บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้าน โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัลแพลตฟอร์มของประเทศไทย ประกาศเปิดตัวนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) ซึ่งเป็นนิคมฯ ใหม่ล่าสุดลำดับที่ 10 ในประเทศไทยของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป โดยนิคมฯ แห่งใหม่นี้ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) พรั่งพร้อมด้วยระบบโครงสร้างพื้นฐานที่มีประสิทธิภาพและบริการด้านอุตสาหกรรมที่ได้มาตรฐานระดับโลก เตรียมรองรับนักลงทุนจากภาคอุตสาหกรรมต่างๆ โดยเฉพาะกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ อุตสาหกรรมหุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม รวมถึงอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีอันทันสมัยอื่นๆ
ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ได้ฉลองการลงนามในสัญญาซื้อขายที่ดินรายแรก จำนวน 280 ไร่ (44.8 เฮกตาร์) ในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 (WHA ESIE 3) กับบริษัท พรินซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือเฉิงซาน กรุ๊ป จากประเทศจีน เพื่อใช้เป็นที่ตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในประเทศไทย และในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการผลิตได้ราวกลางปี 2563 นี้
พรินซ์ เฉิงซาน เป็นบริษัทชั้นนำจากประเทศจีนที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (SEHK) เมื่อเดือนตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา ได้เลือกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ในเขตอีอีซีของประเทศไทยเป็นที่ตั้งโรงงานผลิตยางรถยนต์แห่งแรกในภูมิภาค โดยพรินซ์ เฉิงซาน จะทุ่มงบลงทุนสำหรับโครงการเฟสแรกราว 10,100 ล้านบาท (300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) สำหรับโครงสร้างพื้นฐานและวางสายการผลิต พร้อมตั้งเป้ากำลังการผลิตยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PCR) ต่อปี ไว้ที่ 4 ล้านเส้น และยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร (TBR) 800,000 เส้น โดยจะใช้พนักงานในช่วงแรกจำนวน 1,200 อัตรา และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเกินกว่า 2,000 อัตรา หลังจากเพิ่มกำลังการผลิตยางสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็น 10 ล้านเส้น และยางสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสารเป็น 2 ล้านเส้นในอนาคต
“นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวหนึ่งที่เรามีความภูมิใจที่ได้ต้อนรับพรินซ์ เฉิงซาน ไทร์ (ประเทศไทย) ในฐานะลูกค้ารายแรกสู่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ซึ่งเป็นนิคมฯ ลำดับที่ 10 ของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปในประเทศไทย” นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวและเสริมว่า “การเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของ พรินซ์ เฉิงซาน ยังเป็นถือก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์ บ่งบอกถึงศักยภาพของพื้นที่เขตอีอีซีในการดึงดูดนักลงทุนต่างชาติได้อย่างเด่นชัด และเราก็คาดว่าจะมีนักลงทุนเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรม ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เพิ่มมากขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งคิดเป็นเม็ดเงินลงทุนได้ราว 140,000 ล้านบาท (4.41 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า”
“ถือเป็นเกียรติอย่างสูงที่ได้รับเลือกจากพรินซ์ เฉิงซาน และขอต้อนรับสู่นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ” มร. เดวิด นาร์โดน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนต่างประเทศ บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าว “นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 มีสิ่งอำนวยความสะดวก และบริการระดับเวิลด์คลาส ตลอดจนระบบโครงสร้างพื้นฐานอันยอดเยี่ยม และทำเลที่ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ล้วนเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่ทำให้นิคมฯ แห่งนี้เป็นตัวเลือกที่พรั่งพร้อม ให้กับพรินซ์ เฉิงซาน ในการขยายธุรกิจและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันระดับโลกได้อย่างไม่ต้องสงสัย” มร. เดวิด กล่าวเสริม
“การจัดตั้งฐานการผลิตแห่งแรกในนิคมฯ ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ของประเทศไทยถือเป็นความก้าวหน้าครั้งสำคัญในการขยายธุรกิจของเรา” มร. เชอ หงจื้อ ประธานบริษัท เฉิงซาน กรุ๊ป กล่าว “หลังจาก 2 ปีที่เราได้เฟ้นหาและคัดเลือกทำเลสำหรับตั้งฐานการผลิต ก็พบว่าประเทศไทยเป็นประเทศที่ โดดเด่นด้วยชื่อเสียงการเป็นที่ยอมรับในฐานะผู้นำทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และไทยยังเป็นผู้ส่งออกยางธรรมชาติรายใหญ่ของโลกด้วย โครงการอีอีซีและนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 มีจุดเด่นสำคัญในด้านทำเลที่ตั้ง รวมถึงทรัพยากรบุคคลที่มีคุณภาพ สิ่งอำนวยความสะดวกและมาตรฐานบริการระดับสูง ระบบโลจิสติกส์และโครงสร้างพื้นฐานที่สะดวกสบาย ซึ่งส่งเสริมให้พื้นที่นิคมฯ นี้มีความโดดเด่นเหนือทำเลอื่นเป็นอย่างมาก ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญต่อการลงทุนของเราซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพทางการแข่งขันให้กับผลิตภัณฑ์ของพรินซ์ เฉิงซาน เราหวังที่จะสานความสัมพันธ์กับดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ อันจะเป็นประโยชน์ในระยะยาวแก่ทั้งสองฝ่าย”
ดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3: เขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมาย ภายใต้อีอีซี
นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เป็นนิคมฯ แห่งใหม่ล่าสุดของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีพื้นที่รวมทั้งสิ้น 2,198 ไร่ (ราว 869 เอเคอร์ หรือ 352 เฮกตาร์) ตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่อำเภอหนองใหญ่ จังหวัดชลบุรี ห่างจากกรุงเทพฯ และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประมาณ 138 กม. และ 111 กม. ตามลำดับ สามารถเดินทางได้สะดวกโดยใช้ทางหลวงหมายเลข 344 และ 3245 นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมอีกสองแห่งของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป คือ นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด (ระยอง) และนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 1 (WHA ESIE 1)
นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 มีจุดเด่นด้านโครงสร้างพื้นฐานที่มีมาตรฐานระดับสูง ถนนขนาดใหญ่กว้าง 30-35 เมตร รองรับน้ำหนักได้ถึง 20-40 ตันต่อตร.ม. บนพื้นดินแข็งแรง และอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล +80/+110 เมตร โดยมีการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคเป็นผู้จัดหากระแสไฟฟ้าระบบ 22 กิโลโวลต์และ 115 กิโลโวลต์ และมีบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (WHAUP) ดำเนินการจัดหาแหล่งพลังงานทางเลือก อาทิ พลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมีบริการสาธารณูปโภคต่างๆ ประกอบด้วยน้ำอุตสาหกรรม บริการบำบัดน้ำเสีย กระบวนการกำจัดขยะด้วยการฝังกลบ และโครงการวางท่อจัดจำหน่ายและค้าปลีกก๊าซธรรมชาติ ดำเนินการโดยดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์น ซีบอร์ด เอ็นจีดี 3 (WHA Eastern Seaboard NGD 3)
เช่นเดียวกับนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆ อีก 8 แห่งของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ที่ได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก ส่วนนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 เป็นเขตส่งเสริมนิคมอุตสาหกรรมเป้าหมายที่จะรองรับนักลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมใหม่ อาทิ อุตสาหกรรมยานยนต์แห่งอนาคต อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ รวมถึงอุตสาหกรรมอื่นๆ
เกี่ยวกับพรินซ์ เฉิงซาน
พรินซ์ เฉิงซาน ประเทศไทย เป็นบริษัทในเครือพรินซ์ เฉิงซาน (ซานตง) ไทร์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2519 ที่เมืองซานตง ประเทศจีน มีความเชี่ยวชาญในด้านการวิจัยและพัฒนา รวมทั้งการผลิตและจัดจำหน่ายยางรถยนต์ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตยางรถยนต์ที่ทรงอิทธิพลมากที่สุดแห่งหนึ่งของจีนในปัจจุบัน ในปี 2561 บริษัทมีพนักงานกว่า 4,500 คนในโรงงานผลิตที่เมืองหรงเฉิง มีผลประกอบการอยู่ที่ 24,500 ล้านบาท (772.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ผลิตยางธรรมดา ยางเรเดียลสำหรับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล (PCR) และยางเรเดียลสำหรับรถบรรทุกและรถโดยสาร (TBR) ได้รวม 15 ล้านเส้น จัดจำหน่ายภายใต้ 4 แบรนด์ ได้แก่ พรินซ์ เฉิงซาน ออสโตน และฟอร์จูน บริษัทได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2561 ที่ผ่านมา
พรินซ์ เฉิงซาน เป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมยางรถยนต์ มีความเป็นเลิศด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี งานวิจัยและพัฒนา และยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับและพัฒนาอุตสาหกรรมยางรถยนต์โดยรวมด้วย
เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดโลก พรินซ์ เฉิงซาน ได้ตัดสินใจลงทุนจัดตั้งโรงงานผลิตแห่งแรกในภูมิภาคที่นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 3 ภายใต้เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย โดยได้ทุ่มงบลงทุนระยะแรกราว 10,100 ล้านบาทเพื่อตั้งฐานการผลิตในภูมิภาค ในช่วงเริ่มต้น จะมีการรับพนักงานคนไทยจำนวน 1,200 อัตรา ซึ่งพรินซ์ เฉิงซาน จะดำเนินการฝึกฝนทักษะความรู้ที่จำเป็นในด้านต่างๆ ด้วยตนเอง
เกี่ยวกับดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป
บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป) ผู้นำอันดับหนึ่งในการให้บริการโซลูชั่นครบวงจรด้านโลจิสติกส์และนิคมอุตสาหกรรมของไทย โดยธุรกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ประกอบด้วย 4 กลุ่มธุรกิจหลัก ได้แก่โลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม ธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงาน และดิจิทัล แพลตฟอร์ม ด้วยบริการโซลูชั่นแบบครบวงจรสำหรับลูกค้า ทุกกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งในและนอกนิคมอุตสาหกรรม ดังนี้
·กลุ่มธุรกิจพัฒนาโลจิสติกส์ มุ่งให้บริการศูนย์กระจายสินค้า คลังสินค้า และโรงงานแบบ Built-to-Suit แบบ พรีเมียมที่ได้มาตรฐานระดับโลกแก่ลูกค้า โดยบริษัทฯ เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดการสร้างอาคารอุตสาหกรรมแบบ Built-to-Suit มาตั้งแต่ปี 2546 โดยปัจจุบันมีพื้นที่คลังสินค้าและโรงงานแบบ Built-to-Suit รวมทั้งสิ้นกว่า 2,300,000 ตารางเมตร บนทำเลที่ตั้งในจุดยุทธศาสตร์กว่า 19 แห่งทั่วประเทศ
·กลุ่มธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ในฐานะผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรมคุณภาพระดับโลก ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล ดีเวลลอปเมนท์ มีทั้งโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค คลัสเตอร์อุตสาหกรรม ได้แก่ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมยานยนต์ คลัสเตอร์อุตสาหกรรมปิโตรเคมี รวมถึงบริการอุตสาหกรรมต่างๆ ที่แข็งแกร่งและมีประสิทธิภาพ ปัจจุบันดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีนิคมอุตสาหกรรมทั้งสิ้น 11+ แห่งบนพื้นที่กว่า 48,627 ไร่ (19,225 เฮกตาร์) โดยส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในประเทศไทยที่จังหวัดระยอง ชลบุรี และสระบุรี ในปี 2561 คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (กรศ.) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการให้นิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ 9 แห่ง เป็นพื้นที่ เขตส่งเสริมอุตสาหกรรมเป้าหมายในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (อีอีซี) สอดคล้องกับพันธกิจของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ปในการมุ่งมั่นส่งเสริมการพัฒนา 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-curve) ของประเทศด้วย รวมถึงนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล โซน 1 – เหงะอาน ในประเทศเวียดนามอีกหนึ่งแห่ง
·กลุ่มธุรกิจสาธารณูปโภคและไฟฟ้า ในฐานะผู้ให้บริการด้านระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ให้กับลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมแต่เพียงผู้เดียว รวมถึงการร่วมลงทุนด้านไฟฟ้ากับผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าชั้นนำของโลก ดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป จึงสามารถสร้างความมั่นใจในการให้บริการด้านสาธารณูปโภคแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมได้อย่างต่อเนื่อง โดยบริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีกำลังการผลิตน้ำรวมถึง 105 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี และมีกำลังการผลิตไฟฟ้าตามสัดส่วนการถือหุ้นของโรงไฟฟ้าที่เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์รวม 521 เมกะวัตต์
·กลุ่มธุรกิจดิจิทัล บริษัท ดับบลิวเอชเอ อินโฟนิท จำกัด ในเครือดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป มีบริการดาต้าโซลูชั่น และดิจิตอลแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างครบครัน โดยมีบริการดาต้าเซนเตอร์ 4 แห่ง บริการไฟเบอร์ออพติก (FTTx) และได้เข้าถือหุ้นในเข้าถือหุ้นในบริษัท Supernap Thailand ตลอดจนมีการลงทุนด้านดิจิตอลอินฟราสตรักเจอร์ เพื่อรองรับการดำเนินธุรกิจเชิงอัจฉริยะของลูกค้า ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ
ความคิดเห็น