นิสสัน ลีฟ ใหม่ กับบทพิสูจน์อีกครั้งกับการเดินทางพร้อมสมรรถนะในการพิชิตยอดดอยอินทนนท์ ภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย ภายใต้การชาร์จไฟฟ้าเพียงครั้งเดียว
หลายคนอาจสงสัยถึงการใช้งานรถไฟฟ้า ว่าจะเดินทางไปไหนได้บ้างกับการชาร์จในแต่ละครั้งและในการทดสอบครั้งนี้ทางนิสสัน ประเทศไทย ได้จัดให้สื่อมวลชน ร่วมทดสอบนิสสัน ลีฟ ใหม่ ในระยะทางท้าทายกว่า 200 กิโลเมตร เริ่มต้นจากในตัวเมืองเชียงใหม่ ขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์ซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในประเทศไทย โดยมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 2,565 เมตร จากนั้นเดินทางกลับสู่ที่พัก ซึ่งการทดสอบขับนี้ ใช้พลังงานไฟฟ้าจากการชาร์จ เต็มเพียงครั้งเดียวเท่านั้น
ก่อนการเดินทาง ทางทีมงานได้ระบุเส้นทางต่างๆในการเดินทาง พร้อมรายละเอียดต่างๆของตัวรถ โดยได้สัมผัสกับสมรรถนะของรถยนต์พลังงานไฟฟ้าและการฟื้นฟูพลังงานไฟฟ้าขณะเบรกและชะลอความเร็ว หรือที่เรียกว่า regenerative braking system ที่สามารถชาร์จไฟฟ้ากลับได้
ซึ่งมีพื้นฐานการออกแบบของการพัฒนาเพื่อให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่เริ่มแรกการขับขึ้นสู่ยอดดอยอินทนนท์บนถนนที่มีช่องจราจรเดียวเป็นการทดสอบที่สามารถพิสูจน์สมรรถนะในแต่ละด้านของรถได้เป็นอย่างดี
และการขับลงในพื้นที่ลาดชัน ยังแสดงให้เห็นถึงระบบฟื้นฟูพลังงานที่เป็นไปอย่างเรียบง่ายของรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่ รวมถึงเทคโนโลยี e-Pedal ซึ่งเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในลีฟ โดยรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบอย่างลีฟ ได้ให้ประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมในการพิชิตภูเขาที่สูงที่สุดของประเทศไทยได้
ระบบฟื้นฟูพลังงาน ช่วยเพิ่มระยะทางในการขับขี่เมื่อใช้ชะลอความเร็ว มอเตอร์ไฟฟ้าเปลี่ยนพลังงานที่สูญเสียจากการเบรกกลับมาเป็นพลังงานไฟฟ้า เช่นระหว่างทางลดจากยอดดอยอินทนนท์ นิสสัน ลีฟ ใหม่สามารถสร้างพลังงานไฟฟ้ากลับมาได้สูงสุดถึงกว่า 20% ทั้งนี้ความสามารถดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการขับขี่และความลาดชันของเส้นทาง โดยการขับใน โหมด ‘B' ของลีฟ จะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้การฟื้นฟูพลังงานที่มากยิ่งขึ้นในขณะที่ชะลอความเร็ว
นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสทดลองใช้เทคโนโลยีต่าง ๆ ของนิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี (Nissan Intelligent Mobility) ที่เป็นนวัตกรรมใหม่ของลีฟ ในระหว่างการขับขี่รวมถึง e-Pedal เทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่เร่งความเร็ว ชะลอความเร็ว และหยุดนิ่งด้วยการใช้แป้นคันเร่งเพียงอย่างเดียว ทำให้ได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่สะดวกสบายมากขึ้นทั้งในเมืองและนอกเมืองได้อย่างเป็นอย่างดี
นิสสัน ลีฟ เป็นไอคอนของแนวคิดการเคลื่อนที่ในอนาคตของนิสสัน หรือ นิสสัน อินเทลลิเจนต์ โมบิลิตี ที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย อาทิ เทคโนโลยีช่วยเตือนเมื่อเสี่ยงต่อการชนด้านหน้าขณะขับขี่ (Forward Collision Warning – FCW) เทคโนโลยีช่วยเบรกฉุกเฉินอัจฉริยะ (Forward Emergency Braking – FEB) และเทคโนโลยีกล้องอัจริยะมองภาพรอบทิศทาง (Intelligent Around View Monitor – IAVM) ซึ่งให้มุมมองได้แบบ 360 องศา เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยเพิ่มระดับความปลอดภัยและเพิ่มความสะดวกสบายในการขับขี่บนภูเขาที่ท้าทาย
สำหรับเส้นทางทดสอบนี้ เป็นเส้นทางที่มีโค้งและสภาพสูงต่ำต่างกัน มีความแตกต่างด้านภูมิประเทศ ทำให้รถที่ขึ้นทางชันนั้นต้องการแรงบิดที่มาก ซึ่งนิสสัน ลีฟ ที่มีแรงบิดสูงสุดถึง 320 นิวตันเมตร สามารถให้อัตราเร่งอย่างน่าทึ่ง ทำให้การขับขี่ในทางขึ้นเขาเป็นไปอย่างง่ายดาย ท่าเปรียบเทียบพละกำลังของ ลีฟ ให้กำลังเทียบเท่า เครื่องยนต์ ดีเซล 2.5 turbo กันเลยทีเดียว หายห่วงเรื่องขึ้นเขา แต่สิ่งที่ดีงามที่สุดคือ รถไฟฟ้านั้นจะไม่ปล่อยมลพิษเลย เสียงรบกวนไม่มีมีแต่เพียงเสียงลมผ่านตัวรถและบดถนนเท่านั้น เป็นสิ่งที่ดีต่อการขึ้นเขาเป็นอย่างมาก รักษาโลก ถึงยอดดอย เปอร์เซ็นแบตเตอรี่ที่เหลือ 26% ด้วยการขึ้นเขาที่ต้องใช้พลังงานมากทำให้อัตราการใช้ไฟมากเป็นปกติ
ขากลับ ลงจากยอดเขา จะลอดไหมการเดินทางส่วนใหญ่เป็นขาลงดังนั้นเราแทบจะไม่ได้กดคันเร่งเลย และด้วยระบบ e-Pedal เทคโนโลยีอัจฉริยะที่ช่วยให้ผู้ขับขี่ ชะลอความเร็ว ในการขับขี่ยิ่งเป็นทางลงด้วยแล้ว ทำให้การลงเขาเป็นไปอย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น เมื่อเรายกเท้าออกจากคันเร่งทุกครั้งรถก็จะชะลอความเร็วลง พร้อมทั้งมีการชาร์จไฟกลับเขาแบตเตอรี่ ขับง่ายกว่ารถปกติที่ต้องเชนเกียร์ในการลงเขาหรือเบรกตลอดเวลา ลดการลึกหรอของเบรกไปด้วยอีกทาง ถึงโรงแรม แบตเตอรี่เหลือพลังงานอยู่ 11% ลอดจากการลงเขามาได้อย่างสบายๆ
บททดสอบนี้แสดงให้เห็นการทำงานของ นิสสัน ลีฟ ว่าสามารถใช้งานได้จริงในทุกการเดินทางแต่อาจจะต้องวางแผนในการเดินทางหน่อยถ้าออกนอกเมืองแต่ถ้าใช้ในเมืองรถติด เรียกว่าสบายมาก จะบอกว่าเป็นรถอนาคตก็ว่าได้เพราะถ้าการขึ้นเขาแบบไร้มลพิษนั้นเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับการเดินทางท่องเที่ยว
การทดลองขับนี้ พิสูจน์ให้เห็นอีกครั้งว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่เหมาะสมสำหรับการใช้ รถยนต์ไฟฟ้าอย่าง นิสสัน ลีฟ ใหม่ โดย ลูกค้าที่จอง ลีฟ ใหม่ จะได้รับการประกันคุณภาพรถยนต์เป็นเวลา 3 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร พร้อมการรับประกันระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าเป็นเวลา 5 ปี หรือ 100,000 กิโลเมตร และการรับประกันการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่เป็นเวลา 8 ปีหรือ 160,000 กิโลเมตร อีกด้วย
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น