เอสเอไอซี มอเตอร์ – ซีพี จำกัด และ เอ็มจี เซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ เอ็มจี ในประเทศไทย จัดทริปพาสื่อมวลชนร่วมสัมผัสประสบการณ์การขับขี่แบบออฟโรดของ NEW MG EXTENDER กับบทพิสูจน์ความสามารถของระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ
รับชมรูปแบบวีดีโอได้ที่นี่
โดยรถที่เราใช้ในครั้งนี้ ก็คือ New MG Extender รุ่น Double Cab 2.0 Grand 4WD X 6AT ซึ่งเป็นรุ่น Top สุดในราคา 1.029 ล้านบาท ที่มาพร้อมกับการดีไซน์ที่มีความดุดัน แข็งแกร่ง ไฟหน้าแบบ LED Projector มีระบบเปิด-ปิด และปรับเลี้ยวตามองศาของพวงมาลัยอัตโนมัติ พร้อมไฟ DRL แบบ LED ในโคมเดียว โป่งล้อขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มมัดกล้ามอันบึกบึนของตัวรถ, ราวหลังคาสไตล์สปอร์ต, ไฟท้ายส่องสว่างแบบ LED ล้ออัลลอยขนาด 18 นิ้ว, กล้องมองภาพรอบคัน ที่ติดตั้งกล้องหน้าไว้ที่ชุดกันชนหน้า, กล้องด้านข้างซ้าย – ขวาติดตั้งที่กระจกมองข้าง และกล้องมองหลังติดตั้งไว้ที่มือจับฝาเปิดกระบะท้าย
MG Extender มีห้องโดยสารกว้างขวาง และนั่งสบาย เบาะนั่งคู่หน้าปรับไฟฟ้า วัสดุต่างๆ เป็นแบบ Soft Touch ให้ความรู้สึกพรีเมียม อีกทั้งยังมีช่องแอร์ และช่องเสียบ Power Outlet 12v สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในห้องโดยสารครบครัน ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่น, ปุ่ม Push Start, ที่วางแก้วน้ำบริเวณช่องแอร์เพื่อรักษาความเย็น, ช่องเสียบชาร์จไฟ USB, ที่วางของบริเวณคอนโซลหน้า, หน้าจอเครื่องเล่นระบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว ที่รองรับการเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่าน Bluetooth และ USB อีก 2 ช่อง มีระบบ i-Smart สามารถสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย สามารถค้นหาสถานที่, ร้านอาหาร, ที่พักโรงแรม, ปั้มน้ำมันใกล้เคียง เป็นต้น
เครื่องยนต์ดีเซลคอมมอนเรล ไดเร็คอินเจ็คชั่น ขนาด 2.0 ลิตร เทอร์โบแปรผัน ให้กำลังสูงสุด 161 แรงม้า ที่ 4,000 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 375 นิวตัน-เมตร ที่ 1,500 – 2,400 รอบ/นาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 สปีด และสามารถเลือกโหมดการขับขี่ได้ 3 โหมด ได้แก่ Normal, ECO และ Power พร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ 4WD ที่มีโหมดการขับขี่ 3 รูปแบบ ได้แก่ 2H, 4H และ 4L
การเดินทางในครั้งนี้ เริ่มสตาร์ทจาก บริษัท สื่อสากล จำกัด (สำนักงานใหญ่) ถนนรามคำแหง ปลายทางอยู่ที่ โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อนสี่ล้อ (Spirit Adventure Ground) จังหวัดนครนายก ซึ่งเป็นสนามที่มีความหลากหลายในการทดสอบ มีทั้งหมด 15 สถานี
เริ่มการทดสอบในสถานีแรก เป็นเนินสลับซ้ายขวาครับ ผมใช้โหมดการขับเคลื่อน 4L ใส่เกียร์ D แตะคันเร่งเบาๆ รถเคลื่อนที่ผ่านเนินไปได้แบบง่ายดาย
ต่อด้วยสถานีที่ 2 เป็นการขับขึ้น-ลง ทางลาดชัน ตอนขึ้นก็จะหวิวๆนิดนึงครับ เพราะหัวรถจะแหงนขึ้นฟ้า ทำให้มองไม่เห็นทาง ช่วงที่ลงทางลาดชัน ตัวรถมีระบบควบคุมความเร็วขณะลงทางลาดชัน เราสามารถปล่อยเบรกแล้วปล่อยไหลลงมาได้เลยครับ
สถานีที่ 3 เป็นทางทราย ขับผ่านได้แบบง่ายๆเลยครับ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สถานีที่ 4 เป็นเนินโค้งสลับ ต่อด้วย เนินเอียงขวา, ทางหิน, เนินเอียงขวาหักศอก, เนินเอียงขวาในร่องวี, เนินทรงแหลมเอียงขวา
มาถึงสถานีที่ 10 ซึ่งเป็นทางโคลนที่มีความลึกประมาณครึ่งล้อ ตอนแรกแอบเสียวๆว่าล้อจะจมแล้วหมุนฟรีขึ้นไม่ไหว แต่พอไปลงไปจริงๆ เพียงแค่กดคันเร่งลึกไปอีกนิด รถก็หลุดพ้นจากบ่อโคลนแบบสบายๆ จากนั้นต่อด้วยสถานี เนินทรงกลมลูกระนาด, เนินชันสั้น, ทางลงชัน
พอถึงสเตชั่นที่ 14 จะเป็นการขับผ่านน้ำที่มีระดับความลึก 50 ซม. วิธีขับผ่านที่ปลอดภัยก็คือ ปิดแอร์ เพื่อป้องกันความเสียหายของตัวรถ จากการที่ใบพัดหน้าเครื่องปั่นน้ำเข้ามา และในขณะที่ขับผ่าน ควรใช้วิธีการเลี้ยงรอบให้เหมาะสมกับความเร็ว ไม่ควรยกคันเร่งพราะอาจทำให้น้ำย้อนเข้ามาทางท่อไอเสีย สำหรับในสถานีนี้ ผมใช้รอบเครื่องอยู่ที่ประมาณ 1,500 รอบ ขับผ่านได้แบบสบายๆครับ
มาถึงสถานีที่ 15 ซึ่งเป็นสถานีสุดท้าย เป็นการขับผ่านทางน้ำเหมือนกันครับ แต่จะมีระยะทางที่ยาวกว่า และมีระดับน้ำลึกประมาณ 70-80 ซม. ผมเลี้ยงรอบอยู่ที่ประมาณ 1,500 รอบ ก็ผ่านมาได้แบบปลอดภัยทั้งคนและรถครับ
หลังจากที่ขับในสนามกันแบบจุใจ ก็ออกเดินทางต่อไปที่ไร่ผู้พัน เส้นทางที่มีลักษณะเป็นป่า ทางแคบ โค้งหักศอก เป็นเส้นทางที่มีจุดให้ลุ้นกันตลอดทาง แต่เจ้าเอ็กซ์เทนเดอร์ ก็สามารถขับผ่านทุกอุปสรรคไปได้ด้วยดีครับ
สรุปโดยรวม ระบบขับเคลื่น 4WD ใน NEW MG EXTENDER เท่าที่ได้ทดสอบ ได้ผลเป็นที่น่าพอใจครับ ผ่านไปได้ด้วยดีทุกเส้นทาง แบบไม่ต้องลุ้นเลย เป็นรถขับเคลื่อน 4ล้อ ที่ขับง่าย เพียงแค่มีทักษะในการควบคุมรถ ก็สามารถขับผ่านได้อย่างง่ายดาย
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
LINE
ความคิดเห็น