แฟนๆ Autospinn หลายๆ ท่านที่ติดตามข่าวสารจากเพจเราอยู่เสมอ จะพอทราบได้ว่าราคาน้ำมันช่วงนี้ขึ้นลงผันผวนบ่อยมากกว่าปกติ อาทิตย์นึงขึ้นหรือลง 2 – 3 ครั้งเลยทีเดียว โดยเฉพาะอย่างยิ่งราคาของน้ำมันดีเซล B20 ที่ขึ้นมาทีเดียว 2 บาทเลยในช่วงวันที่ 1 ตุลาคมที่ผ่านมา ขนาดผมเองยังตกใจเลย เพราะปกติแล้ว น้ำมันดีเซล B20 นั้นจะมีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันดีเซลถึง 5 บาทเลยทีเดียว
ด้วยความสงสัยใครรู้ของตัวผมเอง งานนี้ผมก็ค้นคว้าหาข้อมูลมาให้แฟนๆ Autospinn ได้รับทราบกันครับว่า ทำไมราคาน้ำมันช่วงนี้มันแปลกๆ ไป?
ก่อนอื่นขอเลยคือขอเล่าพื้นฐานสภาพของการผลิตน้ำมันในบ้านเราก่อนครับ ประเทศไทยนั้นมีตัวเลขการนำเข้าน้ำมันดิบมากลั่นเพื่อจำเป็นน้ำมันสำเร็จรูปสำหรับจำหน่ายในประเทศสูงมากถึง 85% ของความต้องการใช้ ดังนั้นราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจะมีผลต่อราคาน้ำมันสำเร็จรูปในไทยค่อนข้างมาก โดยนำเข้าน้ำมันดิบจากประเทศแถบตะวันออกกลางราวๆ 170,000 บาร์เรลต่อวัน
ทว่าราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกไม่ได้มีผลต่อราคาน้ำมันในประเทศไทยในแบบทันที เนื่องจากราคาน้ำมันในไทยจะใช้ราคาตลาดโลกเฉลี่ย 3 – 7 วัน มาคิดคำนวณ และอย่างที่หลายๆ คนพอจะทราบอยู่แล้วว่า ราคาน้ำมันดิบของบ้านเราจะอ้างอิงตามราคาของดูไบ ส่วนราคาน้ำมันสำเร็จรูปที่กลั่นได้จะอ้างอิงตามราคากลางที่ตลาดสิงคโปร์ นอกจากนี้ยังต้องนำมาประกอบปัจจัยอื่นๆ ในการคำนวณหาราคาขายปลีกในประเทศอีกด้วย
Image by AdmiralFox from Pixabay
เล่ามาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัย “แล้วมันตอบคำถามตอนแรกมั้ยแอดมิน?” ใจเย็นๆ ก่อนนะครับ ผมจะตอบคำถามหลักก่อนคือ คำถามที่ว่า “ทำไมราคาน้ำมันช่วงนี้แปลกๆ ไป?” อันนี้ต้องย้อนไปยังเหตุการณ์ร้ายแรงในตะวันออกกลาง ซึ่งหลายท่านน่าจะได้ยินข่าวโรงกลั่นน้ำมันในประเทศซาอุดิอาระเบียถูกโดรนบินโจมตีเสียหายในวันที่ 14 กันยายน 2562 ซึ่งเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ต้องหยุดการผลิตไป และทำให้น้ำมันในตลาดโลกหายไปถึง 5% แต่สำหรับซาอุฯ แล้วคิดเป็นครึ่งนึงของกำลังการผลิตต่อวันเลย หรือราวๆ 5.7 ล้านบาร์เรล
มาถึงตอนนี้ก็เริ่มจะร้องอ๋อกันแล้วใช่มั้ยครับว่าทำไม ใช่ครับ เรานำเข้าน้ำมันดิบจากตะวันออกกลาง และซาอุฯ ก็คือประเทศในตะวันออกกลาง ดังนั้นเมื่อการผลิตลดลง แต่ความต้องการปริมาณน้ำมันดิบไม่ได้ลดลง ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกจึงเพิ่มสูงขึ้น ต่อมาซาอุฯ ออกมาประกาศว่าจะกลับมาผลิตได้ตามปกติภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ ทำให้ราคาน้ำมันปรับลดลงอีกครั้ง แต่นักลงทุนส่วนมากกลับไม่มั่นใจว่าซาอุฯ จะทำได้ตามแผนที่บอก ราคาจึงปรับตัวสูงขึ้นอีก นั่นเป็นเหตุผลทำไมราคาน้ำมันถึงปรับขึ้นลงบ่อยครั้งนั่นเอง
Image by IADE-Michoko from Pixabay
และการที่ราคาบ้านเราไม่ผันผวนมากเท่าราคาต่างประเทศเพราะบ้านเรามีกองทุนน้ำมันฯ ที่เราเคยได้ยิน ชื่อเต็มๆ ของกองทุนน้ำมันฯ ที่ว่านี่คือกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง แล้วกองทุนน้ำมันฯ นี้มีไว้ทำอะไร หน้าที่ของกองทุนน้ำมันฯ นี้คือ รักษาเสถียรภาพราคาน้ำมัน ไม่ให้ปรับขึ้นเร็วหรือสูงเกินไป จนกระทบผู้บริโภคอย่างเราๆ ท่านๆ นั่นเอง
เล่าให้ฟังอย่างง่ายๆ ว่า เมื่อราคาน้ำมันสูงขึ้นก็จะมีการลดอัตราการเก็บเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันฯ ให้น้อยลง ทำให้ราคาปลีกน้ำมันในประเทศคงที่ แต่ถ้าหากราคาน้ำมันดิบลดลงก็จะปล่อยให้เงินไหลเข้ากองทุนเพื่อชดเชยเงินในกองทุนน้ำมันฯ ดังนั้นราคาน้ำมันขายปลีกก็จะไม่ลดลงทันที ทั้งนี้ก็เพื่อให้มีเงินที่สามารถนำมาตรึงราคาน้ำมันตอนที่ราคาน้ำมันดิบขึ้นราคาได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมราคาน้ำมันบ้านเราถึงขึ้นลงช้ากว่าต่างประเทศ
ส่วนคำถามที่ว่าทำไมราคาน้ำมันดีเซล B20 ถึงได้ปรับขึ้นทีเดียว 2 บาท และราคาน้ำมันดีเซลปรับลง 1 บาท กลายเป็นว่าราคาของ B20 ถูกกว่าน้ำมันเพียงแค่ 3 บาทเท่านั้น สาเหตุก็คือ คณะกรรมการบริหารกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง (กบน.) มีมติปรับอัตราเงินส่งเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงใหม่
โดย กบน. ใช้วิธีปรับเพิ่มการอุดหนุนดีเซล B10 จากเดิมอุดหนุนอยู่ 95 สตางค์ต่อลิตร เป็นอุดหนุน 1.80 บาทต่อลิตร ส่วนดีเซล B20 ลดการอุดหนุนจาก 4.80 บาทต่อลิตร เหลือ 2.55 บาทต่อลิตร และดีเซลB7 หรือดีเซลธรรมดาที่เราทั่วไปรู้จักกัน ให้จัดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมันฯ เป็น 0.05 บาทต่อลิตร จากเดิมชดเชยอยู่ 10 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (คือปรับลดสภาพการติดลบของกองทุนน้ำมันให้น้อยลงจาก -813 ล้านบาทต่อเดือนเป็น -392 ล้านบาทต่อเดือน) หากติดลบมากๆ จนขาดสภาพคล่อง กองทุนน้ำมันฯ อาจจะล้ม อาจจะทำให้ราคาน้ำมันผันผวนมาก ส่งผลกระทบถึงประชาชนผู้บริโภคตาดำๆ อย่างเราหนักหน่วงแน่นอนครับ
ทั้งนี้ส่วนนึงก็เพื่อให้จูงใจให้คนหันมาเติมดีเซล B10 มากขึ้นแทนน้ำมันดีเซลเดิมนั่นเองครับ อ่านมาถึงนี้หลายๆ คนที่สงสัยก็น่าจะพอเข้าใจแล้วว่าทำไมราคาน้ำมันบ้านเราถึงเป็นแบบนี้นะครับ
ความคิดเห็น