ส่องค่า API คืออะไร สังเกตง่ายนิดเดียว

ค่า API นำมาการันตีว่าน้ำมันเครื่องมีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับ และพบเห็นได้บนฉลากน้ำมันหล่อลื่น แต่ความจริงแล้วมาตรฐานนี้มีที่มายังไง และควรใช้แบบไหนให้เหมาะกับรถแต่ละรุ่น เรามาดูกันครับ

ค่า API คืออะไร

API ย่อมาจาก American Petroleum Institute เป็นหน่วยงานทดสอบคุณภาพน้ำมันเครื่อง ทั้งเรื่องการหล่อลื่น การระบายความร้อน การชะล้างทำความสะอาด ฯลฯ และทำการแบ่งเกรดเป็นระดับต่างๆ โดยน้ำมันเครื่องแต่ละรุ่นต้องผ่านการทดสอบตามเงื่อนไขที่กำหนด เพื่อให้ผู้ใช้มั่นใจได้ว่าน้ำมันเครื่องรุ่นนั้นๆ มีคุณภาพที่ดีจริง และจะมีการเพิ่มระดับการแบ่งเกรดให้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เหมาะกับเครื่องยนต์ที่มีการพัฒนาขึ้นด้วยเช่นกัน โดยแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ เบนซินและดีเซล

API S และ API C ต่างกันอย่างไร?

กลุ่มที่ 1 คือ API  S คือ “Spark Ignition” คือการจุดระเบิดด้วยหัวเทียนสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน

กลุ่มที่ 2 คือ API C คือ “Compression Ignition ‘คือการจุดระเบิดด้วยแรงอัดสำหรับเครื่องยนต์ดีเซล

สิ่งเหมือนกันของมาตรฐาน API S และ API C

ทั้งสองตัวอักษร S หรือ C จะตามด้วยตัวอักษรตัวที่สองซึ่งจะเป็นตัวกำหนดคุณภาพมาตรฐานของน้ำมันเครื่อง ที่พัฒนาคุณสมบัติน้ำมันเครื่องไปตามความต้องการของเทคโนโลยีเครื่องยนต์

• โดยเครื่องยนต์เบนซินจะเริ่มต้นด้วยตัว "SA" ซึ่งเป็นค่า API สำหรับรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 1930 โดยปัจจุบันพัฒนามาถึง "SN" เหมาะกับเครื่องยนต์เทคโนโลยีที่ผลิตตั้งแต่ปี 2011 เป็นต้นไป
• ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลจะเริ่มต้นด้วยตัว "CA" ซึ่งเป็นค่า API สำหรับรถยนต์ที่ผลิตก่อนปี 1961 จนปัจจุบันพัฒนามาถึง “CI-4” และ "CK-4" ซึ่งเหมาะกับเครื่องยนต์เทคโนโลยีที่ผลิตตั้งแต่ปี 2004 และ 2006 เป็นต้นไป

เลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มี API อย่างไรให้เหมาะกับรถ?

การเลือกใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API แนะนำว่าไม่ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีคุณภาพต่ำกว่าที่รถรุ่นนั้นควรใช้ เช่น รถเครื่องยนต์เบนซินที่ผลิตในปี 2011 เป็นต้นไป ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐาน API SN แต่ไม่ควรใช้น้ำมันเครื่องที่มีมาตรฐานต่ำกว่าอย่าง API SM, API SL และ API SJ ซึ่งผู้ใช้รถสามารถตรวจสอบตารางและเอกสารคู่มือประจำรถว่ารถของคุณควรใช้น้ำมันเครื่องที่มี API เกรดไหน และไม่ควรใช้เกรดต่ำกว่านั้น

มาตรฐาน API ของประเทศไทยในปัจจุบัน

ปัจจุบัน มาตรฐานสูงสุดของน้ำมันเครื่องยนต์เบนซินจะอยู่ที่ API-SN เน้นเรื่องการประหยัดเชื้อเพลิงสูง, ปกป้องเทอร์โบชาร์จ และปกป้องระบบควบคุมการปล่อยไอเสียได้ดี

ส่วนในฝั่งเครื่องยนต์ดีเซลจะมีมาตรฐานสูงสุดตามสากลอยู่ที่ API CK-4 แต่สำหรับในไทยยังส่วนมากยังเป็นมาตรฐาน API CI-4 และ API CK-4 สำหรับเครื่องยนต์ 4 จังหวะ เป็นเกรดที่ออกแบบมาให้สอดคล้องกับมาตรฐานน้ำมันเชื้อเพลิงการปล่อยไอเสียเป็นหลักคล้ายกับ API-SN เช่น ต้องมีคุณสมบัติที่ดีในการรับมือกับเขม่า และควบคุมการสะสมสิ่งสกปรกบริเวณลูกสูบได้ดี

สรุปแล้ว สามารถเช็คมาตรฐาน API ได้บนฉลากของน้ำมันเครื่อง ซึ่งมี 3 สิ่งที่ต้องสังเกตคือ

• API เป็นมาตรฐานหนึ่ง ที่บอกถึงคุณภาพของน้ำมันเครื่อง
• ตัวอักษรหลัง API  ตัว S ใช้กับเครื่องยนต์เบนซิน  ตัว C ใช้กับเครื่องยนต์ดีเซล
• ตัวอักษรที่อยู่ท้ายสุด ไล่จาก A-Z ตัวอักษรยิ่งใกล้ตัว Z คือมาตรฐานสูงขึ้น

หากเลือกน้ำมันเครื่องครั้งต่อไปมองหาน้ำมันเครื่อง ที่มีสัญลักษณ์ API SN สำหรับเครื่องยนต์เบนซิน และ CJ-4 สำหรับเครื่องยนต์ดีเซลนะครับ อย่างเช่นน้ำมันเครื่องอิเดมิตสึ เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดสำหรับรถคุณ

ติดตามข่าวรถยนต์ ราคารถยนต์ รีวิวรถยนต์ และจักรยานยนต์ทุกยี่ห้อ กับเรา Autospinn

แชร์ความคิดเห็นบนเว็บบอร์ด Autospinn คลิกเลย webboard.autospinn.com  

เช็คโปรโมชั่นรถใหม่ เช็คราคารถใหม่ ได้ที่นี่ 

ราคารถมือสอง ซื้อรถมือสอง ขายรถมือสอง เชิญได้เลยที่ one2car