เบิร์นรับเบอร์ ไรด์ดิ้ง อะคาเดมี่ แอนด์ แทร็ค เดย์ คือสถาบันสอนขับขี่แนวมอเตอร์สปอร์ตแห่งแรกในประเทศไทยที่มีมาตรฐานหลักสูตรทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติระดับสากล เพื่อผู้เรียนจะได้นำไปพัฒนาศักยภาพและเพิ่มพูนความรู้เพื่อการขับขี่อย่างมืออาชีพและปลอดภัยสูงสุด พร้อมเปิดโอกาสให้นักขี่ได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดด้วยทีมผู้ฝึกสอนและทีมงานมืออาชีพ
โดยสถาบันฯแบ่งกิจกรรมออกเป็น 2 แบบ ได้แก่ Academy ที่เน้นการเรียนการสอนทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ และ Trackday เป็นกิจกรรมที่เปิดให้ทุกคนได้ลงฝึกซ้อมและทดสอบฝีมือของตนเองบนสนามแข่งมาตรฐานระดับโลก
สำหรับหลักสูตรของ Academy ถูกแบ่งออกเป็น 6 ระดับ ได้แก่
1 Base Course สำหรับผู้ที่ไม่เคยขับขี่หรือเริ่มต้นขับขี่
2 Level 1 เรียนรู้ตำแหน่งและวิธีการนั่งที่ถูกต้อง การเข้าโค้ง และเทคนิคการเบรคในสนามแข่ง
3 Level 2 เทคนิคการขับขี่ตามเส้นสนาม เทคนิคการเบรคขั้นสูง และเทคนิคการมองจุดนำสายตา
4 Level 3 รวมเทคนิคต่างๆ และมีการบันทึกวีดีโอประมวลผลการเรียน เพื่อนำไปใช้ในการวิเคราะห์และปรับแก้เทคนิคการขับขี่ให้สมบูรณ์แบบที่สุด
5 Racing คอร์สฝึกทักษะการแข่งขันจริงแบบตัวต่อตัวกับนักแข่งมืออาชีพ
6 Customised Training Programs คอร์สที่ผู้เรียนสามารถดีไซน์รูปแบบการเรียนรู้คู่กับผู้ฝึกสอนได้ตามที่ต้องการเพื่อให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่างสูงสุด รวมถึงยังมีบริการจัดกิจกรรมแทร็คเดย์ไปจนถึงการขับขี่แนวผจญภัย (Adventure) ให้กับแบรนด์รถหรือบริษัทที่ต้องการจัดกิจกรรมเพื่อลูกค้าอีกด้วย ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเลือกร่วมกิจกรรมได้ทั้งในรูปแบบ Track Days และกิจกรรมฝึกสอน หรือเฉพาะกิจกรรมใดกิจกรรมหนึ่ง
จุดเด่นพิเศษคือในทุกสนามฝึกสอนทางสถาบันฯ ได้จัดเตรียมทีมแพทย์ภาคสนาม (Doctor on track) ที่มีความเชี่ยวชาญ พร้อมเข้าดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้สถาบันยังเปิดพื้นที่ที่กว้างให้เหล่าไบค์เกอร์ได้มีโอกาสเข้ามาแลกเปลี่ยนประสบการณ์และฝึกฝนทักษะการขับขี่ โดยสามารถนำรถมอเตอร์ไซค์ที่มีขนาดเครื่องยนต์ 150 ซีซีขึ้นไป สำหรับร่วมกิจกรรมที่จัดในสนามพีระ เซอร์กิต และสนามไทยแลนด์ เซอร์กิต และสำหรับ 250 ซีซีขึ้นไป สำหรับสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต โดยไม่จำกัดแบรนด์
สำหรับการเรียนจริงลงสนามจริงในครั้งนี้ ทางทีมงานได้ลงในหลักสูตร Base Course สำหรับผู้เริ่มต้นการขับขี่ เพื่อให้ได้ประสบการณ์อันแท้จริง (สามารถแจ้งก่อนการลงสนามได้ว่ามีประสบการณ์ในการขับขี่เพียงใด)การเรียนจะแบ่งกิจกรรมเป็น 2 วันเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพมากที่สุด เริ่มจากภาคทฤษฎี เรียนรู้การขับขี่เบื้องต้น เช่น ท่าทางในการขับขี่ ทั้งทางตรงและโค้ง รู้จักสนามในการเข้าลายต่างๆ จุดเบรค แบ่งกลุ่ม ตามที่ลงทะเบียนไว้ ทางทีมงานอยู่ในขั้นเริ่มต้น อบรมกันประมาณ 10-15 นาที เริ่มภาคปฎิบัติขี่ในสนามจริง(สนามช้าง)ขี่กันประมาณ ครึ่งชั่วโมง กลับเข้ามาให้ครูฝึกประเมินการขับขี่ว่ามีมากน้อยเพียงใด และจะต้องแก้ไขตรงไหน (เนื่องจากในแต่ละกลุ่มจำนวนนักเรียนจะไม่เกิน 5 ท่าน ทำให้ผู้ฝึกสามารถสอนรายคนได้) ทำให้ได้ผลเต็มที่ ทุกครั้งที่ขี่เสร็จครูฝึกจะคุยกับนักเรียนเพื่อปรับรูปแบบการขับขี่ให้ดียิ่งขึ้นทุกครั้ง และเมื่อสามารถพัฒนาตัวเองได้ดีขึ้นขี่เร็วขึ้นก็สามารถเปลี่ยนกลุ่มเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพขึ้นไปอีก เรียกว่าการเรียนรู้ไม่มีที่สิ้นสุด
ทั้งนี้ สถาบันฯยังมีกิจกรรม Track Days ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้ทดสอบฝีมือของตนเองบนสนามแข่งมาตรฐานสูงสุดในประเทศไทย อาทิ สนามช้างอินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ สนามพีระ เซอร์กิต จังหวัดชลบุรี และสนามไทยแลนด์ เซอร์กิต จังหวัดนครปฐม และกิจกรรมสอนขับขี่ ที่เปิดหลักสูตรในทุกๆ เดือน (ยกเว้นเดือนมีนาคม และระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน) ครั้งละ 2 วัน โดยผู้เข้าร่วมจะต้องทดสอบวัดระดับความสามารถและความรู้เกี่ยวกับการขับขี่ด้วยเกณฑ์การวัดระดับที่มีมาตรฐาน โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่สนใจการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้ฝึกฝนทักษะและเรียนรู้ในสนามแข่งจริง โดยมีนักแข่ง และผู้ฝึกสอนอาชีพดูแลและฝึกสอนอย่างใกล้ชิดเพื่อให้เกิดความเชี่ยวชาญและมุ่งเน้นการขับขี่อย่างปลอดภัย
หลังจากได้เข้าร่วมกิจกรรมแล้ว ทำให้ทราบว่าสถาบันฯแห่งนี้เป็นสถาบันสอนขับขี่ที่มีความแตกต่างจากสถาบันอื่นอย่างชัดเจนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้ที่สนใจการขับขี่รถมอเตอร์ไซค์แนวมอเตอร์สปอร์ตได้ฝึกฝนทักษะและเรียนรู้ในสนามแข่งจริง กับประสบการณ์การขับขี่อย่างมืออาชีพ ซึ่งในแต่ละครั้งผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้เรียนรู้และฝึกปฏิบัติอย่างใกล้ชิดกับนักแข่งและผู้ฝึกสอนอาชีพทั้งชาวไทยและต่างชาติ ซึ่งล้วนแต่มีประสบการณ์ในการขับขี่การันตีความสามารถ ด้วยการแข่งขันในรายการใหญ่ๆ หลายรายการ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มาทำหน้าที่ผู้ฝึกสอนการขับขี่ในภาคปฏิบัติ เพื่อเพิ่มพูนเทคนิค ความรู้ รวมถึงข้อควรปฎิบัติในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ให้มีความเชี่ยวชาญสูงสุดสำหรับการขับขี่แบบมอเตอร์สปอร์ตจากนักแข่งระดับโลก ภายใต้การควบคุมด้วยมาตรฐานระดับสากล
สิ่งแรกสำหรับการเรียน บนสนามแข่งจริงที่จะได้ประสบการณ์ในการขี่จริง เน้นการภาคปฎิบัติของการขับขี่มากกว่าการเรียนในห้อง ครูผู้ฝึกสอนนั้นมีจำนวนเพียงพอต่อนักเรียนทำให้สามารถแก้ไขปัญหาได้ถูกจุดในแต่ละคน ประสบการณ์ที่สำคัญการขี่ในสนามแข่งระดับโลกนั้นอาจะมีไม่มากนัก จึงทำให้เรียนการเรียนในครั้งนี้ได้รับความรู้อย่างจริงจังและสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้อย่างดี
สรุปสำหรับการเรียนการขับขี่กับ Burn Rubber Riding Academy & Track Days นั้นชัดเจนในสิ่งที่แตกต่างกับสถานบันการขับขี่ที่มีอยู่หลากหลาย จุดเด่น
1. เป็นสถาบันสอนขับขี่รถแนวมอเตอร์สปอร์ตแห่งแรกในประเทศที่มีมาตรฐานระดับสากล
2. มีทีมผู้ฝึกสอนที่เคยเป็นทั้งนักแข่งอาชีพและผู้ฝึกสอนนักแข่ง ซึ่งมากประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในทักษะการขับขี่และองค์ความรู้ต่างๆ อย่างครบเครื่อง
3. จำนวนครูฝึก 1 คน ต่อนักเรียน 5 คน ทำให้ครูฝึกสามารถดูแล วิเคราะห์และพัฒนาการขับขี่ของนักเรียนได้อย่างใกล้ชิด
4. ใช้สนามแข่งที่มีมาตรฐานสูงสุดในการฝึกสอน
5. ให้ความสำคัญเรื่องความปลอดภัยในการขับขี่เป็นอันดับแรก
6. มีทีมแพทย์ภาคสนามผู้มีความเชี่ยวชาญ ดูแลอย่างใกล้ชิด (Doctor on track)
ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข่าวสารและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ๊ก Burn Rubber Riding Academy & Track Days สำหรับกิจกรรมครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่ไหน และเมื่อไหร่ มาดูกันในตาราง
29-30 มิถุนายน 2562 |
พีระ เซอร์กิต |
|
|
7-8 กันยายน 2562 |
ไทยแลนด์ เซอร์กิต |
|
|
19-20 ตุลาคม 2562 |
พีระ เซอร์กิต |
|
|
2-3 พฤศจิกายน 2562 (Legend) |
ช้าง อินเตอร์แนชั่นแนล เซอร์กิต |
|
|
7-8 ธันวาคม 2562 |
ไทยแลนด์ เซอร์กิต
|
|
|
#burnrubberacademy
#trackdays
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น