับขี่ในสนามจะขี่ได้สนุกขึ้นกว่านี้ เพราะเซ็ตติ้งเดิมๆ จากโรงงานเน้นหนักไปทางถนนมากกว่า ทำให้มีความนุ่มนวลไปสักนิด
สรุป
Kawasaki Z400 รุ่นใหม่ล่าสุดคันนี้ เป็นรถเน็กเก็ตไบค์อีกรุ่นหนึ่งที่น่าจับตามองมากๆ ในปีนี้ ด้วยน้ำหนักรถที่ค่อนข้างเบามากๆ และการออกแบบรถที่ทำให้ควบคุมได้อย่างง่ายดาย ทำให้เป็นรถที่เหมาะกับทั้งมือเก๋าที่ต้องการหารถเน็กเก็ตขนาดกลางสักคัน จนถึงมือใหม่ที่ยังไม่มีประสบการณ์กับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ บอกเลยว่า Kawasaki Z400 คันนี้ เป็นมิตรกับทุกคนครับ
สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถชมตัวจริงได้ที่ผู้แทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ Kawasaki ทั่วประเทศครับ ในราคาวางจำหน่ายเริ่มต้นที่ 186,000 บาท มาพร้อมกับสีสันให้เลือกถึง 4 สีด้วยกันดังนี้ครับ
สุดท้ายนี้ต้องขอขอบคุณบริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ได้เอื้อเฟื้อกิจกรรมทดสอบขับขี่ Kawasaki Z400 คันนี้ด้วยครับ
ขอขอบคุณภาพถ่ายการขับขี่จาก Superbike Magazine Thailand Edition
บททดสอบโดย กฤตนู วิเศษไชยศรี ( Paknam536 )
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น