NIU NGT Sport รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า รุ่นใหม่ ที่ตอบสนองความต้องการของผู้ขับขี่ที่ต้องการรถที่มีขนาดกระทัดรัด แต่ยังมอบพละกำลังความแรง และคล่องตัวอย่างกลมกล่อม
NIU NGT Sport ยุคแห่งมอเตอร์ไซค์พลังงานไฟฟ้าเริ่มต้นแล้ว
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ฟังดูอาจจะไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กระแสนี้กลับมาแรงขึ้นเรื่อยๆ หลังปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในประเทศไทยกลับรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้มีท่าทีที่จะลดลงได้เลย พึ่งพาแต่เพียง "ลมพัดตามฤดูกาล" อาจจะช่วยให้สุขภาพของคนเราไม่ได้อย่างยั่งยืนนัก จึงเป็นเหตุให้การพูดถึง "รถพลังงานไฟฟ้า" เริ่มเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ประกอบกับปัญหาด้านมลพิษต่างๆ ที่มาจากหลากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรม, การก่อสร้าง รวมถึงการจราจร ก็ล้วนแล้วแต่ส่งผลให้เกิดอากาศพิษขึ้นในเมือง
ทว่าเรื่องอากาศพิษ ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่กลับเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาแล้วในหลายเมืองใหญ่ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นทางซีกยุโรป หรืออย่างจีนแผ่นดินใหญ่ ก็เคยประสบปัญหานี้เช่นกัน ซึ่งปัจจุบันประเทศเหล่านี้เขาสามารถแก้ไขปัญหาอากาศเสียได้ด้วยนโยบายต่างๆ ของผู้บริหารประเทศ ซึ่งแน่นอนว่านอกจากจะต้องจัดการกับธุรกิจใหญ่ๆ อย่างอุตสาหกรรม และการก่อสร้างแล้ว ก็ยังต้องจัดการกับคนกลุ่มใหญ่ที่ใช้งาน "พาหนะส่วนตัว" กันอีกด้วย เพราะที่ผ่านมาทุกคนล้วนใช้งานพาหนะพลังงานน้ำมันทั้งสิ้น จึงเป็นที่มาของการเริ่มบูมมากยิ่งขึ้นของ "พาหนะพลังงานไฟฟ้า"
ยุคแห่งพลังงานไฟฟ้ากำลังจะผงาด
ในยุคปัจจุบันบอกได้เลยว่าเป็นช่วงเวลาแห่งการเริ่มต้นเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานยานพาหนะใหม่ เมื่อโลกทั้งใบมุ่งที่จะหมุนไปหายานยนต์พลังงานไฟฟ้าเพื่อใช้งานแทนยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป โดยหลักของการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นมาจากนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อม ที่นับวันมันกลับแย่ลงเรื่อยๆ ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจำกัดในปัจจุบัน ล้วนส่งผลให้หลายๆ รัฐบาลทั่วโลกต่างมุ่งออกกฎเกณฑ์เกี่ยวกับค่าไอเสียของยานยนต์เครื่องยนต์สันดาปกันอย่างเข้มงวดขึ้นเรื่อยๆ จนในหลายๆ ประเทศเริ่มมีการตั้งกรอบเวลา "เริ่มต้นการห้ามขายรถที่ใช้น้ำมัน" กันแล้วในหลายประเทศ เช่นในประเทศอังกฤษที่จะห้ามขายรถเครื่องยนต์สันดาปส่วนบุคคลภายในปี ค.ศ.2035
พาหนะพลังงานไฟฟ้า จึงเป็นโลกใหม่แห่งวงการยานยนต์ เพราะสิ่งนี้สามารถขับเคลื่อนด้วยตนเองได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันแม้แต่หยดเดียว ทำให้มัน "ไม่มีไอเสีย" ซึ่งส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา และทำให้สอดรับกับนโยบายทางด้านสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่ทั่วโลกต่างตื่นตัว บีบคั้นรถพลังงานน้ำมันให้พัฒนาเพื่อลดค่าไอเสียลง จนสุดท้ายแล้วปลายทางคือพาหนะแทบจะทั้งหมดต้องไม่คายไอเสียออกมา ซึ่งนั่นก็คือพาหนะที่ใช้ระบบขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า
ค่าใช้จ่ายที่ถูกลง เป็นมิตรต่อกระเป๋าตัง เป็นมิตรต่อโลก
ในปัจจุบันนี้ พาหนะพลังงานไฟฟ้ากำลังมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ บนท้องถนน เห็นได้จากในฝั่งทวีปยุโรปที่รถยนต์พลังงานไฟฟ้ามีบทบาทในชีวิตประจำวันของผู้คนมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยทางด้านภาษีรถใหม่ ที่เกื้อหนุนให้ผู้คนหันมาซื้อรถพลังงานไฟฟ้ากันมากขึ้น ประกอบกับค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถแบบเดิม, สถานีชาร์จแบตเตอร์รี่ที่คลอบคลุม ทำให้เป็นแรงจูงใจที่ดี ที่ทำให้ผู้ใช้งานหันมาใช้รถพลังงานไฟฟ้ากันมากกว่าเดิม
NIU NGT Sport มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ทางเลือกใหม่แห่งการเดินทาง
เมื่อพูดถึง รถมอเตอร์ไซค์ สิ่งที่เราต้องการจากการใช้งาน รถมอเตอร์ไซค์ ภายในเมือง ปฎิเสธไม่ได้เลยนั่นคือ ความสะดวก ความคล่องตัวของมัน อันส่งผลไปถึงความเร็วในการเดินทางถึงจุดหมายที่น้อยลงกว่าเดิมมาก ซึ่งนี่คือเหตุผลทำให้ผู้คนจำนวนไม่น้อยล้วนหันมาใช้งาน รถมอเตอร์ไซค์ เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่าในเมืองใหญ่ของประเทศไทยอย่างกรุงเทพมหานคร และจังหวัดเชียงใหม่ เป็นต้น ล้วนมีปัญหาการจราจรที่ติดขัดเป็นปกติ รวมถึงระบบขนส่งสาธารณะที่ยังไม่ได้คลอบคลุมมากมายนัก ส่งผลให้ รถมอเตอร์ไซค์ เป็นที่นิยมได้อย่างไม่น่าแปลกใจ
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า จึงเป็นส่วนผสมที่ลงตัวกันระหว่าง "การรักโลก" และ "ความรวดเร็วในการเดินทาง" ออกมาได้อย่างกลมกล่อม แถมยังมีออปชั่นเสริมเข้ามาคือ "ค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่ถูกลงกว่าเดิม" อ่านดูแล้วชักจะน่าสนใจแล้ว เรามาเริ่มทำความรู้จักกับรถมอเตอร์ไซค์ทดสอบรุ่นแรกของเว็บไซต์ Autospinn กันก่อนดีกว่าครับ นั่นคือ NIU NGT Sport รถสกู๊ตเตอร์ตัวแรง สำหรับคนเมืองที่ต้องการความมันส์
NIU NGT Sport สานต่อยอดความสำเร็จของ N Series
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า แบรนด์ NIU ไม่ใช่ผู้เล่นหน้าใหม่แต่อย่างใดในตลาดบ้านเรา โดยหากท่านใดที่ได้ไปเดินตามห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่อย่าง Central เชื่อว่าทุกท่านน่าจะเห็นเจ้ารถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ารูปร่างหน้าตาทันสมัยหน้าร้านขายสินค้าไอทีชื่อดังจนชินตา ซึ่งนั่นคือ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าจาก NIU นี่แหละครับ โดยรถรุ่นที่เราจะนำมารีวิวในวันนี้คือ NIU NGT Sport หน้าตาจะเป็นอย่างไร การขับขี่จะดีไหม ไปติดตามกัน
NIU NGT Sport โดดเด่นเรื่องความคล่องตัว กลมกล่อมด้วยดีไซน์
NIU NGT Sport เป็นรถสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าที่หน้าตาละม้ายคล้ายรถสกู๊ตเตอร์เครื่องยนต์สันดาปทั่วไป ดีไซน์อันโดดเด่นของตัวรถเริ่มต้นจากไฟหน้า LED ทรงกลมที่รวมทั้งไฟสูงและไฟต่ำไว้ในโคมเดียวกัน และยังมีไฟ DRL ล้อมรอบเป็นวงกลมในโคมไฟด้วย เสริมความทันสมัยให้กับตัวรถได้เป็นอย่างดี ดูลงตัวเข้ากับชุดหน้ากากด้านหน้ารถสีขาวตัดแดง ที่สื่อถึงการปราศจากมลพิษ แต่ยังแฝงไปด้วยความแรง
หน้าจอเรือนไมล์แบบดิจิตอลสี บอกข้อมูลการขับขี่ครบครัน ไม่ว่าจะเป็นมาตรวัดความเร็ว, มาตรวัดแรงบิดของมอเตอร์ไฟฟ้า, มาตรวัดปริมาณแบตเตอร์รี่คงเหลือแบบเป็น %, มาตรวัดระยะทางใช้งาน, สัญลักษณ์การทำงานของ GPS, GSM, ระบบล็อกความเร็ว, โหมดการขับขี่ รวมถึงแจ้งเตือนการชาร์จแบตเตอร์รี่เมื่อใช้งานเบรก
ระบบกุญแจ เป็นกุญแจธรรมดา พร้อมรีโมท ซึ่งตัวรีโมทนี้สามารถสั่งล็อกรถ เพื่อเปิดสัญญาณกันขโมยได้, ปลดล็อกรถ, กดเรียกหารถได้ ส่วนทางด้านซ้ายเป็นช่องเก็บของ สามารถใส่ขวดน้ำขนาดครึ่งลิตร และโทรศัพท์สมาร์ทโฟนได้อย่างสบายๆ ในส่วนตรงกลางมีช่องแขวนสัมภาระ พร้อมช่อง USB จำนวน 1 ช่อง
พักเท้าของรถรุ่นนี้ มีขนาดที่กว้างใหญ่มาก โดยภายใต้พักเท้าจะเป็นส่วนของแบตเตอร์รี่ลูกที่ 1 ของรถที่ซ่อนอยู่ข้างใต้ด้วย
ทางด้านเบาะนั่ง เป็นเบาะนั่งตอนเดียว สูง 780 มม. โดยภายใต้เบาะนั่งมีช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ ซึ่งถูกใช้เป็นช่องสำหรับใส่แบตเตอร์รี่ลูกที่ 2 เอาไว้ โดยหากต้องการใช้ช่องเก็บของนี้ เราสามารถถอดแบตใต้เบาะออก และใช้แบตก้อนเดียวในการใช้งาน เพื่อเอาไว้ใช้เก็บสัมภาระได้ ทว่าต้องแลกกับพละกำลังของตัวรถ, ความเร็วสูงสุดที่ลดลงไป รวมถึงระยะทางการขับขี่ที่ลดลง เป็นการแลกเปลี่ยน
ด้านท้ายของตัวรถ ดีไซน์เป็นแบบเหลี่ยมๆ พร้อมไฟเบรก LED แบบเส้น ส่วนบริเวณล้อจะติดตั้งมอเตอร์ขับเคลื่อนไฟฟ้าตัวแรงขนาด 3000w. จาก Bosch
NIU NGT Sport จะชาร์จแบตแบบเสียบกับรถ หรือถอดแบตออกมาชาร์จก็ได้
NIU NGT Sport ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์กับการใช้งานในทุกรูปแบบชีวิต โดยเราสามารถเลือกที่จะชาร์จแบตเตอร์รี่ให้กับตัวรถด้วยการเสียบปลั๊กชาร์จเข้ากับตัวรถโดยตรงก็ได้ หรือถ้าหากว่าในจุดจอดรถภายในบ้าน หรือที่จอดรถนั้นไม่มีจุดชาร์จแบตเตอร์รี่ ก็สามารถถอดแบตฯ ออก แล้วนำไปชาร์จในบ้าน ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยน้ำหนักแบตเตอร์รี่รุ่นนี้อยู่ที่ก้อนละ 10 กิโลกรัมครับ
NIU NGT Sport สามารถเซอร์วิสรถได้ง่ายๆ ผ่านแอพฯ ในมือถือ
ในรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า NIU NGT Sport คันนี้ มีระบบการสื่อสารข้อมูลผ่านดาวเทียมแบบ 24 ชั่วโมง ตลอดเวลาที่เราใส่แบตเตอร์รี่ไว้ในรถ ทำให้เจ้าของรถสามารถตรวจสอบข้อมูลต่างๆ ของตัวรถได้ผ่านแอพลิเคชั่น NIU E-Scooter ซึ่งผู้ขับขี่สามารถตรวจเช็คการทำงานต่างๆ ของตัวรถผ่านโทรศัพท์มือถือได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งศูนย์บริการแต่อย่างใด และแอพฯ ตัวนี้ก็ใช้งานได้ง่ายมากๆ บอกข้อมูลครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปริมาณแบตเตอร์รี่ทั้ง 2 ลูก, ตำแหน่งที่จอดรถไว้, ดูเส้นทางการขับขี่ย้อนหลัง, ตรวจสอบสุขภาพของแบตเตอร์รี่, สถิติการขับขี่ เป็นต้น
ข้อมูลทางเทคนิค
มอเตอร์ขับเคลื่อน | 3000 w. จาก Bosch |
แบตเตอร์รี่ | ลิเทียมไอออน 18650 ความจุ 26 Ah แรงดันไฟฟ้า 60 V. |
ระยะทางใช้งาน | 80 - 110 กม. |
ระยะเวลาชาร์จแบตเตอร์รี่ | 3 ชั่วโมงต่อก้อน |
ความเร็วสูงสุด | 82 กม./ชม. |
ตัวรถ
เฟรม | อันเดอร์โบน |
โช๊คหน้า | เทเลโกปิค |
โช๊คหลัง | สปริงคู่ |
เบรคหน้า | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 220 มม. พร้อมปั้มเบรค 3 พอต และระบบกระจายแรงเบรก |
เบรคหลัง | ดิสเบรคเดี่ยว ขนาด 180 มม. พร้อมปั้มเบรค 1 พอต และระบบกระจายแรงเบรก |
ยางหน้า | 90/90 R12 |
ยางหลัง | 120/70 R12 |
มิติรถ
ขนาด กว้าง x ยาว x สูง (มม.) | 725 x 1,815 x 1,185 |
ความสูงเบาะ | 780 มม. |
ความสูงจากพื้นถึงเครื่อง | 175 มม. |
น้ำหนักตัวพร้อมใช้งาน | 105 กก. |
NIU NGT Sport ใครๆ ก็ขี่ได้ ง่ายสบายมือ
ในส่วนของการทดสอบขับขี่ NIU NGT Sport ผมได้มีโอกาสอยู่กับรถคันนี้ถึง 1 สัปดาห์เต็มๆ เพื่อเรียนรู้ทั้งระบบต่างๆ ของตัวรถ รวมถึงการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางข้ามฝั่งเมือง, เดินทางไปทำงานเข้าออฟฟิส รวมถึงไปซื้อของที่ห้างฯ
พบว่ารถคันนี้เป็นรถที่ขี่ได้ง่ายมากๆๆๆๆ (ใส่ ก ไก่สัก 1 ล้านตัว) เพราะด้วยศูนย์ถ่วงของตัวรถอันเนื่องมาจากเฟรมแบบอันเดอร์โบน และตำแหน่งการวางแบตเตอร์รี่ต่างๆ วางอยู่ใต้เท้าผู้ขับขี่ทั้งสิ้น ทำให้สัมผัสได้ว่าน้ำหนักส่วนใหญ่ของตัวรถอยู่บริเวณใต้เท้าผู้ขับขี่ นั่นส่งผลให้ศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำมากๆ ทำให้รถขับขี่ได้ง่าย คล่องตัว พลิกรถได้ง่ายมาก ประกอบกับน้ำหนักของตัวรถที่เบามากเพียง 105 กิโลกรัมเท่านั้น ทำให้ทุกครั้งที่ขับขี่ เต็มไปด้วยความง่าย และสนุก
คันเร่งไฟฟ้าอันแสนนุ่มนวลที่คอยควบคุมการทำงานของมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 3000w. ที่มอบพละกำลังแรงบิดช่วงต้นสูงมากๆ บอกเลยว่าเปิดโหมด Sport กระแทกคันเร่งใส่ พอมอเตอร์ไฟฟ้าทำงานปุ้บมีดึงกันแขนตึงเลยทีเดียว โดยแรงบิดของรถจะถ่ายทอดออกมาได้อย่างต่อเนื่องจนถึงช่วงความเร็วประมาณ 50 กม./ชม. จะเริ่มมาแบบเรื่อยๆ จนถึงความเร็วสูงสุดที่ 80 กม.ชม. ตัวมอเตอร์ไฟฟ้าจะไม่ทำงานเต็มแรง เพื่อประหยัดพลังงานแบตเตอร์รี่ไปในตัว
ในส่วนของโหมดการขับขี่ทั้ง 3 โหมด ได้แก่โหมด E-Save, Dynamic และ Sport ฟิลลิ่งจะไม่เหมือนกับการปรับโหมดการขับขี่แบบรถมอเตอร์ไซค์ปกติ แต่จะเหมือนเรา "เปิดพัดลม" เบอร์ 1-3 อะไรประมาณนี้ โดยความเร็วสูงสุดในช่วงโหมดต่างๆ เป็นดังนี้
1. โหมด E-Save ความเร็วสูงสุด 21 กม./ชม. แรงบิดถ่ายทอดมาตั้งแต่ 0 ถึงความเร็วสูงสุด เป็นโหมดที่ประหยัดพลังงานสุด
2. โหมด Dynamic ความเร็วสูงสุด 48 กม./ชม. แรงบิดถ่ายทอดมาตั้งแต่ 0 ถึงความเร็วสูงสุด เป็นโหมดที่ประหยัดพลังงานระดับปานกลาง
3. โหมด Sport ความเร็วสูงสุด 80 กม./ชม. แรงบิดถ่ายทอดมาตั้งแต่ 0 ถึงความเร็ว 50 กม./ชม. ก่อนจะเริ่มไหลเรื่อยๆ ถึงความเร็วสูงสุด เป็นโหมดที่สิ้นเปลืองพลังงานสูงสุด เพื่อแลกกับความเร็วที่มากขึ้น
การขับขี่ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ให้ฟิลลิ่งที่ไม่เหมือนกับรถมอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปในเรื่องที่ชัดเจนที่สุดคือ "Engine Break" หรือเบรกเครื่องยนต์ หรือเอนจิ้นเบรก สุดแท้แต่จะเรียกกัน ซึ่งในรถคันนี้ "ไม่มี" ใช่ครับ ไม่มีเอนจิ้นเบรก ซึ่งในจุดนี้ข้อดีก็คือ เราสามารถประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้ด้วยปล่อยให้รถไหลไปเรื่อยๆ แต่หลายๆ ท่านอาจจะยังไม่ชินกัน ต้องอาศัยการปรับตัวเข้าหารถ และอีกสิ่งหนึ่งคือทุกครั้งที่เราใช้งานเบรก รถจะทำการชาร์จไฟฟ้าเข้าไปแบตเตอร์รี่ทันที ด้วยแรงเฉื่อยจากการเบรกครับ ซึ่งระบบเบรกของรถรุ่นนี้จัดว่าเป็นสิ่งที่ดีงามอีกหนึ่งอย่าง ด้วยดิสเบรกหน้าหลัง พร้อมระบบกระจายแรงเบรก แม้ว่าเราจะขับมาเร็วแค่ไหน ก็สามารถหยุดได้อย่างมั่นใจ ไม่มีอาการเหวอว่าจะเบรกไม่อยู่ ในจุดนี้ถือว่าทำได้เยี่ยม
ช่วงล่างเดิมๆ ของตัวรถ ถูกเซ็ตออกมาเป็นลักษณะของรถสปอร์ต เนื่องด้วยมีความมั่นคงในการยึดเกาะสูง เข้าโค้งแรงๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องยกคันเร่งให้มากมาย ให้ความมั่นใจในการขับขี่ได้ดี แต่ย่อมต้องแลกกับความกระด้างที่มีไม่น้อย การเข้าโค้งของรถรุ่นนี้ทำได้ง่ายมากๆ เนื่องด้วยศูนย์ถ่วงของตัวรถที่ต่ำมาก และช่วงล่างที่เซ็ตมาเพื่อการนี้
ในส่วนของแบตเตอร์รี่ของรถรุ่นนี้ สามารถขับขี่ได้ระยะทางสูงสุดที่ 80 กม. ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง และการชาร์จแบตเตอร์รี่จะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อ 1 ลูก หรือ 4-6 ชั่วโมง สำหรับ 2 ลูกครับ
NIU NGT Sport มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า คันนี้ เหมาะกับใคร?
โดยสรุปแล้วสำหรับ NIU NGT Sport รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าคันนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการพาหนะรักโลกแต่ยังต้องการเดินทางไปด้วยความรวดเร็วในระยะทางที่แน่นอน ด้วยค่าใช้จ่ายการใช้งานต่อกิโลเมตรที่ถูกกว่ามอเตอร์ไซค์เครื่องยนต์สันดาปค่อนข้างมาก ประกอบกับการดูแลรักษารถที่ง่าย แถมยังมีพละกำลังมากพอที่จะใช้สำหรับขี่สนุกๆ ทำให้รถคันนี้เหมาะสำหรับคนทุกเพศ ทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ไม่เคยขี่มอเตอร์ไซค์ หรือมือเก๋าที่อยากหาอะไรสนุกๆ ไว้ใช้งาน NIU NGT Sport คันนี้ตอบโจทย์ครับ
สำหรับท่านที่สนใจ สามารถไปชมตัวจริงได้ที่ตัวแทนจำหน่ายรถจักรยานยนต์ NIU ครับ ในราคาจำหน่ายที่ 109,000 บาท
บททดสอบโดย กฤตนู วิเศษไชยศรี
ภาพโดย Nattapong.T, Kittipong.A
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าในไทยมีรุ่นอะไรบ้าง อ่านได้ที่นี่
ชมเทคโนโลยี EV Bike สุดเจ๋ง อ่านได้ที่นี่
เช็คราคารถใหม่ และโปรโมชั่น ได้ที่นี่ ที่นี่
ต้องการซื้อรถมือสอง ตรวจสอบราคารถยนต์มือสอง เชิญที่นี่
มาร่วมแชร์ความเห็นของคุณบนเวบบอร์ด Autospinn คลิกที่นี่
ความคิดเห็น