หลายคนพูดถึงรถกระบะสมมรถนะสูงในประเทศไทย ก็คงต้องนึกถึง Ford Ranger Raptor ถึงกระแสจะมีทั้งดีและร้ายก็ตาม ทางฟอร์ดก็พร้อมที่แก้ไขให้ดีที่สุด และในความเป็นจริง แร็พเตอร์ ก็ยังคงเป็นที่สุดของกระบะที่สมบูรณ์ในด้านการขับขี่
ฟอร์ด ประเทศไทย ก็ได้จัดกิจกรรมการทดสอบสำหรับ Ford Ranger Raptor อีกครั้งเพื่อให้เห็นประสิทธิภาพการใช้งาน ภายใต้กิจกรรม "Ford Ranger Raptor – The Mysterious Journey" เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่า Ranger Raptor นั้น พร้อมลุยทุกอุปสรรค และฟันฝ่าได้ทุกเส้นทางอย่างแท้จริง
การเดินทางครั้งนี้ ฟอร์ด ประเทศไทย ได้พาคณะสื่อมวลชนบินตรงไปยัง จ. สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเดินทางไปยัง จ. พังงา เพื่อไปพิชิตความหฤโหดของ ภูตาจอ ยอดเขาที่สูงที่สุดของ จ. พังงา จุดชมวิวที่อยู่บนระดับความสูงกว่าน้ำทะเลเกือบ 1,300 เมตร ที่สามารถมองเห็นวิวทะเลอันดามันได้รอบแบบ 360 องศา ซึ่งจำเป็นต้องใช้รถออฟโรดสมรรถนะสูงเท่านั้นถึงจะขึ้นไปได้ ด้วยระยะทางกว่า 13 กม. บนเส้นทางทุรกันดารที่มีความหลากหลาย ทั้งหินกรวด, ดินปนทราย, ดินโคลน, ร่องน้ำ และหินขนาดใหญ่
เริ่มต้นการเดินทางมุ่งหน้าสู่ ภูตาจอ ซึ่งเป็นเขาหินทราย แร็พเตอร์ สามารถขับด้วยโหมด Normal ขับเคลื่อน2ล้อ ไปได้อย่างสบายๆ โดยสภาพเส้นทางที่เจ้าหน้าที่ปรับปรุงให้ดีขึ้นกว่าเดิม จนกระทั่งถึงจุดที่เป็นร่องน้ำ และหินขนาดใหญ่ ที่จำเป็นต้องเปลี่ยนมาใช้การขับขี่ในโหมด 4H ได้ทันที (ไม่ต้องหยุดรถ) และปรับโหมดต่างๆได้ง่ายบนพวงมาลัย Mud/Sand เป็นโหมดหลักที่ใช้ในการเดินทาง ทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนโหมดพวงมาลัยก็จะปรับเปลี่ยนตามเพื่อให้เข้ากับลักษณะพื้นที่ในการเดินทาง เครื่องยนต์ที่มี แรงบิดถึง 500 นิวตัน-เมตร ทำให้การเดินทางขึ้นเขาเป็นไปอย่างง่ายดาย และช่วงล่างที่โดดเด่นสำหรับ แร็พเตอร์ สิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือลดอาการสั่นสะเทือนในการเดินทางได้เป็นอย่างดี อีกอย่างสำหรับ แร็พเตอร์ ยังมีระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน Hill Launch Assist (HLA) และระบบควบคุมความเร็วขณะลงเขา Hill Descent Control (HDC) ที่คอยให้ความช่วยเหลือในการเดินทางลงเขาได้อย่างปลอดภัยในแบบออฟโรดได้อีก แสดงให้เห็นว่าแร็พเตอร์จะพาคุณไปได้อย่างสะดวกสบายยิ่งขึ้น
สถานที่ต่อไปคือ “เกาะคอเขา” จังหวัด พังงา เดินทางบนทางหลวงปรับโหมดมาเป็น Sport พวงมาลัย กระชับขึ้น เครื่องยนต์ลากรอบสูงขึ้นเพื่อให้การตอบสนองที่ดีขึ้นในการเร่งแซงในจังหวะที่ต้องการได้ทันที ในความเร็วสูงการเก็บเสียงทำได้ดี เดินทางมาถึงที่หมายโดยต้องข้ามน้ำ ข้ามทะเลโดยเรือเฟอร์รี่ที่ท่าเรือบ้านน้ำเค็ม ซึ่งเกาะคอเขาตั้งอยู่ริมฝั่งทะเลอันดามัน นอกจากจะมีแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์ ป่าชายเลนผืนใหญ่ที่ทอดตัวทางทิศตะวันออก ยังมีร่องรอยความเจริญของวัฒนธรรมในอดีต จากการสันนิษฐานของนักโบราณคดี เดิมที่นี่เป็นเส้นทางการค้าข้ามคาบสมุทรของชาวอินเดีย จีน อาหรับ และมลายู เนื่องจากเป็นเมืองท่าค้าขาย และที่จอดเรือหลบมรสุม บ่งบอกประวัติศาสตร์ของเกาะแห่งนี้ที่มีมานานนับพันปี
สำหรับไฮไลท์ในการทดสอบสมรรถนะของ แร็พเตอร์ ในครั้งนี้เราก็มีโอกาสได้ใช้ Mud/Sand ที่ริมชายหาด ซึ่งคงมีโอกาสไม่บ่อยมากนัก ที่จะได้สัมผัสกับการทดสอบรถในรูปแบบนี้ โดยทาง ฟอร์ด ประเทศไทย ได้รับอนุญาตให้สามารถจัดการทดสอบดังกล่าว โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม และเตรียมความพร้อมระมัดระวังในทุกขั้นตอนเพื่อให้แน่ใจว่าการจัดกิจกรรมนี้ไม่เป็นการรบกวนสิ่งมีชีวิตใดๆ ระหว่างการขับขี่
ในการขับขี่บนพื้นทราย ยากตรงการเดินคันเร่งให้พอดีกับการขับขี่เพราะถ้าเดินคันเร่งแรงมากเกินไปรถอาจติดหล่มได้แต่สำหรับ แร็พเตอร์ กับการขับขี่ในโหมด Mud/Sand บนพื้นที่ที่เป็นหาดทรายนั้น คุณไม่ต้องมีความสามารถอะไรมากเพราะรถจะทำการปรับการขับขี่ให้เอง โดยระบบจะทำการปรับระบบป้องกันล้อหมุนฟรีให้ต่ำลง, พวงมาลัยจะมีความเบา และฉับไวยิ่งขึ้น เพื่อรองรับกับการหักเลี้ยวบนพื้นผิวที่หน่วงล้อ รวมไปถึงการเปลี่ยนเกียร์ในรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น เพื่อรักษาแรงบิดที่ล้อในการขับเคลื่อน ซึ่งหากเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อธรรมดา ที่ไม่มีโหมดการขับขี่ในทางทรายโดยเฉพาะ นั้น ก็คงจะไม่สามารถรอดพ้นกองทรายบนชายหาดไปได้ แต่ถ้าคุณเกิดขับแล้วติดหล่ม แร็พเตอร์ ก็จะพาคุณออกมาได้อย่างง่ายๆ เพียงกดปุ่ม Diff Lock แล้วค่อยๆ กดคันเร่ง พร้อมบิดล้อช่วย เพียงเท่านั้น ก็จะพาคุณขึ้นมาจากหลุดทรายได้แบบง่ายๆ
นอกจากนี้ทางทีมงาน ฟอร์ด ประเทศไทย ยังได้จัดสนามขึ้นมาเพื่อทดสอบในโหมด Baja (บาฮา) รูปแบบสนามนั้นจำลองเหมือน ครอสคันทรี มีเนินกระโดด หลุมต่างๆเพื่อพิสูจน์ความแข็งแกร่งของระบบช่วงล่าง Fox Racing ของ Ford Ranger Raptor ที่แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพของช่วงล่างที่มาพร้อมกับระบบการขับขี่ในหมดต่างๆนั้นเมื่อทำงานร่วมกันแล้ว แร็พเตอร์จะสามารถพาคุณไปได้ทุกๆสภาพเส้นทาง รถคันอื่นพาคุณไปได้ไหมไปได้ครับแต่สิ่งที่แตกต่างนั้นคือความสะดวกสบาย ในความเร็วที่เท่ากันบนเส้นทางลูกรัง ชัดเจนว่าแร็พเตอร์นั้นทะยานไปได้เร็วกว่า อาการที่เกิดกับรถน้อยกว่า นั้นก็สรุปได้ว่าแร็พเตอร์นั้นจะขับขี่ได้สนุกบนพื้นที่ทุรกันดารมากกว่า
ท้ายที่สุดนี้ แร็พเตอร์ เหมาะกับใคร 1,699,000 บาท เหมาะกับผู้ใช้งานที่มีกิจการที่ต้องเดินทางผ่านในสภาพเส้นทางที่ไม่เอื้ออำนวย เป็นหลุมเป็นบ่อ ลูกรัง ซึ่งในเมืองก็รวมถึงฝาท่อด้วย แร็พเตอร์จะพาคุณผ่านไปได้อย่างสะดวกสบายแน่นอน แต่ในเมืองก็อาจจะมีปัญหากับที่จอดบ้างด้วยความสูงและขนาดที่กว้างกว่ารถทั่วไป ถ้าคุณจะหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ในแร็พเตอร์นั้นอาจจะมีมาให้ไม่มากนักเพราะเขาเกิดมาเพื่อการลุยจริงๆ
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น