812 Superfast ถือว่าเป็นรุ่นพี่ใหญ่แห่งตระกูล เฟอรารี่ เป็นรถรุ่นฉลองครบรอบ 70 ปีของ Ferrari แต่ยังต้องรับช่วงต่อจาก F12berlinetta ในฐานะโมเดลเครื่องยนต์ 12 สูบที่สร้างชื่อให้พวกเขามาอย่างยาวนาน และเป็นรุ่นที่ออกแบบให้เครื่องยนต์วางหน้าและไม่มีเทอร์โบแต่สามารถสร้างแรงม้าได้ถึง 789 แรงม้า ทะยานความเร็วทะลุ 200 กม./ชม. ในเวลาแค่ 7.9 วินาที…
อาจจะมีโอกาสไม่กี่ครั้งที่เราจะได้ทดสอบรถระดับ super car ที่มีแรงม้าระดับ 789 แรงม้า ค่าตัวประมาณ 30 กว่าล้าน ขึ้นอยู่กับของแต่งเพิ่มและค่าเงิน ผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Ferrari คาวาลลิโน มอเตอร์ ได้จัดให้มีการทดสอบขึ้น บนถนนจริงเพื่อ ให้ได้สัมผัสสมรถนะ ที่ได้ชื่อว่าเป็น ม้าลำพอง เครื่องวางหน้าที่แรงที่สุด
ทางทีมการได้จัดให้ทดสอบบนถนนจริง มีการนัดหมายสถานที่ พร้อมทั้ง สไลด์รถมาให้เพื่อสะดวกในการเดินทาง ภาพแรกที่เห็นจากภายนอก สีแดงสด Rosso Corsa รูปทรงของรถที่มีความสปอร์ตในสไตล์ Fastback และแนวทางดีไซน์แบบ Two-Box ทำให้ 812 Superfast มีด้านท้ายที่สูงเหมือนกับ Ferrari 365 GTB4 ปี 1969 การปรับตำแหน่งสปอยเลอร์หลังให้ต่ำลงช่วยเพิ่มแรงกด (Downforce) ให้รถมีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้ดีขึ้นเวลาขับด้วยความเร็ว โดยเส้นสายด้านข้างที่เป็นแนวเฉียงจากซุ้มล้อหน้าเป็นส่วนหนึ่งของระบบ Aerodynamic หรืออากาศพลศาสตร์ช่วยลดแรงต้านของกระแสลมที่ปะทะกับตัวรถ ล้อหน้า-หลังขนาด 20 นิ้วเป็นลาย Standard 5 ก้านจากที่มีให้เลือกทั้งหมด 6 แบบ ใช้ยาง Pirelli P Zero ขนาด 275/35 ZR20 สำหรับล้อหน้า และล้อหลังจะมีหน้ายางใหญ่กว่าเล็กน้อยที่ 315/35 ZR20 โดยเพิ่มความดึงดูดสายตาด้วยคาลิเปอร์เบรกสีเหลือง รวมทั้งมีออฟชั่นให้เลือกฝาครอบดุมล้อเป็นคาร์บอนไฟเบอร์สีดำที่มีความดุดันมากขึ้น และอัพเกรดน็อตล้อไทเทเนียมเข้ามาเพิ่ม
ด้านท้าย กับไฟทรงกลมทั้ง 4 ดวง ได้แรงบันดาลใจจากดีไซน์ดั่งเดิมที่เป็นเอกลักษณ์ของ Ferrari ถูกออกแบบให้ลงตัวกับเส้นตัดแนวนอนบนตัวถัง ทำให้หากมองจากภายนอก 812 Superfast เป็นรถสปอร์ตแบบ 2 ที่นั่ง ที่มีความกว้าง ทั้งที่ความจริงความกว้างของตัวถังเพิ่มขึ้นจาก F12berlinetta เพียงแค่ 29 มม. เท่านั้น รวมทั้งการปรับตำแหน่งพื้นที่ห้องโดยสารให้มีความสบายมากขึ้น โดยไม่เบียดเบียนพื้นที่ส่วนอื่นหรือที่เก็บสัมภาระด้านหลัง
ในส่วนของ Personalization Programme สำหรับตัวถังภายนอก (Body Components) มีให้เลือกทั้งหมด 37 โทนสี และออปชั่นให้เลือกเพิ่มเติมมากกว่า 10 รายการ โดยหลักๆ จะเป็นการเปลี่ยนเป็นวัสดุคาร์บอนไฟเบอร์ แต่ที่เจ้าของรถ Ferrari ทุกคนน่าจะสั่งมากที่สุดคงเป็นป้ายสัญลักษณ์ Scuderia Ferrari Shield ที่จะติดอยู่เหนือซุ้มล้อหน้าทั้ง 2 ฝั่งเพิ่มความคลาสสิกให้ 812 Superfast ที่จะต้องจ่ายเพิ่มอีกราว 100,000 บาท
การออกแบบภายในห้องโดยสาร Ferrari มีโปรแกรม Personalization Programme เพื่อให้เจ้าของรถเลือกวัสดุตบแต่งตามสไตล์ของตัวเอง แต่ทีมออกแบบไม่ลืมที่จะรักษาความพิเศษที่คุณสามารถสัมผัสได้ทันทีเมื่อขึ้นมานั่งบนรถเหมือนกับที่รถ Ferrari รุ่นเครื่องยนต์วางหน้า 12 สูบเคยเป็นมาตลอด แต่ 812 Superfast จะถูกเพิ่มอารมณ์สปอร์ต และความดุดัน ใส่เส้นสายที่เล่นมิติกับตำแหน่งปุ่มควบคุมต่างๆ ผสมผสานระหว่างความตื่นเต้นแบบรถแข่งกับความสง่างามที่ลงตัว
ภายในห้องโดยสารสามารถสัมผัสได้ถึงความประณีตของทีมช่างจากโรงงานผลิตที่เมืองมาราเนลโล่ ตั้งแต่การเดินตะเข็บด้ายสีแดงที่เพิ่มอารมณ์สปอร์ตด้วยแถบหนัง Alcantara โทนสีแดงพิเศษ Rosso Ferrari กลางเบาะนั่งทั้ง 2 ฝั่ง, คอนโซลหน้า และแผงข้างประตู รวมทั้งปักลายโลโก้ Prancing Horse ตรงพนักพิงศีรษะที่เป็นอีกหนึ่งออปชั่นพิเศษของ Personalization Programme ที่ให้ลูกค้าเลือกวัสดุตบแต่งทุกอย่างเพื่อให้รถ Ferrari ทุกคันมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละคัน
เครื่องยนต์ V12 6.5-litre ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่ของ 812 Superfast มีความแรงระดับ 789 แรงม้า และแรงบิดมหาศาลถึง 718 นิวตันเมตร ซูเปอร์คาร์ยุคนี้ไม่พูดกันที่ 0-100 กม./ชม. แต่กลายเป็น 0-200 กม./ชม. ที่รถคันนี้สามารถพาคุณไปผ่านไปด้วยเวลา 7.9 วินาทีเท่านั้น การทำงานของระบบเกียร์ 7 Speed F1 Dual-clutch หนึ่งในเทคโนโลยีที่ถ่ายทอดจากสนามแข่ง Formula One มีการปรับอัตราทดให้สั้นลงเฉลี่ย 6 เปอร์เซ็นต์จาก F12berlinetta ช่วยเพิ่มกำลัง และรอบเครื่องยนต์ที่สูงขึ้น อัตราเร่งที่ดีมาจากการพัฒนาระบบ Aerodynamic ที่เป็นหนึ่งในเคล็ดลับความสำเร็จของ Ferrari ตลอด 7 ทศวรรษ โดย 812 Superfast มีการติดตั้งกระจังหน้า Aero Cluster พร้อมช่องดักลมแบบ Active Diffuser ที่จะดูดลมที่ปะทะเข้ากับตัวรถให้ไหลผ่านออกทางฝากระโปรงหน้า, ด้านล่างตัวรถ, ด้านข้าง และด้านท้ายที่มีการทำ Aerodynamic by-pass เพื่อเพิ่มแรงกด (Downforce) ให้กับตัวรถมีประสิทธิภาพในการเกาะถนนดีขึ้น รวมถึงลดค่าสัมประสิทธิ์แรงต้านอากาศ (Coefficient of Drag) รวมทั้งใช้กระแสลมที่ไหลผ่านช่วยลดอุณหภูมิเบรกอีกด้วย
ถึงเวลาสัมผัสของจริงกันบนถนน หลังจากรับข้อมูลรายละเอียดต่างๆ และออปชั่นต่างๆ ที่มีมาให้กับ 812 Superfast เข้ามาด้านในกลิ่นหนังสัมผัสได้ถึงเอกลักษณ์ เบาะนั่งโอบกระชับตัวพื้นที่ในตัวรถถือว่ากว้างขวางพอสมควรถ้าเทียบกับรถสปอร์ต ทำให้นั่งแล้วไม่รู้สึกอึดอัด เริ่มการทดสอบ เฟอรารี่ ปุ่มควบคุมต่างๆจะอยู่ที่พวงมาลัยทั้งหมดเพื่อเป็นการไม่ให้ผู้ขับขี่เสียสมาธิในการขับ ออกตัวด้วยความเร็วต่ำกับการจราจรที่ติดขัด แรงม้าขนาด 789 แรงม้า กับตัวรถที่มีขนาดใหญ่ ในความคิดแรกของทีมงานขับยากแน่เลย แต่พอได้ขับจริงเป็นรถที่ขับขี่ง่ายด้วยระบบเกียร์ที่มีอัตราทดที่ดีแต่เมื่อต้องการเรียกกำลังจากเครื่องยนต์ด้วยเครื่องที่เป็นระบบ NA มีความรู้สึกได้ถึงแรงดึงอย่างต่อเนื่องซึ่งเป็นเสน่ห์อีกอย่างสำหรับเครื่อง NA รอบเครื่องที่กวาดอย่างรวดเร็วพร้อมความเร็วก็เช่นกัน พอเริ่มชินกับรถ เปลี่ยนโหมดมาเป็น Race กดคันเร่งเต็มกำลังออกตัวล้อฟรี แต่ยังมีระบบเข้ามาช่วยไม่ให้ฟรีทิ้ง วิ่งได้ 3 เกียร์ ล้อฟรี ทุกครั้งที่เปลี่ยนเกียร์เรียกว่าได้อารามณ์ ดิบมาก เป็นความตั้งใจของวิศวกรเพื่อให้รถขับขี่ได้อย่างสนุกแต่ก็ยังอยู่ในการควบคุมที่ดี
ถ้ามีอัตราเร่งที่ดีแล้วการคุมรถก็ง่ายดาย 812 Superfast มีการปรับปรุงระบบเบรกให้ดีขึ้นกว่า F12berlinetta ราว 5.8 % ด้วยการใช้เบรกคาร์บอน-เซรามิกรุ่น Brembo Extreme Design ทำให้หากขับด้วยความเร็ว 100 กม./ชม. จะใช้ระยะเบรกเพียง 2.5 เมตรเพื่อให้รถหยุดสนิท ทำให้มั่นใจได้ทุกครั้ง ในการขับขี่ และด้วยสภาพถนนที่แตกต่างกัน ตัวรถก็มีออปชั่นเสริมระบบ Front Suspension Lift เพื่อช่วยยกตัวรถให้สูงขึ้นอีก 40 มม. ในกรณีขับผ่านพื้นที่ต่างระดับหรือ ที่กั้นชะลอความเร็ว ทำให้ Ferrari ทุกรุ่นที่ขายอยู่ในปัจจุบันกลายเป็นรถที่สามารถใช้งานในชีวิตประจำวันจริงๆ ไม่จำเป็นต้องเก็บไว้ขับเพียงแค่วันหยุดแล้ว
สรุปสำหรับ 812 Superfast อาจจะได้สัมผัสในเวลาอันสั้น เราคงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการขับขี่มากนักเพราะด้วยชื่อเสียง ของ Ferrari ก็เป็นคำตอบได้ในทุกๆเรื่อง เพียงแค่แต่ละรุ่นของ Ferrari อาจจะมีคาแรคเตอร์ ที่แตกต่างกัน 812 Superfast มีความดุดดันในแบบผู้ใหญ่ รูปร่างหน้าตาที่มีขนาดใหญ่ดูน่าเกรงขาม ทำให้ดูเป็นผู้ใหญ่ การขับขี่ด้วยเทคโนโลยี สมัยใหม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆยิ่งทำให้รถมีการขับขี่ได้ง่ายขึ้นมาก แต่ที่เป็นเสน่จริงๆสำหรับ 812 Superfast คือ การมีเครื่องยนต์ V12 ไร้ระบบอัดอากาศ ซึ่งรถในรุ่นใหม่แทบจะหาไม่ได้แล้ว
ราคาเริ่มต้น: 787,000 ยูโร (ประมาณ 30.7 ล้านบาท)
เครื่องยนต์: V12 – 65องศา
ความจุกระบอกสูบ: 6,496ซีซี
กำลังสูงสุด: 588 กิโลวัตต์ (789 แรงม้า) ที่ 8,500 รอบ/นาที
แรงบิดสูงสุด: 718 นิวตัน เมตรที่ 7,000 รอบ/นาที
รอบเครื่องยนต์สูงสุด: 8,900 รอบ/นาที
ความเร็วสูงสุด : 340 กม./ชม.
0-100 กม./ชม.: 2.9 วินาที
0-200 กม./ชม. 7.9 วินาที
ความจุถังน้ำมัน: 92 ลิตร
อัตราสิ้นเปลืองน้ำมัน : 14.9 ลิตร/100กม.
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น