รัฐบาลประเทศไอร์แลนด์ มีแผนอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และฟื้นฟูสภาพอากาศ ด้วยการเริ่มห้ามให้มีการจำหน่ายยานพาหนะใหม่เกือบทุกประเภทที่ใช้เชื้อเพลิงจากน้ำมันเบนซิน และดีเซล โดยตั้งเป้าสามารถประกาศใช้ได้ภายในปี ค.ศ.2030 นี้
มาตรการห้ามจำหน่ายยานพาหนะใหม่ที่ใช้พลังงานจากน้ำมันเชื้อเพลิงนี้ จัดเป็นหนึ่งในมาตรการระยะยาวของรัฐบาลประเทศไอร์แลนด์ ที่ต้องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ซึ่งนอกจากมาตรการห้ามขายยานพาหนะพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงภายในปี 2030 ยังจะมีการห้ามผลิต และจำหน่ายพลาสติกที่ไม่สามารถรีไซเคิลได้ด้วยในปีเดียวกัน ซึ่งนโยบายลักษณะนี้เป็นนโยบายหลักในประเทศแถบยุโรปส่วนใหญ่ที่ผลักดันให้เกิดขึ้นมาพร้อมกัน
จากผลการสำรวจของรัฐบาลไอร์แลนด์ พบว่ามีการใช้ยานพาหนะที่ใช้เชื้อเพลิงจากฟอสซิลมากถึง 96.7% ซึ่งมากกว่าประเทศโซนยุโรปด้วยกันค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ รัฐบาลไอร์แลนด์ยังมีแนวคิดส่งเสริมการใช้งานยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ หรือรถจักรยานยนต์ ทว่าปัญหาหลักในตอนนี้ของยานพาหนะพลังงานไฟฟ้าที่ต้องพบคือ มีราคาค่อนข้างสูงกว่ายานพาหนะที่ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงปกติ โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์ที่มีราคาค่อนข้างสูงกว่ามาก
ทว่าเรื่องราคาอาจจะไม่ใช่ปัญหาในอนาคต เพราะขณะนี้ทิศทางของราคาแบตเตอร์รี่ที่ใช้งานกับยานพาหนะไฟฟ้านั้นปรับตัวลดลงตลอดทั้งปี โดยในช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ราคาแบตเตอร์รี่ในรถยนต์ไฟฟ้าปรับตัวลดลงถึง 79% และคาดว่าก่อนจะถึงปี ค.ศ. 2030 ราคาแบตเตอร์รี่จะลดลงจากปัจจุบันได้อีกสูงสุดถึง 67% โดยประมาณ ซึ่งนั่นก็จะทำให้ยานยนต์ไฟฟ้ามีราคาที่ถูกลงมากพอจนทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายยิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการคือ ต้องการให้มีรถพลังงานไฟฟ้าบนท้องถนนมากถึง 940,000 คัน ภายในปี 2030 พร้อมสิทธิประโยชน์ทางภาษีสำหรับผู้ครอบครองรถพลังงานไฟฟ้าให้มีมากกว่ารถพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิง เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้งานพลังงานไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
สำหรับในประเทศอังกฤษนั่น มีมาตรการเช่นเดียวกันประเทศไอร์แลนด์ แต่จะเริ่มแบนรถพลังงานน้ำมันเชื้อเพลิงอย่างจริงจังในปี ค.ศ. 2040 ซึ่งทางภาครัฐจะเริ่มนโยบายนี้ในปี ค.ศ. 2032
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น