Royal Enfield ประกาศตั้งบริษัทพร้อมตั้งโรงงานประกอบรถในไทยอย่างเป็นทางการ ตอบรับความนิยมของชาวไทย

Royal Enfield ประกาศก่อตั้งบริษัทลูกอย่างเป็นทางการในประเทศไทยตั้งแต่วันนี้ ซึ่งนับเป็นบริษัทลูกแห่งแรกในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ตอบสนองความต้องการอันท่วมท้นของรถ Royal Enfield ของชาวไทย ซึ่งจะเริ่มเดินสายการผลิตในเดือนมิถุนายน 2562 ตั้งเป้าขึ้นเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ระดับกลาง

สิทธัตถะ ลาล ประธานบริหาร Royal Enfield กล่าวว่า "นับตั้งแต่เราเริ่มจัดจำหน่ายรถ Royal Enfield ในประเทศไทยเมื่อ 3 ปีที่แล้ว เราสัมผัสได้ถึงความรักในตัวแบรนด์จากผู้ใช้งานในประเทศไทย กระแสตอบรับจากลูกค้าชาวไทยบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า นี่เป็นรถโมเดิร์นคลาสสิกที่มีสมรรถนะยอดเยี่ยมสำหรับการขับขี่ทางไกล และยังพร้อมสำหรับการใช้งานในเมืองที่มีการจราจรคับคั่ง เรามีความมุ่งมั่นที่จะทุ่มเทพลังของเรา เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ของเราในประเทศไทย แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในระยะยาวของ Royal Enfield และความมั่นใจที่เพิ่มสูงขึ้นในตลาดประเทศไทย"

ประเทศไทย เป็นหนึ่งในประเทศแรกๆ ของอาเซียนที่ Royal Enfield จำหน่ายรถรุ่นใหม่ทั้ง 2 รุ่น ได้แก่ Continental GT650 และ Interceptor 650 ซึ่งพัฒนาขึ้นบนเครื่องยนต์แบบ 2 สูบเรียงรุ่นใหม่ล่าสุดของเรา 
นับตั้งแต่การเปิดตัวในประเทศไทยเมื่อช่วงเดือนธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา ตอนนี้มียอดจองรถสูงถึง 700 คัน ซึ่งตอนนี้เราได้ส่งมอบรถไปแล้วมากกว่า 100 คันด้วยกัน ซึ่งถือเป็นความสำเร็จอย่างยิ่งของ Royal Enfield กับรถมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่ทั้ง 2 

คุณสิทธัตถะ กล่าวเพิ่มเติมว่า "ในตอนนี้ ประเทศไทยเป็นบ้านหลังที่ 3 ของ Royal Enfield นอกเหนือจากต้นกำเนิดในประเทศอังกฤษ และต่อมาในประเทศอินเดีย ความสำเร็จเริ่มจากหลังการเปิดตัวรถรุ่นใหม่แบบ 2 สูบเรียงที่พิสูจน์ให้เห็นว่า Royal Enfield เดินมาถูกทางแล้วในการทำตลาดรถบิ๊กไบค์ขนาดกลาง"

เป้าหมายของ Royal Enfield คือมียอดขายเป็นอันดับ 1 ในกลุ่มรถมอเตอร์ไซค์ขนาดกลาง ขนาด 250-750 ซีซี ซึ่งปีที่ผ่านมา ในประเทศไทยมียอดจำหน่ายรถในกลุ่มนี้ประมาณ 15,000 คัน เฉพาะ Royal Enfield สามารถขายไปได้มากถึง 1,400 คันแล้ว

กลุ่มผู้ใช้รถที่พร้อมจะอัพซีซียังคงมีอยู่เป็นจำนวนมาก รวมถึงความต้องการในการใช้งานเดินทางไกล และวัฒนธรรมการขับขี่เพื่อความผ่อนคลายในบ้านเรา คือโอกาสที่จะให้ Royal Enfield เติบโตไปได้อีก เราเชื่อว่าการพัฒนาแบรนด์ให้เป็นส่วนหนึ่งของประเทศไทย จะช่วยให้เราสามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างใกล้ชิด และมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม

วิมัล ชุมบ์ลี หัวหน้าฝ่ายธุรกิจประจำภาคพื้นเอเชียแปซิฟิค Royal Enfield กล่าวถึงแผนธุรกิจของแบรนด์ในประเทศไทยว่า "เราเริ่มต้นด้วยการเปิดโชว์รูมแห่งเดียวในกรุงเทพฯ ซึ่งมีส่วนสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจตลาดแห่งนี้ เรามีแผนการเชิงรุกอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มโชว์รูมให้มีถึง 15 แห่ง และศูนย์บริการหลังการขายอีก 25 แห่ง ภายในเดือนมีนาคม 2563 ซึ่งจะทำให้ลูกค้าของเราเข้าถึงบริการได้ง่ายยิ่งขึ้น คลอบคลุมทั้งกรุงเทพและปริมาณฑล ภูเก็ต พัทยา และเชียงใหม่
ในส่วนของโรงงานประกอบรถจักรยานยนต์ Royal Enfield ในประเทศไทย ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรา ร่วมกับบริษัท ยูไนเต็ด ออโต้ ซึ่งจะประกอบรถทุกรุ่นที่ Royal Enfield มีวางจำหน่ายในประเทศไทย โดยจะเริ่มเดินสายการประกอบรถในช่วงเดือนมิถุนายนนี้เป็นต้นไป และส่งมอบรถได้ในช่วงไตรมาส 3 

สำหรับการเข้ามาตั้งโรงงานในประเทศไทยนั้น ทางคุณสิทธัตถะเผยว่า จะไม่ส่งผลต่อราคาวางจำหน่ายในประเทศไทย เนื่องจากแรกเริ่มเดิมทีแล้ว Royal Enfield แม้ว่าจะส่งรถจากประเทศอินเดียมาวางจำหน่ายในบ้านเรา ทางค่ายก็ได้คำนวณราคาวางจำหน่ายสำหรับการตั้งโรงงานประกอบในประเทศไทยไว้ล่วงหน้าอยู่แล้ว

เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่