นิสสันเตรียมจัดแสดงรถยนต์เด่น 14 รุ่นในงานโตเกียว มอเตอร์ โชว์ ครั้งที่ 46 รวมถึง ไอเอ็มเค (IMk) รถยนต์ต้นแบบที่ไร้มลพิษรุ่นใหม่ล่าสุด ตัวแทนการเคลื่อนที่อัจฉริยะของนิสสัน หรือ Nissan Intelligent Mobility ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคมถึง 4 พฤศจิกายน
ไฮไลท์ที่น่าสนใจ 6 รุ่นรวมถึงรถยนต์ต้นแบบได้แก่ 1. IMk : รถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองที่ไร้มลพิษ โดยนิสสัน ไอเอ็มเค (IMk) นับเป็นที่สุดของรถยนต์สำหรับการใช้งานในเมือง ด้วยเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยและอัตราเร่งแบบรถยนต์ไฟฟ้าที่ทรงพลัง ในรูปทรงขนาดกะทัดรัด ที่ถ่ายทอดการออกแบบในอนาคตของนิสสัน และมากกว่ารถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองที่มีฟังก์ชันหลากหลาย มันยังเป็นรถที่ออกแบบให้มีลักษณะเฉพาะตัวเพื่อลดความเครียดของผู้ขับขี่ พร้อมกับให้ความมั่นใจภายใต้แพลตฟอร์มของรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นใหม่อีกด้วย
ทั้งยังมีการติดตั้งเทคโนโลยีช่วยเหลือผู้ขับขี่ที่ล้ำสมัยรุ่นล่าสุดของโปรไพลอต (ProPILOT) รวมถึงคุณสมบัติการเชื่อมต่อที่ไร้รอยต่อ ไอเอ็มเค นำเสนอภาพรวมว่ารถยนต์สำหรับการใช้งานในเมืองจะมีรูปลักษณ์อย่างไรในอนาคตอันใกล้นี้
นอกจากนั้น ไอเอ็มเคยังได้สะท้อนให้เห็นถึงความเรียบง่ายจากการออกแบบใหม่ของนิสสันที่เรียกว่า Timeless Japanese Futurism ร่วมกับลักษณะเฉพาะหรือ "ดีเอ็นเอแบบญี่ปุ่น" ในรายละเอียดทั้งภายนอกและภายใน รถยนต์ต้นแบบนี้ได้เผยถึงทิศทางใหม่ของภาษาการออกแบบของนิสสันหรือ Nissan’s design language รวมถึงวิธีที่จะช่วยให้ นิสสัน อินเทลลิเจนท์ โมบิลิตี มีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น
2. Serena e-POWER: รถมินิแวนอเนกประสงค์ยอดนิยม พร้อมเทคโนโลยีที่ได้รับรางวัลมากมายอย่าง e-POWER รถมินิแวนอเนกประสงค์รุ่น เซเรนา (Serena) เป็นที่รู้จักกันอย่างดีว่า ใช้เทคโนโลยีขั้นสูงมากมาย อาทิ เทคโนโลยีช่วยเขับขี่ โปรไพลอต (ProPILOT) และ เทคโนโลยี e-POWER ซึ่งเปิดตัวในเดือนมีนาคม 2561 โดยระบบขับเคลื่อนไฟฟ้าภายใต้ เทคโนโลยี e-POWER ของเซเรนา ได้รับการคัดเลือกให้เป็นเทคโนโลยีแห่งปี 2562 โดยนักวิจัยด้านยานยนต์และการประชุมสื่อมวลชนของประเทศญี่ปุ่น หรือ Automotive Researchers’ and Journalists’ Conference of Japan (RJC) และด้วยการปรับปรุงในเดือนสิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาขณะนี้เซเรนา ได้ถูกเพิ่มการปกป้องด้านความปลอดภัยแบบ 360 องศาเป็นอุปกรณ์มาตรฐานในทุกรุ่น กระจังหน้าที่ได้รับการปรับแต่งเพื่อให้รูปลักษณ์ดูพรีเมียมและมีความสปอร์ต
3. Skyline ใหม่: ซีดานสปอร์ตระดับพรีเมี่ยมพร้อม ProPILOT 2.0 สกายไลน์ (Skyline) นับเป็นชื่อที่สื่อถึงเทคโนโลยีและความตื่นเต้นเร้าใจของนิสสันตั้งแต่สกายไลน์รุ่นแรกเปิดตัวในปี พ.ศ. 2500 สำหรับสกายไลน์รุ่นล่าสุดมาพร้อมกับเทคโนโลยีช่วยขับขี่ Pro-PILOT 2.0 ซึ่งเป็นระบบช่วยเหลือการขับขี่แบบแรกของโลกที่มีการรวมระบบนำทางและการควบคุมพวงมาลัยที่ไม่ต้องใช้มือบังคับ
เทคโนโลยีช่วยขับขี่ Pro-PILOT 2.0 ถูกออกแบบสำหรับการขับขี่ในทางหลวง โดยทำงานร่วมกับระบบนำทางของรถ เพื่อช่วยในการควบคุมรถให้วิ่งตามเส้นทางที่กำหนดไว้ล่วงหน้า ระบบนี้ยังช่วยให้การขับขี่แบบที่ไม่ต้องสัมผัสกับพวงมาลัย (hands-off) ขณะที่ขับขี่ในช่องจราจรเดียว นานเท่าที่ความใส่ใจของผู้ขับขี่อยู่บนท้องถนนเบื้องหน้าและผู้ขับขี่มีความพร้อมที่จะเข้ามาควบคุมรถเมื่อเกิดเหตุจำเป็น
4.LEAF e+: ระยะทางในการขับขี่และสมรรถนะที่เพิ่มมากขึ้น
นิสสันมียอดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า นิสสัน ลีฟ มากกว่า 430,000 คันทั่วโลกนับตั้งแต่เปิดตัวในปี พ.ศ. 2553 และหลังจากได้เปิดตัว ลีฟ อี-พลัส (LEAF e+) เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยการเพิ่มสมรรถนะและระยะทางในการขับขี่ที่เพิ่มขึ้น จากระบบขับเคลื่อนใหม่ ด้วยแบตเตอรี่ความจุ และความหนาแน่นสูง ทำให้เพิ่มระยะทางในการขับขี่มากขึ้นถึงกว่า 40% (โดยสูงสุดวิ่งได้ระยะทางถึง 458 กิโลเมตรภายใต้มาตรฐานการทดสอบ WLTC ของประเทศญี่ปุ่น) ทั้งนี้การใช้พลังงานที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยมมาพร้อมแรงบิดมหาศาลให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจมากยิ่งขึ้น
5.GT-R: สุดยอดสุนทรีย์แห่งการขับขี่กว่าเวลา 50 ปี
จีที-อาร์ รุ่นปี 2020 นี้ถ่ายทอดเทคโนโลยีและประสบการณ์จากการแข่งของนิสสันอย่างเต็มที่ ทั้งการทำความเร็วและประสิทธิภาพการควบคุมที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยสำหรับงาน Tokyo Motor Show ในปีนี้ นิสสันจะจัดแสดง จีที-อาร์รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี (GT-R 50th Anniversary special edition) และ จีที-อาร์ นิสโม (GT-R NISMO) รุ่นปี 2020
จีที-อาร์รุ่นฉลองครบรอบ 50 ปี : รุ่นพิเศษเพื่อการเฉลิมฉลองความเป็น จีที-อาร์ ที่มีความหรูหรา แต่มีความสปอร์ต รวมถึง เรื่องราวและความสามารถที่โดดเด่น โดยนำเสนอการตกแต่งภายในและภายนอก รวมถึงการใช้สีแบบทูโทน (two-tone color) อันที่เป็นเอกสิทธิ์ตามแบบฉบับของนิสสัน
6.จีที-อาร์ นิสโม รุ่นปี 2020: การปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับรุ่นปี 2020 นี้เพื่อการเฉลิมฉลองในวาระพิเศษ ได้แก่ เทอร์โบชาร์จเจอร์รุ่นใหม่เป็นรุ่นเดียวกับที่ใช้กับรถแข่งแบบ GT3 ในปี 2018 เบรกแบบคาร์บอนเซรามิกที่พัฒนาขึ้นใหม่ที่มีประสิทธิภาพการเบรกที่เหนือชั้น วัสดุภายนอกแบบคาร์บอนไฟเบอร์ คอมโพสิตใหม่ บริเวณหลังคา กระโปรงหน้า และ กันชนหน้า – มาพร้อมกับเบาะนั่งคู่หน้าของ Recaro แบบใหม่ ทำให้น้ำหนักลดลงกว่า 30 กิโลกรัม นอกจากนี้ช่วงล่างและระบบส่งกำลังได้รับการปรับจูนใหม่ ทำให้ จีที-อาร์ เป็นรถที่มีสมรรถนะมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น