ปฏิเสธไม่ได้กับกระแสโลกที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย รถยนต์ไฟฟ้า ถือเป็นยุคใหม่ของวงการยานยนต์ในปัจจุบัน เนื่องจากระบบการทำงานต่างๆได้ถูกพัฒนาให้ดีขึ้นมากรถวิ่งไกลขึ้น ชาร์จไฟไวมากขึ้น และด้วยปัญหาโลกร้อนและฝุ่นควันที่เกิดจากมลพิษ ยิ่งเป็นปัจจัยให้รถยนต์ไฟฟ้ามีบทบาทมากยิ่งขึ้น ค่ายรถต่างๆก็นำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย มีรุ่นใดกันบ้างที่งานมอเตอร์โชว์ 2019
Nissan Leaf
ค่ายแรกกับ นิสสัน ลีฟ ถือเป็นค่ายแรกที่นำเข้ามาจัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการสำหรับ รถยนต์ไฟฟ้า ลีฟ ได้รับความนิยมของคนทั่วโลก ที่สามารถทำยอดขายได้รวมกว่า 40,000 คันไปแล้ว นิสสัน ลีฟ เป็นรถนำเข้าทั้งคัน เป็นการเอาเข้ามาอย่างเป็นทางการโดยทางบริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จํากัดโดยตรง เป็นรถยนต์ไฟฟ้าเจนเนอเรชั่นที่ 2 ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้า AC SYNCHRONOUS ขนาด 150 แรงม้า แรงบิด 320 นิวตันเมตร ขับเคลื่อนด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนความจุขนาด 40 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถขับเคลื่อนไปได้ไกลสูงสุด 311 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ตั้งราคาจำหน่ายเอาไว้ที่ 1.99 ล้านบาท แต่อาจเป็นด้วยราคาทำให้ผู้ซื้อคงต้องคิดหนัก
FOMM ONE
FOMM ONE เป็นรถที่มีขนาดเล็ก กระทัดรัด แต่สามารถรองรับที่นั่งได้ถึง 4 ที่นั่ง ถือเป็นรถขนาดเล็กกระทัดรัด ประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยอัตราสิ้นเปลืองเพียง 30 สตางค์ต่อกิโลเมตร ด้วยการชาร์จในระบบไฟฟ้าภายในบ้านเพียง 6 – 8 ชั่วโมง และสามารถวิ่งได้ไกลถึง 160 กิโลเมตร ขนาดความยาว 2,585 มม. กว้าง 1,295 มม. และสูง 1,560 มม. รูปร่างหน้าตาจึงมีความน่ารักผสมผสานกับความทันสมัย ระบบขับเคลื่อนติดตั้งมอเตอร์ไฟฟ้าในดุมล้อหน้าทั้ง 2 ข้าง ให้กำลังสูงสุด 13 แรงม้า ส่วนแรงบิดสูงถึง 560 นิวตันเมตร วิ่งได้เร็วสูงสุด 80 กม./ชม. ราคา 664,000บาท จุดเด่นสำหรับ fomm ลอยน้ำได้
Audi e-tron
อาวดี้ ประเทศไทย สร้างเซอร์ไพรส์ ด้วยการนำเข้า Audi e-tron รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นล่าสุดที่เพิ่มเปิดตัวไปอย่างเป็นทางการมาเมื่อไม่นานนี้ เอาเข้ามาให้ชาวไทยสามารถสั่งซื้อกันได้ โดยรุ่นที่นำเข้ามาครั้งนี้ จะเป็น Audi e-tron 55 quattro ที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าติดตั้ง 2 ตำแหน่งที่ด้านหน้าและด้านหลังซึ่งส่งกำลังไปยังล้อโดยตรง โดยมอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิด 561 นิวตันเมตร และเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า แรงบิด 664 นิวตันเมตร ทำให้มั่นใจในสมรรถนะที่จะตอบสนองการใช้งาน และเติมอารมณ์สปอร์ตได้อย่างเต็มที่ พร้อมความจุแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูงแบบ ลิเธียมไออน 95 kWh ด้วยอัตราเร่ง 0-100 กม./ชม.ในเวลา 6.6 วินาที และ 5.7 วินาทีในบูสต์โหมด และทำความเร็วสูงสุดได้ 200 กม./ชม. นอกจากเรื่องของสมรรถนะแล้ว จุดเด่นของ e-tron ก็คือ ความสามารถในการใช้งาน โดยการชาร์จไฟ 1 ครั้ง เดินทางได้ถึง 417 กม. มาพร้อมราคาจำหน่ายเพียง 5,099,000 บาทพร้อมรับการดูแลจาก Audi Protection การรับประกันรถใหม่ 5 ปี หรือระยะทาง 150,000 กิโลเมตร และบริการช่วยเหลือฉุกเฉิน Roadside Assistance ทั่วประเทศ 24 ชั่วโมงนาน 5 ปี และสำหรับลูกค้า รับประกันแบตเตอรี่ 8 ปี หรือ 160,000 กม.
Jaguar I-PACE
อีกค่ายที่นำเข้ารถไฟฟ้าตัวแรงในรูปแบบ suv อย่าง Jaguar I-PACE ถูกนำเข้ามาโดยอินช์เคป (ประเทศไทย) ผู้แทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการของรถยนต์จากัวร์ ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ (2 ตัวแยกด้านหน้ากับด้านหลัง)พร้อมขนาดแบตเตอรี่ Lithium-ion ชนิด Pouch cells ที่มีน้ำหนักเบาและใช้พื้นที่ในการจัดเก็บน้อย มีความจุ 90kWh ให้กำลังรวม 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตันเมตร วิ่งได้ไกลสูงสุด 470 กิโลเมตร/การชาร์จ 1 ครั้ง ทำความเร็วสูงสุด 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง และเร่งความเร็ว 0-100 ได้ใน 4.8 วินาที พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD สำหรับการชาร์จแบตเตอรี่จาก 0-80 เปอร์เซ็นต์ ใช้เวลาเพียง 20-40 นาที ผ่านเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสตรง DC (Quick charge) หรือ ภายในเวลาประมาณ 10 ชั่วโมง ด้วยเครื่องอัดประจุไฟฟ้ากระแสสลับ AC (Home wall box) นำเข้ามาประเทศไทยทั้งหมด 3 รุ่น คือ
- JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD S ราคาจำหน่าย 5,499,000 บาท
- JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD SE ราคาจำหน่าย 6,299,000 บาท
- JAGUAR I-PACE ELECTRIC AWD HSE ราคาจำหน่าย 6,999,000 บาท
BYD E6
รถยนต์ไฟฟ้าจากแดนมักกรกับ BYD E6 นำเข้ามาในประเทศไทยอย่างเป็นทางการโดยบริษัท ไรเซน เอนเนอร์จี จำกัด ที่เป็นการร่วมลงทุนกันระหว่าง บริษัท ชาริช โฮลดิ้ง จำกัด บริษัทตัวแทนจำหน่ายจักรยานยนต์แบรนด์ดัง Ducati และ Royal Enfield บริษัท เอเจ แอดวานซ์ เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อความบันเทิง AJ ตัวรถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้กำลังสูงสุดที่ 121 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 450 นิวตันเมตร ทำความเร็วสูงสุดได้ 140 กม./ชม. ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบ Iron-Phosphate หรือ Fe Battery ที่สามารถเก็บไฟได้ 80 กิโลวัตต์ชั่วโมง ทำให้ BYD E6 สามารถวิ่งได้ไกลสูงสุดประมาณ 300 กิโลเมตร/การชาร์จไฟเต็ม 1 ครั้ง ใช้ระยะเวลาในการชาร์จแบบ VTOG 40kW ที่ประมาณ 2 ชั่วโมง และแบบปกติที่ประมาณ 8-9 ชั่วโมง ปกติแล้วเราอาจจะเห็น BYD E6 ได้ในภาพลักษณ์ของการเป็น Taxi VIP ที่วิ่งตามสนามบินสุวรรณภูมิ แต่ทางผู้นำเข้า ก็เปิดโอกาสให้บุคคลทั่วไปที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ สามารถสั่งซื้อได้ในราคา 1.89 ล้านบาท
ทั้งหมดนี้เป็นค่ายหลักๆที่ได้จัดจำหน่ายขายจริงในประเทศไทยอย่างเป็นทางการยังไม่นับรวม รถยนต์ไฟฟ้าที่จัดแสดงโชว์เพื่อให้เห็นว่าแต่ละค่ายนั้นมีนวัตกรรม ใหม่ๆอะไรกันบ้าง แต่ที่แน่ๆเทรนด์โลกรถที่ผลิตออกมานั้นเป็นแนวทางเดียวกันคือรถอเนกประสงค์หรือ SUV เพราะจะเห็นได้ว่า รถไฟฟ้ารุ่นใหม่ๆที่ผลิตออกมาก็ยังคงเป็นแนวอเนกประสงค์เช่นกัน โลกคงต้องการรถที่ปล่อยมลพิษน้อยลง
ความคิดเห็น