Toyota เปิด Corolla สเปคยุโรปใหม่ล่าสุด พร้อมเครื่องยนต์ 4 แบบ Share this

Toyota เปิด Corolla สเปคยุโรปใหม่ล่าสุด พร้อมเครื่องยนต์ 4 แบบ

megaTON
โดย megaTON
โพสต์เมื่อ 27 February 2562

Toyota เดินเกมรุกบุกตลาดยุโรปด้วยการเปิดตัว Corolla ใหม่ล่าสุดในยุโรป พร้อมกับตัวถังสามแบบ สองขุมพลังไฮบริดและเครื่องยนต์เบนซินอีกสองรุ่นเข้าสู่กลุ่มรถคอมแพคของค่าย 


Toyota กล่าวถึง Corolla ใหม่ล่าสุดนี้ โดยระบุว่ารถมีความแตกต่างและโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง โดยเฉพาะในรุ่น Corolla Sedan สี่ประตูซึ่งมีด้านหน้าแตกต่างจากในรุ่น 5 ประตูแฮทแบ็คและแบบวากอน Touring Sports

ทั้งหมดใช้โครงสร้างตัวถังแบบใหม่ TNGA GA-C โดย all-new Corolla จะมอบประสบการณ์ขับขี่ที่เหนือกว่าผ่านช่วงล่างแบบมัลติลิงก์ด้านหลัง ศูนย์ถ่วงรถที่ต่ำลงกว่าเดิมอีก 10 มิลลิเมตร และตัวถังมีความกระชับเพิ่มมากกว่าเดิมถึง 60 เปอร์เซนต์ พร้อมกับระบบความปลอดภัยที่ปรับปรุงให้ดียิ่งกว่าเดิมจากระบบความปลอดภัย Toyota Safety Sense Tech ที่เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน


เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรไฮบริด ประหยัดน้ำมันสูงถึง 3.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร หรือ 30.3 กิโลเมตรต่อ 1 ลิตรเลยทีเดียว

โดยมีเพียงเครื่องยนต์กำลังเดียวทั้งสามตัวถัง เครื่องยนต์ 1.8 ลิตร ไฮบริดชาร์จกระแสไฟได้เองให้กำลัง 120 แรงม้าและแรงบิดเครื่องยนต์ 120 ปอนด์-ฟุตผ่านมอเตอร์ไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย โดยเฉพาะระบบไฮบริดที่ช่วยในการขับขี่ให้ประหยัดถึง 50 เปอร์เซนต์ของการขับขี่ในการโดยสารตามรายงานของ Toyota


เครื่องยนต์ Atkinson ที่ได้รับการอัพเดทแบบเดียวกับที่ติดตั้งใน Auris จึงมีอัตราการกินน้ำมันที่ต่ำเพียง 3.3 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร ภายใต้การวิ่งทดสอบแบบ NEDC และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 76 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นแฮทแบ็คและ Touring Sports ส่วนในรุ่น Sedan สามารถทำตัวเลขการบริโภคน้ำมันต่ำเพียง 3.4 ลิตรต่อ100กิโลเมตรในการวิ่งทดสอบแบบ NEDC พร้อมปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 77 กรัมต่อกิโลเมตร เครื่องยนต์ 1.8 ลิตรไฮบริดนี้ได้รับการติดตั้งแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแบบใหม่ในรุ่น Hatchback และ Touring Sports และแบตเตอรี่แบบนิกเกิลเมทัลไฮดรายในรุ่น Sedan


ในรุ่นเครื่อง 1.8 ลิตรไฮบริดทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรได้ภายใน 10.9 สำหรับรุ่นแฮ็ทแบ็ค, 11.1 วินาทีและ Touring Sports และ 11.0 วินาทีและในรุ่น Sedan 


2.0 ไฮบริดสำหรับใครที่ต้องการรถที่ให้ทั้งความประหยัดและสมรรถนะ


ลูกค้าที่อยากได้สมรรถนะจากรถที่จัดจ้านกว่าเดิมโดยไม่ได้เพิ่มอัตราการบริโภคน้ำมัน สามารถเลือกเครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไฮบริดซึ่งมีเฉพาะในโมเดล Corolla Hatchback และ Corolla Touring Sports โดยให้กำลัง 178 แรงม้าและแรงบิด 140 ปอนด์-ฟุต โดยมอเตอร์ไฟฟ้าให้กำลัง 107 แรงม้าและแรงบิด 149 ปอนด์-ฟุต


จับคู่กับเกียร์ธรรมดาหกสปีดแบบชิฟเมติคพร้อมกับแป้นแพดเดิลชิฟ เครื่องยนต์ 2.0 ลิตรไฮบริดมีโหมด Sport และมีอัตราการเร่งที่เพิ่มขึ้นจากรุ่นเครื่องยนต์ 1.8 ลิตรที่มากกว่าอย่างเห็นได้ชัดเจน โดยสามารถเร่งจาก 0 ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช้เวลา 7.9 วินาทีในแฮทแบ็คและ 8.1 วินาทีในรุ่น Touring Sports ส่วนความเร็วท็อปสปีดทั้งสองรุ่นทำได้ที่ 180 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในโหมดวิ่งด้วยไฟฟ้า EV สามารถวิ่งด้วยความเร็วสูงสุดไม่เกิน 115 กิโลเมตรต่อชั่วโมง


อัตราเฉลี่ยในการบริโภคน้ำมันตามการทดสอบแบบ NEDC ต่ำเพียง 3.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร พร้อมกับปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 85 กรัมต่อกิโลเมตรในรุ่นแฮ็ทแบ็คและ 84 กรัมต่อกิโลเมตรสำหรับรุ่น Wagon


น้องเล็กรุ่นจี๊ด 1.2 ลิตรพ่วงเทอร์โบ และปิดท้ายด้วยรุ่น 1.6 ลิตรสี่สูบ


ส่วนใครที่ไม่อยากได้ขุมพลังไฟฟ้าสามารถเลือกใช้เครื่องยนต์ 1.2 เทอร์โบชาร์จ แต่มีให้เลือกเพียงรุ่น Hatchback และ Wagon เท่านั้น ในรุ่น 1.2 เทอร์โบชาร์จให้กำลัง 112 แรงม้าและแรงบิด 136 ปอนด์-ฟุต จับคู่กับเกียร์ธรรมดาหกสปีดพร้อมกับระบบ rev-matching หรือเกียร์ CVT สามารถเร่งความเร็วได้ภายใน 9.3-9.6 วินาที แต่ความเร็วสูงสุดสามารถลากได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนอัตราการกินน้ำมันอยู่ที่ 5.2 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตร และปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 119 กรัมต่อกิโลเมตร

ส่วนในรุ่น Sedan ซึ่งมีทางเลือกเครื่องยนต์ 1.6 ลิตรสี่สูบ ให้กำลัง 130 แรงม้าและแรงบิด 117 ปอนด์-ฟุต และสามารถเลือกจับคู่ได้ระหว่างเกียร์ธรรมดาหกสปีดหรือเกียร์ Multidrive S CVT

การทดสอบวิ่งด้วย NEDC มีอัตราการบริโภคน้ำมันที่ต่ำเพียง 5.7 ลิตรต่อ 100 กิโลเมตรพร้อมปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 130 กรัมต่อกิโลเมตร ส่วนเกียร์ CVT สามารถเร่งความเร็วจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงภายใน 10.2 วินาที และท็อปสปีดอยู่ที่ 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมงแต่มีอัตราการบริโภคน้ำมันอยู่ที่ 5.5 ลิตรต่อ100 กิโลเมตรและปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซค์เพียง 125 กรัมต่อกิโลเมตร


เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่


ความคิดเห็น


เรียกดูข่าวตามประเภทยานพาหนะ

ค้นหาข่าวโดยยี่ห้อ