"ลืมใบขับขี่" “ใบขับขี่หาย” ปัญหาหลักของผู้ใช้รถใช้ถนน เข้าด่านแต่ละทีมีปัญหาตลอด ต่อไปนี้ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป เพราะเรามี “ใบขับขี่อิเล็กทรอนิกส์”
เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา กรมการขนส่งทางบก เปิดให้บริการแอพลิเคชั่น “DLT QR Licence” ใบอนุญาตขับรถเสมือนจริงทางอิเล็กทรอนิคส์ ซึ่งสามารถใช้แทนใบขับขี่ใบจริงได้ และช่วยลดปัญหาใบขับขี่เลือนลาง ใบขับขี่หาย ได้อีกด้วย
แต่ที่ผ่านมา เวลาขับรถเข้าด่านแล้วถูกเรียกตรวจใบขับขี่ พอเราแสดงใบขับขี่อิเล็กทรอนิคส์ให้ดู ปรากฏว่าตำรวจไม่รับ และถามหาใบขับขี่ตัวจริง ตกเป็นข้อถกเถียงกันมากมายว่า ทำไมมาแล้วใช้ไม่ได้ ทำมาทำไม ฯลฯ ด้วยเหตุที่กรมขนส่งฯ และกรมตำรวจ รวมถึง พ.ร.บ.จราจรทางบก นั้นไม่มีการประสานงานร่วมกันที่ดีพอ แต่ในวันนี้ เราจะสามารถใช้เจ้าใบขับขี่อิเล็กทรอนิคส์กันได้อย่างเป็นทางการแล้ว
20 กันยายน 2562 พ.ร.บ.จราจรทางบก ฉบับใหม่ มีผลบังคับใช้อย่างเป็นทางการ หลังจากครบกำหนด 120 วันนับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2562 ที่ผ่านมา ใจความสำคัญคือ ตำรวจขอดูใบอนุญาตขับขี่แต่ห้ามยึด ประชาชนสามารถใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิคส์แทนตัวจริงได้ แต่ใช้ภาพถ่ายจากโทรศัพท์ไม่ได้
โดยความในพระราชบัญญัติจราจรทางบก ฉบับที่ 12 มีไฮไลท์สำคัญอยู่ที่มาตรา 6 และ 8
มาตรา 6 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 4/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
“มาตรา4/1 เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลและบังคับใช้กฎหมายให้เป็นไปตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้หรือตามกฎหมายอื่นอันเกี่ยวกับการจราจร ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติและกรมการขนส่งทางบกจัดให้มีข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับประวัติและการกระทำความผิดตามกฎหมายของผู้ได้รับใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลทะเบียนรถ และข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งให้มีการประสานข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ ตามระเบียบที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกร่วมกันกำหนด”
มาตรา 8 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 31/1 แห่งพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522
“ มาตรา 31/1 ในขณะขับรถในทางเดินรถ ผู้ขับขี่ต้องมีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวและต้องแสดงต่อเจ้าพนักงานจราจรเมื่อขอตรวจ
ในกรณีที่ผู้ขับขี่แสดงใบอนุญาตขับขี่ด้วยวิธีการทางข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์หรือสำเนาภาพถ่ายใบอนุญาตขับขี่ตามที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดให้ถือว่าผู้ขับขี่มีใบอนุญาตขับขี่อยู่กับตัวตามวรรคหนึ่งแล้ว”
โดยกฎหมายใหม่ฉบับนี้ นอกจากจะทำให้ผู้ใช้รถใช้ถนนสะดวกสบายมากขึ้นแล้ว ยังทำให้เจ้าหน้าที่เองก็ทำงานได้ง่ายขึ้นเช่นกัน เนื่องจากไม่จำเป็นต้องยึดใบขับขี่ เพราะระบบใบขับขี่อิเล็กทรอนิคส์ของกรมการขนส่งทางบก สามารถเปรียบเทียบปรับในระบบได้เลย เพียงแค่บันทึกข้อมูลเข้าระบบเท่านั้น
ส่วนต้นขั้วใบสั่ง จะถูกนำกลับไปหน่วยงานจราจรเพื่อลงบันทึกตัดแต้ม และเมื่อผู้ขับขี่มาจ่ายค่าปรับจะทราบได้ว่าถูกตัดแต้มไปเท่าไหร่แล้ว หากถูกตัดหมด 12 แต้ม จะถูกพักใช้ใบขับขี่ 90 วัน ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าอบรมใหม่ และต้องสอบให้ผ่าน จึงจะได้รับแต้มคืน
แบบนี้เราก็สามารถใช้ใบขับขี่อิเล็กทรอนิคส์ แทนใบขับขี่ตัวจริง ในการแสดงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจดู รวมถึงในการทำธุรกรรมต่างๆ ได้อย่างถูกกฎหมายและสบายใจ
ใครที่ยังไม่ได้โหลดแอพฯ DLT QR Licence ก็สามารถโหลดกันได้เลยนะครับ ไม่ว่าจะเป็น App Store หรือ Google Play
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น