การทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ถือเป็นขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ที่ควรมีก่อนการซื้อรถมอเตอร์ไซค์มาสักคันเสียอีก เนื่องจากใบขับขี่นี้จะเป็นใบอนุญาตให้ผู้ใช้ สามารถขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ 2563 ไม่ใช่เรื่องยาก
ในปัจจุบันนี้ ขั้นตอนการ ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปแล้ว โดยทุกท่านที่ต้องการทำ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ก่อนอื่นจะต้องทำการตรวจสอบคุณสมบัติของตัวเองก่อน ว่าเข้าเกณฑ์ที่ได้รับอนุญาติให้สามารถทำ ใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ได้หรือไม่ โดยมีเกณฑ์ดังนี้
1. อายุของผู้ที่จะทำใบขับขี่
- อายุของผู้ขับขี่ระหว่าง 15 - 18 ปีบริบูรณ์ สามารถขอรับ ใบขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ส่วนบุคคล ขนาดความจุกระบอกสูบไม่เกิน 110 ซีซี
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคลชั่วคราว ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปีบริบูรณ์
- ใบขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ ต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปีบริบูรณ์
2. มีทักษะในการขับขี่
3. มีความรู้เรื่องข้อบังคับตามพรบ.รถยนต์ และกฎหมายจราจรทางบก
4. ไม่เป็นผู้พิการจนเป็นที่เห็นได้ว่าไม่สามารถขับขี่ได้
5. ไม่มีโรคประจำตัวที่ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเห็นว่าอาจเป็นอันตรายขณะขับรถ
6. ไม่เป็นบุคคลวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือน
7. ไม่มีใบขับขี่รถชนิดเดียวกันอยู่แล้ว
8. ไม่เป็นผู้อยู่ระหว่างถูกยึดหรือเพิกถอนใบขับขี่
ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ใช้เอกสารอะไรบ้าง
เอกสารที่ใช้ในการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ได้แก่
- บัตรประชาชนตัวจริง*
- ใบรับรองแพทย์ ที่แสดงว่าผู้ขอรับใบขับขี่ ไม่มีโรคประจำตัวอันเป็นอันตรายต่อการขับขี่ และไม่เป็นบุคคลวิกลจริต โดยใบรับรองแพทย์ ออกก่อนวันยื่นคำขอไม่เกิน 1 เดือน
- ใบรับรองการอบรม (เฉพาะผู้ที่ไม่ได้อบรมที่กรมการขนส่งทางบก)
*กรณีชาวต่างชาติให้ยืนใบสำคัญบัตรประจำตัวคนต่างด้าว หรือหนังสือเดินทาง(PASSPORT) พร้อมสำเนา และให้ยืนใบสำคัญถิ่นที่อยู่หรือใบอนุญาตการทำงาน (WORK PERMIT) ที่ระบุที่พักอาศัยของผู้ขอรับใบอนุญาตขับรถ ซึ่งยังไม่สิ้นอายุ
ขั้นตอนการขอรับใบขับขี่มอเตอร์ไซค์
ในกรณีที่อบรมกับกรมการขนส่งทางบก ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องมีคิวอบรมก่อนดำเนินการอื่น ๆ โดยสามารถจองคิวอบรมได้ 3 ช่องทาง ได้แก่
- จองคิวอบรมด้วยตนเองพร้อมหลักฐานประกอบคำขอ
- จองคิวอบรมทางโทรศัพท์ผ่านหมายเลข 02-271-8888 ต่อ 4201-4 หรือโทร 1584 *สำหรับผู้ที่จองคิวทางโทรศัพท์ ต้องมาลงทะเบียนในวันที่นัดอบรมก่อนเวลา 08.00 เพื่อทำการทดสอบสมรรถภาพร่างกายก่อนเข้ารับการอบรม จากนั้น จึงดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
- จองคิวทางออนไลน์ สามารถจองคิวผ่านแอพฯ DLT Smart Queue
เมื่อท่านได้คิวอบรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ให้มาถึงกรมการขนส่งทางบก เขตพื้นที่ที่ท่านได้ลงคิวไว้ก่อนเวลา 08.00 น. เพื่อทำตามขั้นตอนต่อไป ดังนี้
1. ตรวจสอบเอกสาร และออกคำขอ
2. ทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ซึ่งเป็นการทดสอบที่สำคัญ หากทดสอบไม่ผ่าน จะไม่สามารถเข้าสู่ขั้นตอนการอบรม, การสอบทฤษฎี และการสอบปฎิบัติ อันส่งผลให้ไม่สามารถทำใบขับขี่ได้ ซึ่งการทดสอบนี้เป็นการทดสอบที่สำคัญ โดยจะมีการทดสอบทั้งหมด 4 อย่าง ได้แก่
- ทดสอบการมองเห็นสี ที่จำเป็นในการขับรถ
- ทดสอบสายตาทางลึก
- ทดสอบสายตาทางกว้าง มีเพียง 3 สีเท่านั้น คือ แดง เหลือง เขียว ไม่มีสีอื่น
- ทดสอบปฏิกิริยาเท้า (ความสามารถในการใช้เบรคเท้า)
3. อบรม (ไม่น้อยกว่า 5 ชั่วโมง) โดยเนื้อหาในการอบรมจะเกี่ยวกับความรู้เกี่ยวกับกฎหมายต่างๆ ที่ต้องรู้เกี่ยวกับการจราจร และการขับขี่อย่างปลอดภัย รวมถึงการดูแลรักษารถ เพื่อใช้ในการสอบข้อเขียนต่อไป
4. ทดสอบข้อเขียนผ่านระบบคอมพิวเตอร์ (E-exam) ทราบผลคะแนนได้ทันทีหลังส่งคำตอบ
5. ทดสอบขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยการทดสอบขับรถจักรยานยนต์ให้ใช้ท่าทดสอบ ดังนี้
- ท่าที่ 1 การขับรถมอเตอร์ไซค์โดยปฏิบัติตามเครื่องหมายจราจร
- ท่าที่ 2 การขับรถทางตัวบนทางแคบ โดยให้ขี่รถมอเตอร์ไซค์ขึ้นไปบนทางแคบ และให้ทรงตัวไว้ไม่ให้เท้าแตะพื้นเป็นเวลาประมาณ 10 วินาที
- ท่าที่ 3 การขับรถผ่านทางโค้งรัศมีแคบรูปตัว Z
- ท่าที่ 4 การขับรถผ่านทางโค้งซ้ายและโค้งขวารูปตัว S
- ท่าที่ 5 การขับรถหลบหลีกสิ่งกีดขวาง
ค่าใช้จ่าย ทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ชั่วคราวอยู่ที่ 105 บาท แบ่งเป็นค่าคำขอ 5 บาท และค่าใบอนุญาตชั่วคราว 100 บาท
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จดทะเบียนได้ไหม? หาคำตอบได้ที่นี่
รถป้ายแดง ขับตอนกลางคืนได้ไหม? หาคำตอบได้ที่นี่
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น